บิ๊กแบงก์ญี่ปุ่น MUFG ทุ่ม 6,900 ล้านบาท ถือหุ้นบริษัทเจ้าของ True Money 10%

สำนักข่าวนิกเคอิเอเชียรายงานว่าธนาคารมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (MUFG) ธนาคารยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ทุ่ม 195 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6,900 ล้านบาท) ลงทุนในบริษัท Ascend Money ผ่านบริษัทย่อยในประเทศอย่างบริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด

MUFG และบริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัดจะมีสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 10% หลังร่วมลงทุนใน Ascend Money ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่มซีพี (CP Group) และทรู คอร์ปอเรชั่น ผู้ให้บริการชำระเงินมือถือผ่านแอปพลิเคชัน "TrueMoney Wallet"

นอกจากนี้ MUFG จะส่งผู้บริหารหนึ่งคนเข้าร่วมบริหาร Ascend Money พร้อมกับการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและวิธีการทำงานอื่นๆ รวมทั้งหารือถึงความร่วมมือทางธุรกิจกับกลุ่ม CP ด้วย

CP เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ซึ่งเป็นเบอร์หนึ่งของไทย และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่ง Ascend Money ใช้ฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งมาขยายฐานผู้ใช้งานให้กับแอปพลิเคชันชำระเงินผ่านมือถือ True Money Wallet จนมีผู้ใช้งานกว่า 40 ล้านคน ด้วยกลยุทธ์นี้ ทำให้ Ascend Money กลายเป็น ฟินเทคยูนิคอร์น ตัวแรกของไทย

Ascend Money ตั้งเป้าขยายธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล โดย MUFG จะใช้ความรู้ ความสามารถของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในการสนับสนุนกระบวนการตัดสินใจอนุมัติสินเชื่อและระบบการจัดการภายในองค์กร ซึ่งธนาคารกรุงศรีอยุธยามีความเข้มแข็งในด้านสินเชื่อรถยนต์

การลงทุนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของ MUFG ในการขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย MUFG มองเห็นศักยภาพของตลาดฟินเทคในภูมิภาคนี้ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว

ก่อนหน้านี้ ในปี 2565 ทาง MUFG ได้ดำเนินการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านการลงทุนในบริษัทฟินเทคสัญชาติอินโดนีเซีย Akulaku และซื้อบริษัทในเครือ Telenor Financial Servicesในฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เพื่อขยายธุรกิจบริการทางการเงินดิจิทัลในภูมิภาค

อ้างอิง nikkei

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ