“สรวงศ์” โต้กลับ “คุณหญิงสุดารัตน์” ปมแก้รัฐธรรมนูญตัด สส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลั่น ไม่เข้าใจอยู่กันเฉยๆ ไม่ได้หรือ ชี้ รู้อยู่แล้วไม่มีทางเป็นไปได้ ด้าน “อนุสรณ์” อัดมโนฉ่ำ ระวังการดิสเครดิตจะย้อนเข้าตัว
วันที่ 24 มิถุนายน 2567 นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ระบุในการให้สัมภาษณ์ มีคนในพรรคเพื่อไทยเล่าว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะยกเลิกระบบสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์)ให้เหลือเพียงแค่ สส.เขต ว่า เขาก็พูดไป นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ออกมาโต้แล้ว ไม่เข้าใจว่าอยู่กันเฉยๆ ไม่ได้หรืออย่างไร ชอบปั่น ชอบอะไรแบบนี้
นายสรวงศ์ กล่าวต่อไปว่า เรื่องนี้เราก็รู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ทุกอย่างมีขั้นตอน ซึ่งในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ก็มีทุกพรรคการเมืองอยู่ด้วย ไม่ใช่อยู่ดีๆ ใครจะไปทำอะไรได้ดั่งใจ จริงๆ เราก็ไม่ได้มีความคิดที่จะทำด้วยซ้ำ เพราะไม่ใช่เรื่องได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองเลย ทุกพรรคการเมืองต้องหวังบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว และก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นข่าวเช่นนี้ได้ ทำไม คุณหญิงสุดารัตน์ ถึงไปพูดเช่นนั้นได้
...
เมื่อถามว่า ในการประชุมพรรคเพื่อไทยจะต้องมีการพูดคุยเรื่องนี้หรือไม่ นายสรวงศ์ ตอบว่า ไม่มี รับประกันได้ว่าในที่ประชุมพรรคไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้เลย ขอให้พูดมาเลยว่าใครเป็นคนพูด แบบนี้ตนก็พูดได้ว่าคนในพรรคไทยสร้างไทยมาบอกเช่นนั้นเช่นนี้ ตนอยากให้มีความราบรื่นในการทำงานดีกว่า ผู้สื่อข่าวถามต่อ มองการออกมาเปิดประเด็นเช่นนี้เป็นการดิสเครดิตพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสรวงศ์ ระบุ ตนไม่ทราบว่าคำว่าดิสเครดิตคืออะไร แต่มองว่าหากคนใช้วิจารณญาณในการฟัง เขาแยกแยะออกอยู่แล้ว ใครจะพูดอะไรก็แล้วแต่ แต่การพูดไม่มีหลักฐานอะไรทั้งนั้น พูดแค่ว่าคนในพรรคเพื่อไทยที่ยังสนิทกันอยู่ แบบนี้ใครก็พูดได้ ขณะที่คำถามว่า จะไม่กระทบต่อการทำงานร่วมกันของคนในพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวตอบว่า ไม่มี
ทางด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ถ้าท่านพูดกับคนในครอบครัว หรือสมาชิกพรรคของท่านเป็นการภายใน จะมโนกันฉ่ำแค่ไหนก็เป็นสิทธิ แต่การจินตนาการแบบไม่มีมูลความจริงเลยออกสื่อ ต้องระมัดระวังว่าต้นทุนความน่าเชื่อถือของท่านจะหดหายลดต่ำลงไปเรื่อยๆ สิ่งที่พรรคเพื่อไทยได้ประกาศจุดยืนชัดและได้ดำเนินการไปแล้ว คือการเสนอแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญไปร่างรัฐธรรมนูญ และหากมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ พรรคการเมืองก็จะไม่สามารถไปครอบงำการทำงานของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ได้
ทั้งนี้ การจินตนาการแบบไม่มีมูลความจริงเจือปน จะด้วยเหตุใดก็ตาม แต่หากมุ่งหวังจะลดทอนความน่าเชื่อถือ ดิสเครดิตคนอื่น ระวังจะกลายเป็นการย้อนกลับเข้าตัวไปดิสเครดิตตัวเอง บ้านเมืองมีหลักมีการ ใครจะโหนพรรคไหนก็โหนไป ตนติดตามเรื่องรัฐธรรมนูญ ไม่เคยได้ยินเรื่องตัด สส.ระบบบัญชีรายชื่อ เหลือเฉพาะ สส.เขต
“การทำงานการเมืองต้องตรงไปตรงมา อย่าใช้วิธีหาคะแนนด้วยการใส่ร้าย ทำลายคะแนน หรือด้อยค่าพรรคการเมืองอื่นด้วยการปล่อยข่าวที่ไม่มีมูลความจริง”
