“จตุพร” ถาม คนไทยพร้อม ลุกมาจัดการหรือยัง แนวคิดขายคอนโดฯ ให้ต่างชาติ 75%

“จตุพร” ย้ำ อดีตนักธุรกิจอสังหาฯ ได้เวลาเป็นนายกฯ แนวคิดขายคอนโดฯ ให้ต่างชาติ 75% ครอบครองได้ 99 ปี ชี้ คิดใหญ่ตามดีเอ็นเอปล่อยกู้พม่า ซัด กล้าคิดเชิงผลประโยชน์ทับซ้อน ถาม คนไทยพร้อมวัดใจลุกขึ้นมาจัดการหรือยัง?

วันที่ 26 มิ.ย. 67 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ย้ำถึงแนวคิดขายคอนโดมิเนียมให้ต่างชาติ 75% และครอบครองได้ 99 ปี ว่า คอนโดทั้งประเทศสร้างแล้วขายไม่ได้มีประมาณ 1.3 ล้านยูนิต เฉลี่ยราคาขายประมาณ 3 ล้านบาทต่อยูนิต เมื่อรวมทั้งระบบจึงเป็นมูลค่าสูงมาก

อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้เป็นของหัวหน้ารัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน แต่ยังไม่ได้ปฏิบัติ ส่วนวิธีการซื้อนั้น ต้องเข้าใจระบบของฮ่องกงที่ให้ซื้อผ่านโทเคน โดยบริษัทไทยจะไปตั้งสาขาที่ฮ่องกงไว้ซื้อขาย ไม่ต้องยุ่งยากขนเงินเข้าประเทศมาซื้อ แล้วมาโอนในไทยเป็นเงินบาท

อีกทั้งกล่าวว่า นายกฯ เดินทางไปต่างประเทศเพื่อชวนต่างชาติมาลงทุนในไทย ขณะนี้ยังไม่มีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาประเทศ แต่แนวคิดขยายการครอบครองคอนโดให้ต่างชาติถึง 99 ปี และซื้อได้ถึง 75% ของคอนโดที่สร้าง ดังนั้น ประเทศจะเสียหายแทบไม่เหลืออะไร

สิ่งสำคัญ ธนาคารในไทยส่วนใหญ่ถูกต่างชาติถือหุ้นจำนวนมาก แทบเรียกว่า เป็นธนาคารต่างชาติมาตั้งที่ไทย เมื่อบ้าน ที่ดิน ประชาชนไม่มีปัญญาผ่อนค่างวด จึงถูกธนาคารยึดแล้วทรัพย์สินตกไปเป็นของต่างชาติที่ถือหุ้นใหญ่ในธนาคาร

นายจตุพร กล่าวว่า แนวคิดต่างชาติซื้อคอนโดทำให้เกิดความเสียหายทางอ้อมโดยไม่รู้ตัวก็หนักอยู่แล้ว ยิ่งนายเศรษฐา ก่อนมาเป็นนายกฯ มีอาชีพเดิมเป็นนายทุนอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ อีกอย่างหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็เป็นผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่งของบริษัท เอสซี แอสเสท ล้วนเป็นคนสำคัญทางการเมือง

...

“ดังนั้น ย่อมเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อนเชิงนโยบาย ซึ่งไม่แตกต่างจากอดีตนายกฯ ให้เงินกู้พม่าแล้วมาซื้อสินค้าของบริษัทอดีตนายกฯ เสียเอง มาคราวนี้ ลองบอกว่า สองบริษัท (แสนสิริกับเอสซี) จะสละสิทธิ์”
พร้อมทั้งกล่าวว่า ในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ มีโครงการเสนอให้ต่างชาตินำเงิน 40 ล้านมาซื้อที่ดิน 1 ไร่ ได้สิทธิ์อยู่ไทยเป็นพิเศษ ยังถูกกล่าวหาขายชาติ ส่วนสมัยนี้มีจำนวนคอนโดขายไม่ออกชัดเจนปริมาณ 1.3 ล้านยูนิต ดังนั้น เมื่อเป็นนายกฯ มาจากธุรกิจอสังหาฯ แล้ว ทำไมกล้าคิดเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนเชิงนโยบายขึ้นมา

"เป็นนายกฯ เซลส์แมนออกไปต่างประเทศอ้างเพื่อชวนนักลงทุนมาไทย แต่มีใครคาดคิดว่าไปเที่ยวขายคอนโดให้ต่างชาติมาซื้อเพื่ออยู่ไทยนานถึง 99 ปี แต่กองเชียร์ที่ค้านขายที่ดินตะโกนว่า เป็นการขายชาติสมัย พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเงียบเสียงหมดเมื่อนายเศรษฐา คิดขายคอนโดแลกสิทธิ์อยู่นาน 99 ปี แล้วคนไทยได้ประโยชน์อย่างไร ดังนั้น จึงได้เวลาที่คนไทยต้องลุกขึ้นมาจัดการ”

นายจตุพร เสนอว่า หากนายเศรษฐา ต้องการขายคอนโดแล้ว ควรทำเศรษฐกิจให้ดีขึ้น เพื่อคนไทยจะได้มาซื้อคอนโด แต่เมื่อเศรษฐกิจย่ำแย่แล้ว จึงเสนอให้ต่างชาติมาซื้อพร้อมแลกกับสิทธิครอบครอง 75% อยู่นาน 99 ปี ซึ่งกระทบต่อความมั่นคงของประเทศอย่างยิ่ง ไม่เพียงเท่านั้น คนไทยยังจะต้องผจญกับนโยบายของรัฐบาลเศรษฐา พรรคเพื่อไทย ทั้งบ่อนกาสิโน ดิจิทัลวอลเล็ต และยังจะเสียดินแดนให้ต่างชาติที่ซุกซ่อนไว้กับโครงการแลนด์บริดจ์ ล้วนเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งคนไทยพร้อมที่จะวัดใจกันแล้วหรือยัง

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...