“อ.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต” ชี้ ระบบเลือก สว.แบบปัจจุบัน ป้องกันการฮั้วและบ้านใหญ่ไม่ได้ เผย การพ่ายแพ้ของเครือข่ายสีแดง ชัดแล้วบารมีตกต่ำ กลุ่มอำนาจที่อยู่ข้างหลังไม่วางใจ ทำให้หนุนเครือข่ายสีน้ำเงินมายึดกุมทั้ง 2 สภาแทน ด้าน “อ.ปริญญา” แนะ ต้องโมฆะระบบเลือก สว. ใหม่ เปลี่ยนเป็นจัดเลือกตั้งแทน
วันที่ 28 มิถุนายน 2567 เมื่อเวลา 11.00 น. ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการจัดเสวนา สว.67 ทางข้างหน้า? จากสิ่งที่เห็น นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคม และสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า การเลือก สว. ระบบปัจจุบันนี้ ไม่สามารถป้องกันการฮั้วได้ รวมถึงป้องกันเครือข่ายผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น โดยเฉพาะเครือข่ายสีน้ำเงิน อีกทั้งยังเป็นเรื่องยากที่ คณะกรรมการเลือกตั้ง หรือ กกต. จะตรวจสอบคนกลุ่มนี้ได้ เหมือนในอดีตที่เคยถูกร้องเรียนมา
นายพิชาย กล่าวอีกว่า เครือข่ายสีน้ำเงินเป็นเครือข่ายที่มีศักยภาพสูงมากในการจัดตั้ง ทั้งเรื่องเงินและความสัมพันธ์เชิงอำนาจในสังคมไทย โดยการพ่ายแพ้ของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้ง สว. ครั้งนี้ ยังเห็นถึงความพ่ายแพ้ของกลุ่มเชียงใหม่ หรือ เครือข่ายสีแดง ที่แสดงให้เห็นว่ามีการอ่อนแอ และบารมีตกต่ำลงเป็นอย่างมาก จากที่คิดว่าจะมากุมอำนาจในสภาสูง แต่กลับไม่ใช่ เพราะกลุ่มอำนาจที่เล่นอยู่ข้างหลังอาจไม่ไว้วางใจเครือข่ายสีแดง เพื่อให้ยึดทั้งสภาล่างและสภาบน จึงหนุนให้เครือข่ายสีน้ำเงินยึดกุมทั้ง 2 สภาแทน เพื่อคอยรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มอำนาจเดิมเอาไว้
หากพิจารณาเครือข่ายสีน้ำเงิน จะเป็นอนุรักษนิยมอุปถัมภ์อย่างชัดเจน แต่อาจจะน้อยกว่าอนุรักษนิยมเชิงจารีต โดยอนุรักษนิยมอุปถัมภ์จะปรับเปลี่ยนทัศนคติได้ดีกว่ากลุ่มอนุรักษนิยมเชิงจารีต และสามารถเป็นพันธมิตรกับกลุ่มเสรีประชาธิปไตย ในสภาสูงที่มีอยู่อย่างน้อยนิดได้ และมีความเป็นไปได้ว่าคนที่ได้ลำดับ 7-10 ที่ไม่ได้อยู่ในเครือข่ายสีน้ำเงิน ก็ไม่ได้ยืนยันว่ามีอุดมการณ์เครือข่ายเสรีประชาธิปไตย แต่ในภาพรวมจะสามารถสร้างพันธมิตรชั่วคราวและขับเคลื่อนในระบอบประชาธิปไตยไปได้
...
นายพิชาย กล่าวอีกว่า การพ่ายแพ้ของเครือข่ายสีแดง เชื่อว่าจะเกิดในสนามเลือกตั้ง อบจ.ปทุมธานีเช่นกัน และดูเหมือนจะฟื้นได้อย่างยากลำบาก เมื่อตอนนี้อิทธิพลการจัดตั้ง กลายมาเป็นของฝั่งเครือข่ายสายสีน้ำเงิน ที่คุมทั้งสภาล่าง และสภาสูงแล้ว ตนเองมองว่าอาจจะไปกระทบกับชะตากรรมของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีด้วย จึงต้องจับตาดูต่อในระยะสั้น ส่วนกลุ่มเสรีประชาธิปไตย ที่เป็นฝ่ายค้านในปัจจุบัน ที่มีประชาชนหนุนหลังมากที่สุด ก็มีแนวโน้มจะได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงขอเตือนเครือข่ายสายสีน้ำเงิน แม้จะกุมเสียงข้างมากได้ทั้ง 2 สภา แต่การทำอะไรตามอำเภอใจมากเกินไป ประชาชนจะไม่ยอม จึงอยากให้ติดตามกลุ่มอำนาจนี้อย่างใกล้ชิด
ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองว่า การคัดเลือก สว. คราวหน้า ควรเป็น การเลือกตั้งดีกว่า เพราะระบบนี้ ต้องพวกเยอะเท่านั้น และจะทำให้เกิดการจัดตั้งมากๆ โดยเครือข่ายบ้านใหญ่ 2 เครือข่ายหลัก ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าใครทำได้ดีกว่า ตนเองจึงเสนอว่าควรโมฆะระบบนี้ เพราะเป็นระบบการเลือก สว. ที่ซับซ้อนที่สุดในโลก การออกแบบระบบแบ่งกลุ่มซับซ้อน รวมถึงการประกาศรับรองผลของ สว. 200 คน ที่มองว่าควรประกาศเท่าที่ประกาศได้ก่อน พร้อมมองว่า การจัดตั้งไม่ผิด ถ้าไม่มีผลประโยชน์ แต่ถ้าเป็นพรรคการเมืองถือว่ามีความผิด รวมถึงการประกาศผลก่อน แล้วสอยทีหลัง มองว่าทำได้ หากใครที่มีหลักฐานที่ทำผิดก็ตกไปแล้วเลื่อนลำดับขึ้นมา นอกจากนี้ อยากขอให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและเข้าถึงกล้องวงจรปิด คลิป และคะแนนได้ด้วย เพื่อให้สิ้นข้อสงสัยที่คลางแคลงใจของประชาชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนด้วย
