ตบเท้าร้องกกต. โพยฮั้วสว. เจอในห้องส้วม “กล้านรงค์” จี้สอบไม่โปร่งใส

กลุ่มผู้สมัคร สว.รุมร้อง กกต. สอบชุดตัวเลขมหัศจรรย์ กาเหมือนกันเป๊ะกว่า 20 ใบ “กุสุมาลวตี” ฉะทำลายประชาธิปไตย กังขา “แสวง” เด็กเซราะกราวใกล้ชิด “ลุงชัย” ห่วงไม่ได้รับความเป็นธรรม อดีตบิ๊ก ตร.โชว์โพยตกในห้องน้ำ แฉอ่าน สว.3 ยังไม่จบกาเสร็จแล้ว “กล้านรงค์” ทำหนังสือด่วนที่สุด จี้ ปธ.กกต.สอบโกงฮั้วให้หายสงสัย ชี้มีเหตุอันควรเชื่อเลือก สว.ไม่สุจริต-เที่ยงธรรม “หนู” ปัดวุ่น ภท.ไม่มีเอี่ยว รู้จักไม่เกิน 20-30 คน รับ “บิ๊กเกรียง” เพื่อน วปอ.“ทักษิณ” จวกปฏิวัติทำระบบพัง ออกตัวเป็นคนแก่ไม่มีมนต์ขลังแล้ว “สุริยะ” ไม่เชื่อ “นายใหญ่” เสื่อมมนต์ “พรเพชร” โอ่งัดผลงานโต้เสียงดูแคลน “เศรษฐา-อิ๊งค์” จุดพลุ THACCA SPLASH “ทักษิณ” ชูศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์ นายกฯเดินสายปราบยาเสพติดที่ร้อยเอ็ด วอนเด็กอยู่ห่างเพื่ออนาคต กมธ.งบฯติง สลน.มุ่งแต่สัมมนากลุ่มผู้สมัคร สว. รุมยื่นคำร้องต่อ กกต. ให้ตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลการเลือก สว.ระดับประเทศ ที่พบความผิดปกติ ไม่สุจริตโปร่งใส ขณะที่นายกล้าณรงค์ จันทิก ประธาน กมธ. กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ วุฒิสภา ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงประธาน กกต. ขอให้ตรวจสอบก่อนประกาศรับรองอย่างเป็นทางการ

...

ร้อง กกต.สอบตัวเลขมหัศจรรย์

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 มิ.ย.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลุ่มผู้สมัคร สว.จำนวนหนึ่ง นำโดยนายสุรชัย พรจินดาโชติ ผู้สมัคร สว. กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบกระบวนการเลือก สว.ระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. นายสุรชัยกล่าวว่า ตนอยู่ในบัญชีสำรองของการเลือกครั้งนี้ มายื่นเรื่องขอให้ตรวจสอบ 3 เรื่องคือ 1.ผู้สมัครบางกลุ่มลงคะแนนเหมือนกัน ซีรีส์เดียวกัน เช่น เขียนหมายเลข 3, 22, 122, 5 มากกว่า 20 ใบ เรียกว่าเป็นชุดตัวเลขมหัศจรรย์ 2.พบผู้สมัครบางส่วนแต่งกายคล้ายกัน เช่น ใส่เสื้อสีเหลืองเป็นกลุ่ม คลุมด้วยแจ็กเกตสีดำ พบคนที่เป็นหัวหน้าทีม แต่ไม่แต่งกายในชุดเดียวกัน ลักษณะคล้ายไกด์ทัวร์ และ 3.ให้ตรวจสอบข้อมูลคุณสมบัติที่กรอกไว้ในเอกสาร สว.3 ถ้าเขียนอะไรที่โฆษณาเกินจริง โดยการกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จ มีผลทางกฎหมาย อยากให้ กกต.ตรวจสอบ

ฟาดหมดยุบพรรคน้ำเงิน-ส้ม-แดง

นายสหรัฐ มาลาศรี ผู้สมัคร สว. กล่าวว่า ขอให้นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ทำงานให้คุ้มกับภาษีประชาชน บอกว่ารู้ทุกอย่างแต่ไม่สามารถจับคนทุจริตได้ ถือว่าไม่ทำงาน อยากให้ตรวจสอบและจัดการ คนที่บล็อกโหวต หรือจัดตั้ง ไม่ใช่บอกว่าไม่มีหลักฐานทำอะไรไม่ได้ อย่างเรื่องไม่ลงคะแนนให้ตัวเอง กลุ่มตนมีคนได้ศูนย์คะแนนกว่า 10 คน เมื่อถามว่าจะเอาผิดกับพรรคการเมืองด้วยหรือไม่ นายสหรัฐตอบว่า ถ้าสอบสวนถึงก็ต้องเอาผิดแน่นอน จะยุบก็ต้องยุบ ไม่ว่าจะเป็นพรรคสีน้ำเงิน สีส้ม หรือสีแดง ต้องจัดการ

ฉะโพยทำลายประชาธิปไตย

ต่อมาเวลา 11.50 น. กลุ่มผู้สมัคร สว. กลุ่ม 2 กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม กลุ่ม 3 กลุ่มการศึกษา และกลุ่ม 14 กลุ่มสตรี เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบกระบวนการเลือก สว.ระดับประเทศ นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ผู้สมัคร สว.กลุ่มสตรี กล่าวว่า อยากให้ กกต.ตรวจสอบการบล็อกโหวต เพราะทุกคะแนนทุกหีบเหมือนกันหมด แสดงให้เห็นว่ามีโพย เป็นการทำลายประชาธิปไตย คุณสมบัติก็ไม่ตรงกับกลุ่มอาชีพ เช่น นักวิทยาศาสตร์ จบ ป.4 สื่อมวลชน เป็นคนพูดเสียงตามสาย ผิดตั้งแต่ขั้นตอนการรับสมัครครั้งแรกแล้ว ยังพบว่าทั้ง 10 โรงแรมที่จองให้กับคนที่มาจากต่างจังหวัด ตามกลุ่มต่างๆ ที่เขาจัดสรรเพื่อมาฮั้วกัน มีการเข้าพักจัดเลี้ยง จ่ายเงินกันตรงนั้น ขอให้ กกต.ไปสืบสวน เชื่อว่ามีความพยายามทำลายพยานหลักฐาน

กังขา “แสวง” คนบุรีรัมย์ใกล้ชิด “ชัย”

นางกุสุมาลวตีกล่าวอีกว่า สิ่งที่เป็นห่วงคือเราจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ เพราะนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เป็นคนบุรีรัมย์ เป็นอดีตคณะทำงานของนายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา และพี่ชายเป็น ผวจ.อำนาจเจริญ โดยการสนับสนุนของคนบางคน และบางพรรค ฉะนั้นการกระทำเยี่ยงนี้เป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายทั้งสิ้น ยืนยันว่ามีการซื้อโหวตกันจริงๆ เราหาพยานหลักฐานได้ เชื่อว่าพยานแวดล้อมเข้าองค์ประกอบล้านเปอร์เซ็นต์ หลังจากนี้จะยื่นร้องต่อศาลฎีกาต่อไป

อดีตบิ๊ก ตร.โชว์โพยตกในห้องน้ำ

พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. ผู้สมัคร สว. กลุ่มกฎหมาย กล่าวว่า มีความพยายามให้โหวตเตอร์เลือกคนที่เป็นเป้าหมาย ช่วงการเลือกไขว้ก็มีการเขียนโพยไว้ เหลือบมองไปเห็นเพื่อนข้างๆ ยังอ่านใบ สว.3 ไม่จบก็ลงคะแนนเสร็จเรียบร้อยแล้ว กกต.ต้องใช้ความกล้าหาญตรวจสอบ ไม่ได้พูดลอยๆ หลักฐานอยู่ที่ใบคะแนนทุกใบที่อยู่ในกล่อง เชื่อว่าทำได้ไม่ยาก เพียง 1 วันก็รู้ว่าใครเลือกใครบ้าง ยินดีเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม อยากให้ กกต.อย่าเพิ่งรีบประกาศผล ทั้งนี้ พล.ต.ท.คำรบได้โชว์โพยพร้อมกล่าวว่า “เป็นโพยที่ตกในห้องน้ำพอดีผมเป็นตำรวจ เลยเก็บหลักฐานทุกชนิด ผมได้โพยมาแล้วก็ไปเทียบกับคะแนนที่ได้มาเป๊ะ” ด้านนายจิรัฏฐ์ แจ่มสว่าง ผู้สมัคร สว.กลุ่มการศึกษา กล่าวว่า ต้องไปตรวจสอบคุณสมบัติ คนที่ไม่ตรงปก ที่ตนแซวว่า “เสื้อลายโปรไฟล์สั้น” คนเหล่านี้จะได้รับการโหวตอันนี้เป็นเรื่องจริง นำคนเหล่านี้มาสอบ จะย้อนไปถึงเส้นทางว่าสัมพันธ์กับบุคคล หรือสายสีใด

กกต.ประชุมด่วนเร่งเคลียร์คำร้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีผู้สมัคร สว.อีกหลายกลุ่มที่เตรียมตัวเดินทางมาที่ กกต. เพื่อยื่นคำร้องตลอดทั้งวัน ขณะเดียวกัน กกต.ได้นัดประชุมด่วนเมื่อช่วงเช้า คาดว่าน่าจะเร่งรีบพิจารณาคำร้องที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือก สว.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีคำร้องเข้ามายัง กกต. 614 เรื่อง กกต.ต้องเร่งพิจารณา เพื่อประกาศรับรองรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือก คาดว่าสามารถประกาศรับรองผลได้ไม่น้อยกว่า 5 วัน หรือวันที่ 3 ก.ค.เป็นต้นไป

อนุทิน ชาญวีรกูล

“อนุทิน” ปัดวุ่น ภท.ไม่ยุ่งเลือก สว.

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีมีการตั้งข้อสังเกตถึง สว.ที่ได้รับเลือกหลายคน มีความเชื่อมโยงกับพรรคภูมิใจไทยว่า เชื่อมโยงไม่ได้ พรรคการเมืองยุ่งเรื่อง สว.ได้หรือ พูดให้ร้ายกันอยู่เรื่อย ออกหนังสือไปถึงสองครั้งห้ามยุ่งเรื่องนี้ ทำหน้าที่ของตนไปหมดแล้ว ใครจะมาโยงไม่ได้ ถึงวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าเขาเลือกกันอย่างไร เคยให้ที่ปรึกษามาอธิบายว่าเลือกกันอย่างไร จนวันนี้ยังไม่เข้าใจ เมื่อถามว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ที่มี สว.เกี่ยวโยงกับบุรีรัมย์จำนวนมาก นายอนุทินตอบว่า ต้องไปดูวิธีการ ระบบเป็นอย่างไร เท่าที่ตรวจสอบทุกคนที่เข้ามาก็เข้ามาตามระบบ เรื่องเลือก สว.ตนยุ่งเกี่ยวอย่างเดียว คือให้กลไกของกระทรวงมหาดไทยเป็นไปด้วยความเรียบร้อยโปร่งใส ยุ่งเกี่ยวแค่เข้าไปบอกว่าทำทุกอย่างให้เรียบร้อย เป็นไปตามไทม์ไลน์ ไม่ให้มีเรื่องร้องเรียน ต้องชื่นชมนายอำเภอ ชื่นชม กกต. ตอนนี้พูดได้อย่างเดียวคือแสดงความยินดีกับว่าที่ สว.

รับ “บิ๊กเกรียง” เป็นเพื่อน วปอ.61

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคภูมิใจไทยต้องชี้แจงอย่างเป็นทางการหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า พรรคภูมิใจไทยชี้แจงไม่ได้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรสักอย่าง เมื่อถามย้ำว่ามีการเชื่อมโยงผู้ที่ได้รับเลือกเป็น สว.ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับบ้านใหญ่ชิดชอบ และการทำงานของนายอนุทินด้วย นายอนุทินตอบว่า รู้จักไม่เกิน 20-30 คน อย่าง พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 รู้จักตอนเรียน วปอ.61 ที่พูดกันว่าเป็น สว.สายสีน้ำเงิน พูดไปเถอะ พูดอะไรก็พูดไปเรื่อย เกี่ยวอะไรกับตน ขอย้ำว่า พล.อ.เกรียงไกรคือเพื่อน ส่วนที่มีชื่อจะเป็นประธานวุฒิสภานั้น ตนเป็น สส. เป็นพรรคการเมือง ไม่เกี่ยวกัน สว.ชุดเดิมก็มีเพื่อน ทั้งเพื่อนทั้งพี่เยอะแยะ แล้วทำอะไรได้บ้าง เพิ่งทราบตอนที่ พล.อ.เกรียงไกรมาลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษา ไปสมัคร สว. เมื่อถามว่าได้ให้กำลังใจอะไรกันหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า “เพื่อนก็คือเพื่อน ผมจะไปยุ่งเกี่ยวอะไรได้ เขาก็ไปสมัคร สว.ที่สุราษฎร์ธานี แต่เมียผมอยู่ระนอง”

ไม่รู้จักคนไหนคนขับรถของ “ปู่ชัย”

ผู้สื่อข่าวถามว่าสนิทสนมกับว่าที่ สว.หลายคน จนถูกวิเคราะห์ว่าวางหมากไว้ นายอนุทินปฏิเสธว่า ขนาดพี่สาวของนายเนวิน ชิดชอบ ยังตกรอบเลย ฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะไปยุ่งเกี่ยว เมื่อถามถึงกรณีมีชื่อคนขับรถของนายชัย ชิดชอบ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เป็น สว. นายอนุทินตอบว่า ไม่รู้จักคนขับรถของปู่ชัย คนไหนยังไม่รู้จักเลย ย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยไม่เกี่ยวข้อง เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์ว่า สว.ชุดใหม่ เป็น สว.สายสีน้ำเงิน นายอนุทินถึงกับร้อง “หึ” ก่อนจะกล่าวว่า พูดอะไรไปเรื่อย พูดกันไปเถอะ แล้วเกี่ยวอะไรกับตน

“ทักษิณ” โอดปฏิวัติทำระบบพัง

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ไม่ได้รับเลือกเป็น สว.ว่า ตรงนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ สำคัญที่ว่ามันสอนให้รู้ว่าการปฏิวัติทุกครั้งเกิดจากการไม่ไว้ใจประชาชน คือเมื่อประชาชนเลือกรัฐบาลมาแล้วไม่ไว้ใจก็เกิดการปฏิวัติ เมื่อเกิดการปฏิวัติก็เกิดกติกาที่ส่วนกลางพยายามควบคุมให้ประชาชนทำโน่นทำนี่ตามที่ต้องการ สุดท้ายกลับไปที่ว่าวันนี้ต้องไว้ใจประชาชน ต้องเชื่อใจประชาชนว่าเขาจะเลือกรัฐบาล เลือกกติกา เลือกคนมากำหนดกติกาของเขาได้ วันนี้กติกาเกิดขึ้นหลังปฏิวัติ เมื่อถามว่าดูเหมือนว่าสายพรรคภูมิใจไทยได้ สว.มาเยอะ นายทักษิณตอบว่า “ก็นี่ไงครับ เป็นเรื่องกติกาที่ถูกเซ็ตหลังปฏิวัติ แล้วไปคิดว่ากติกาที่ตัวเองคิดนั้นดีที่สุด เก่งที่สุด แต่ผลสุดท้ายคือการไม่ไว้ใจประชาชน ไม่ใช่สิ่งที่ดี ต้องกลับไปไว้ใจประชาชน” เมื่อถามว่าต้องกลับไปเลือกตั้ง สว.ใช่หรือไม่ นายทักษิณตอบว่า วิธีการที่ประชาชนเป็นคนตัดสินใจชีวิตของเขาเอง หรือตัดสินใจเลือกคนมาทำงานให้เขาดีที่สุด การเลือก สว.ชุดใหม่มีคนเลือกแทนประชาชน อย่าไปดูถูกประชาชน เขาคิดของเขาเองได้ การตัดสินใจของประชากรหมู่มากจะถูกต้องที่สุด

ทักษิณ ชินวัตร

ออกตัวอายุ 75 คนแก่ไม่มีมนต์ขลัง

ผู้สื่อข่าวถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับการเลือก สว.จะส่งผลกับการเมืองต่อไปอย่างไร นายทักษิณตอบว่า ไม่มีอะไร การเมืองก็คือการเมือง การเมืองเป็นสิ่งที่ต้องประคับประคองไป ทำงานให้ประชาชนได้เท่านั้นเอง เมื่อถามย้ำว่าจะส่งผลอะไรกับรัฐบาลหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ไม่มี คุยกันรู้เรื่อง ทุกคนที่ทำงานด้วยกันคุยกันรู้เรื่อง เชื่อว่านายกฯคุยกับพรรคร่วมได้ทุกคน เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่านายทักษิณหมดมนต์ขลังไปแล้ว นายทักษิณตอบว่า “มนต์ขลังของผมไม่มีเลย วันนี้อายุ 75 ปี ก็คนแก่คนหนึ่ง ไม่มีมนต์ขลังอะไร”

“สุริยะ” ปัด “นายใหญ่” เสื่อมมนต์

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้รับเลือกเป็น สว. สะท้อนถึงความนิยมของพรรคเพื่อไทยที่ลดลงหรือไม่ว่า ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน เรื่องนี้ทำให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือก สว. ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เชื่อว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดี เมื่อถามว่ามีการมองว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เสื่อมมนต์ขลังแล้ว นายสุริยะตอบว่า เป็นคนละเรื่องกัน การเลือกตั้ง สว.พรรคไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่ามีกลุ่มการเมืองอยู่เบื้องหลัง ส่งผลต่อการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ นายสุริยะตอบว่า ตอนนี้ สว.ใหม่ไม่มีอำนาจเรื่องการเลือกนายกฯ แต่มีหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย เชื่อว่าเมื่อกฎหมายผ่านสภา โดยผ่านความเห็นชอบจากพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ตามข่าวระบุว่าคนของพรรคภูมิใจไทยเข้าไปเป็น สว.จำนวนมาก ดังนั้น โอกาสที่กฎหมายจะผ่านยิ่งสะดวกเข้าไปใหญ่

“พรเพชร” ชี้ สว.ชุดใหม่น่าจะอิสระ

ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงข้อสังเกตว่า สว.ชุดใหม่ที่ได้มา ส่วนหนึ่งมาจากพรรคการเมืองสนับสนุนว่า เป็นเรื่องการเมือง แต่การทำงานต้องอยู่ในขอบเขตที่ทำได้ เช่น การทำหน้าที่ของตัวเองที่มีขอบเขต ไม่สามารถล้ำเข้าไปในการเมืองได้ เชื่อว่า สว.ชุดใหม่น่าจะมีความเป็นอิสระ แต่ในอนาคตไม่รู้ว่าจะมีการจับกลุ่มรวมตัวกันหรือไม่ การเมืองมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่แล้วเพราะทั้งสองฝ่ายต้องทำงานร่วมกัน เช่น สภาฯก็มาจากฝ่ายการเมือง ปฏิเสธไม่ได้ และ สว.เป็นส่วนหนึ่งของการเมือง จะบอกว่า สว.เป็นอิสระจากการเมืองคงไม่ใช่ ส่วนประธานวุฒิสภาคนใหม่ต้องเป็นผู้ที่ได้รับความเห็นชอบจาก สว.ส่วนใหญ่ จะทำให้ทำหน้าที่ประธานได้ง่าย สว.ชุดปัจจุบันจะหมดวาระก่อนวันที่ สว.ชุดใหม่มีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้นหากมีการประกาศราชกิจจาในวันที่ 3 ก.ค. วันที่ 2 ก.ค. สว.ชุดเก่าถือว่าพ้นจากหน้าที่โดยปริยาย

โอ่งัดผลงานตอบโต้เสียงดูแคลน

นายพรเพชรยังกล่าวถึงการทำงานตลอด 5 ปี ว่า สว.ชุดนี้ถูกโจมตีว่าเป็น สว.ที่มาจากรัฐประหารยอมรับในเสียงวิพากษ์วิจารณ์ การทำงานของ สว.ชุดนี้ แตกต่างจากอดีต แต่มีผลงานเยอะ ผ่านกฎหมาย 40 กว่าฉบับ สนธิสัญญาระหว่างประเทศอีกหลายฉบับ ถือเป็นผลงาน จะมาวิพากษ์ว่าทำไม่ดีคงไม่ได้ เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์จากสังคมต่อคุณสมบัติของ สว.ชุดใหม่ นายพรเพชรปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น เพียงแต่เห็นว่าแต่ละคนมีวิชาชีพที่ตนเองทำมา กฎหมายก็เปิดช่องเอาไว้ แต่เมื่อเป็น สว.แล้วเขาคงรู้หน้าที่ว่าควรทำอะไร อย่างไร อาจมีในส่วนของความรู้ความเข้าใจวิชาชีพของเขา

“กล้านรงค์” จี้ ปธ.กกต.สอบโกงฮั้ว

ขณะที่นายกล้านรงค์ จันทิก ประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ วุฒิสภา ทำหนังสือประทับตรา “ด่วนที่สุด” ที่ สว. (กมธ.2) 0010/2060 เรื่อง ข้อเสนอแนะเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีมีเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับการเลือก สว. ไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ถึงนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. หนังสือระบุว่า ตามที่ กกต.จัดการเลือก สว. ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ปรากฏต่อสื่อสาธารณะข้อวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางเกี่ยวกับกรณีต่างๆ ที่เป็นเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับการเลือก สว. มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เช่น ข้อสงสัยเกี่ยวกับการจัดตั้งเพื่อลงสมัครโดยกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครไม่ตรงตามกลุ่ม 20 กลุ่ม การจ้างวานผู้มาลงสมัครเพื่อประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ปรากฏการณ์ของจำนวนผู้ไม่ลงคะแนนให้ตนเองเป็นจำนวนมาก กรณีมีบุคคลจำนวนหนึ่งได้รับคะแนนสูงผิดปกติ รวมทั้งมีการรวมกลุ่มและพบปะของผู้สมัครในรูปแบบต่างๆ เป็นต้น

กล้าณรงค์ จันทิก

จับตาส่อทำขัด รธน.มาตรา 107

นายกล้านรงค์ยังระบุอีกว่า กมธ.ได้ติดตามพัฒนาการในเรื่องดังกล่าว มีความห่วงกังวลต่อเหตุอันควรสงสัยข้างต้นอย่างมาก มีความเห็นว่าถ้าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงจะเป็นการขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 107 ที่ประสงค์ให้การเลือกดังกล่าวเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม มีผลให้ประชาชนขาดความไม่เชื่อมั่นในการจัดการเลือก สว. ของ กกต. ผู้ที่ได้รับเลือกเป็น สว.และวุฒิสภา ดังนั้น กมธ.มีความเห็นว่า กกต.ควรพิจารณาใช้อำนาจตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. มาตรา 59 ที่กำหนดว่า “ก่อนประกาศผลการเลือก หากมีเหตุอันควรสงสัยว่าการเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้คณะกรรมการมีอำนาจสั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกการเลือก และสั่งให้ดำเนินการเลือกใหม่ หรือนับคะแนนใหม่...” อย่างจริงจัง เพื่อให้สังคมมั่นใจในการดำเนินการของ กกต. ให้การเลือก สว.ครั้งนี้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ

รัฐบาลจุดพลุ THACCA SPLASH

วันเดียวกันเวลา 11.00 น.ที่ศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน THACCA SPLASH-Soft Power Forum 2024 มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ รอต้อนรับ มีรัฐมนตรี ตัวแทนซอฟต์พาวเวอร์ด้านต่างๆ และ สส.พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมงานคึกคัก อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย นายเศรษฐากล่าวเปิดงานว่า งานนี้เป็นความมุ่งมั่นตั้งใจของรัฐบาล ที่จะสร้างเวทีการรวมพลังของทุกภาคส่วน ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power ที่เป็นหนึ่งในโครงการเรือธงรัฐบาล เป้าหมายใหญ่คือ “สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้” ให้คนไทยอยู่ดีมีสุข ทำให้เศรษฐกิจเจริญก้าวหน้า และปักหมุดใน 3 สร้าง คือ สร้างแรงบันดาลใจ สร้างเวทีแลกเปลี่ยนระดับนานาชาติ และสร้างการรับรู้ถึงพลัง Soft Power ไทย เปรียบเสมือนการสาด หรือ SPLASH รัฐบาลตั้งเป้าผลักดันอุตสาหกรรม Soft Power ทั้ง 11 สาขา

ต่อยอดโอทอปวางเป้าหมายใหญ่

จากนั้น น.ส.แพทองธารกล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “นโยบายการขับเคลื่อนและพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ไทย” ว่า งาน THACCA SPLASH : Soft Power Forum 2024 นี้ เป็นจุดเริ่มสำคัญของนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ที่เพิ่งเริ่มต้นมาแค่ 9 เดือน แต่ภารกิจนี้ไม่ใช่เริ่มวันนี้ เริ่มมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย วันนั้นนโยบายที่เป็นรูปธรรมคือ OTOP หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ เป็นนโยบายที่สำเร็จแต่ยังไม่ถึงเป้าหมาย เพราะยังขาดจิ๊กซอว์ที่หายไปจากภาพใหญ่ ครั้งนี้เราจึงคิดใหญ่ ตั้งเป้าหมายใหญ่ให้ชัดเจนว่า ซอฟต์พาวเวอร์ ต้องสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 4 ล้านล้านบาท ยกระดับชีวิตคนไทยทุกครอบครัว หนังสือจากคนไทยต้องได้รับการแปลในหลายภาษาอย่างเป็นระบบ หมอลำ TPOP นักร้องลูกทุ่ง จะมีพื้นที่ในเวทีคอนเสิร์ตระดับนานาชาติ มีแฟนเพลงทั่วโลก การไปถึงเป้าหมายดังกล่าวอย่างยั่งยืนต้องดำเนินการด้วย 3 ยุทธศาสตร์สำคัญ คือ นโยบายการพัฒนาศักยภาพคน นโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรม และนโยบายต่างประเทศ ซอฟต์พาวเวอร์ที่เราทำในวันนี้อาจผลิดอกออกผลเต็มที่ในอีก 10 ปีข้างหน้า รัฐบาลนี้เริ่มทำแล้ว และทำอย่างจริงจังมากที่สุดเท่าที่เคยมีในประวัติศาสตร์

“ทักษิณ” ชูศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์

ต่อมานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมงาน THACCA SPLASH - Soft Power Forum 2024 มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รวมทั้ง สส.พรรคเพื่อไทย รอรับ นายทักษิณกล่าวถึงงาน THACCA SPLASH-Soft Power Forum 2024 ที่พัฒนามาจากนโยบายหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ว่า ต้องการพัฒนาศักยภาพของคนไทยให้มีรายได้ที่ดีขึ้น จริงๆแล้วคนไทยมีฝีมือเยอะ แต่อาจถูกใช้งานแบบค่าจ้างขั้นต่ำ ทั้งที่เขาควรได้รับค่าจ้างที่ดีกว่านี้ และมีโอกาสในชีวิตที่มากกว่านี้ ซอฟต์พาวเวอร์จะทำให้คนที่เก่งมีโอกาสมากขึ้น เมื่อถามว่า ซอฟต์พาวเวอร์ต่างจากโอทอปที่เคยทำในอดีตอย่างไร นายทักษิณตอบว่า โอทอปมันแคบกว่า และเป็นการทำงานด้านฝีมือด้านหัตถกรรม ด้านอาหาร แต่ซอฟต์พาวเวอร์มีมากกว่านั้น ทั้งด้านดนตรีและกีฬา เกม เมื่อถามว่า เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ต่อยอดมาจากโอทอปรู้สึกอย่างไร นายทักษิณตอบว่า โอทอปฟื้นได้ไม่ยาก

นายกฯเดินสายปราบยาเสพติด

สำหรับภารกิจนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่ จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย.-2 ก.ค. เมื่อเวลา 13.55 น. นายเศรษฐานำคณะลงพื้นที่วัดโกศลรังสฤษฏ์ ต.อุ่มเม้า อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด เพื่อศึกษาต้นแบบการบูรณาการจัดการปัญหายาเสพติด ในโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ต.อุ่มเม้า จากนั้นได้ไปพบและกล่าวกับผู้เข้ารับการบำบัดยาเสพติดว่า วันนี้มาดูแลให้พวกท่านกลับไปสู่สังคมที่มีเกียรติและมีศักดิ์ศรี สามารถทำงานหาเลี้ยงชีพได้ และธำรงไว้ซึ่งความปลอดภัยจากยาเสพติด ผวจ.ร้อยเอ็ด ประกาศแล้วภายในวันที่ 30 มิ.ย. จะไม่มียาเสพติดเป็นพื้นที่สีขาว ขณะนี้ถือว่าใกล้เคียงที่จะเป็นอำเภอสีขาวได้ แต่เรามีเป้าหมายหลักสิ้นเดือน ก.ย. จ.ร้อยเอ็ดจะเป็นจังหวัดสีขาวปลอดยาเสพติด

เศรษฐา ทวีสิน

วอนเด็กอยู่ห่างยามีอนาคตชัวร์

จากนั้นนายกฯเดินทางมายังโรงเรียนธวัชบุรีวิทยาคม ต.นิเวศน์ อ.ธวัชบุรี เยี่ยมชมการพัฒนาด้านการศึกษา โดยเฉพาะการปลูกฝังเรื่องการห่างไกลยาเสพติด การเรียนการสอนของนักเรียนชั้น ม.3 พร้อมกล่าวกับเด็กนักเรียนว่า การศึกษาไม่ห่วงเท่าไหร่ แต่ปัญหาใหญ่สังคมไทยคือปัญหายาเสพติด รัฐบาลให้ความสำคัญมาก เพื่อให้เด็กๆโตไปมีชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมๆกับการยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ขอฝากด้วยว่าอนาคตของพวกเราทุกคน ไม่ว่าจะรุ่นตนหรือรุ่นนี้ หากไม่ติดยาจะมีอนาคต มีรายได้ ขอให้ห่างไกลยาเสพติด ก่อนร่วมรับฟังประชุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ พบปะทักทายนักเรียนกว่า 700 คน ที่หอประชุมอเนกประสงค์ มีตัวแทนนักเรียนมอบผ้าไหมสาเกต ภูมิปัญญา จ.ร้อยเอ็ด นายกฯกล่าวย้ำว่า น้องๆถือเป็นกำลังสำคัญของประเทศ ขอวิงวอนอย่าเข้าใกล้ยาเสพติด เรื่องอื่นรัฐบาลพยายามทำให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปากท้อง โอกาสเข้าถึงแหล่งงาน สนับสนุนการศึกษาให้สูงขึ้น

ไหว้พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลงเมืองอุบล

ต่อมาเวลา 17.45 น. นายเศรษฐานำคณะ เดินทางมายังวัดมหาวนาราม พระอารามหลวง อ.เมือง อุบลราชธานี สักการะพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง ถวายขันหมากเบ็ง พร้อมกราบนมัสการสนทนาธรรมพระวชิรกิจโกศล (พระครูสารกิจโกศล) เจ้าอาวาสวัดมหาวนาราม รองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี ได้รับมอบองค์พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลงจำลอง ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว และเหรียญพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง นายเศรษฐากล่าวว่า มาดูเรื่องน้ำท่วมและปัญหายาเสพติด โดย เฉพาะปัญหากระท่อม ด้านเจ้าอาวาสฝากให้นายกฯดูแลพื้นที่ชายขอบ เด็กออกนอกการศึกษา เพราะสถาบันครอบครัวไม่แข็งแรง จากนั้นนายกฯเยี่ยมชมกรรมวิธีการทำต้นเทียนพรรษา ประเภทติดพิมพ์ ทดลองทำดอกเทียน แกะเทียนประเภทติดพิมพ์ ก่อนนำมาแปะบนต้นเทียนพรรษา ตามประเพณีของ จ.อุบลราชธานี จากนั้นเดินทักทายประชาชนที่มาต้อนรับ ร่วมเซลฟี่อย่างเป็นกันเอง

กมธ.งบฯติง สลน.มุ่งแต่สัมมนา

เมื่อเวลา 11.00 น.ที่รัฐสภา นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. โฆษกกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 แถลงว่า ที่ประชุม กมธ.พิจารณามาตรา 7 สำนักนายกรัฐมนตรี รวม 21 หน่วยงาน 3 กองทุน พิจารณาไปแล้ว 14 หน่วยงาน 1 กองทุน โดย กมธ.ให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับงบสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ที่มีโครงการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล และข้อสั่งการของนายกฯในระดับพื้นที่ด้านสิ่งแวดล้อม แต่เนื้องานที่ขอรับจัดสรรงบฯกลับให้ความสำคัญกับการจัดอบรมสัมมนาในโรงแรม ควรเปลี่ยนเนื้องานให้มีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ

ตัดสิน “จิรัฏฐ์” หมิ่นอภิปรายจีที 200

ที่ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่ พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี อดีตเสธ.ทอ. และอดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นโจทก์ฟ้องนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณีเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2565 จำเลยอภิปรายในสภาฯไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงการจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดจีที-200 ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐาน ทั้งสองฝ่ายนำสืบหักล้างกันแล้ว เห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาจำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์จำนวน 5 แสนบาท คุมประพฤติ 4 ครั้ง โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ และให้ลงประกาศในหนังสือพิมพ์ 3 ฉบับ เป็นเวลา 5 วัน

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘อีลอน มัสก์’ หนุน ‘ทรัมป์’ พนักงานบริจาคให้‘แฮร์ริส’

ข้อมูลจากโอเพนซีเคร็ตส์ องค์กรไม่หวังผลกำไรไม่แบ่งฝักฝ่าย ผู้ติดตามข้อมูลการบริจาคเงินหาเสียงและการล...

สหภาพแรงงาน Teamsters ไม่หนุน'ทรัมป์-แฮร์ริส'

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สหภาพแรงงานทีมสเตอร์สมีสมาชิกกว่า 1.3 ล้านคน เป็นตัวแทนของกลุ่มคนขับรถบร...

ครึ่งแรกปี67จีนครองแชมป์ซื้อคอนโดเมียนมาซิวเบอร์สองแซงรัสเซีย2ปีซ้อน

วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป...

อสังหาฯ แบกสต็อกอ่วม 1.57 ล้านล้าน เอ็นพีแอลพุ่ง ‘ทุกตลาดติดลบหนัก’

นายกสมาคมอาหารชุด หวังเร่งแก้นอมินีต่างชาติในตลาดบ้านมูลค่า 1 ล้านล้านบาท จัดเก็บภาษี หวังแบงก์ชาติล...