“รอมฎอน ปันจอร์” งง งบแก้ไฟใต้ 22 ปี กรมโยธาธิการได้มากสุด แซงหน้า กอ.รมน. พอเปิดไส้ในงบความมั่นคง เจอปรสิต คสช. แอบใช้งบชายแดนใต้ด้วย ชงบันได 5 ขั้น รื้อแผนบูรณาการใหม่ ตั้งหลักเจรจาให้ดี ย้อน “เศรษฐา” เป็นนายกฯ จะสนใจแต่เรื่องท่องเที่ยวไม่ได้
วันที่ 20 มิถุนายน 2567 เมื่อเวลา 20.09 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจํา ปีงบประมาณ 2568 นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายเรื่องปัญหาชายแดนภาคใต้ ว่า ภายหลังเห็นการจัดสรรงบประมาณปี 2568 แบบนี้แล้วเสียใจอย่างยิ่ง อยากให้รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ใส่ใจปัญหาจังหวัดชายแดนใต้มากกว่านี้ ไม่ Ignore
โดยเรื่องการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่ารัฐบาลจัดสรรงบไม่แยแสปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำตามแบบแผนเดิมๆ และเมื่อดูรายละเอียด การจัดสรรงบประมาณก็ไม่ชัดเจน โดยพบว่า 22 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลเทงบประมาณในการแก้ปัญหาไปทั้งสิ้น 5.64 แสนล้านบาท เมื่อดูแผนบูรณาการดับไฟใต้ พบว่ากรมโยธาธิการและผังเมือง มีการตั้งงบมากที่สุด 1,522.7 ล้านบาท จึงตั้งคำถามว่า เหตุใดจึงเอางบก่อสร้างนำ ซึ่งมากกว่างบประมาณของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่อยู่ที่ 1,330.9 ล้านบาท เมื่อดูไส้ในของงบ กอ.รมน. มีการตั้งงบข่าวกรองถึง 735 ล้านบาท และมีการตั้งงบปลุกผี คือการดำเนินการตามมาตรา 21 ด้วยการฝึกอบรมเพื่อแลกกับการถูกดำเนินคดี ที่ 22 ปีที่ผ่านมา มีคนเข้าอบรมแค่ 12 คนเท่านั้น แถมยังมีการตั้งงบเกษตรเป็นเบี้ยหัวแตกเต็มไปหมด
ขณะเดียวกันเมื่อดูงบประมาณของ กอ.รมน. ก็พบว่า 88% เป็นงบที่ต้องพึ่งพาภัยคุกคาม ซึ่งอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และซ้ำร้ายยังมีปรสิตของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอแอบใช้งบประมาณถึง 7.8 ล้านบาท ที่อ้างถึงการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
...
ตนเองจึงขอเสนอให้รื้อแผนบูรณาการเก่า และทำแผนบูรณาการด้วยบันได 5 ขั้น เพื่อปลดพันธนาการของ คสช. ด้วยการออกแบบงบประมาณของแผนบูรณาการสันติภาพใหม่ เปลี่ยนแกนกระบวนการสันติภาพ ปรับยุทธศาสตร์ชาติ ทบทวนการดำเนินการใน 2 ทศวรรษที่ผ่านมา รวมถึงลดปืน เพิ่มปากในการเจรจา และต้องบรรลุเป้าหมายยุติข้อขัดแย้งให้ได้ในปี 2570
นายรอมฎอน ยังกล่าวอีกว่า หากจะจุดพลุสันติภาพ ต้องยกเลิกกฎอัยการศึกที่ใช้มานานกว่า 20 ปี รวมถึงยกเลิกด่านกว่า 2,000 ด่าน จะถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกให้กับทุกกลุ่มในชายแดนใต้ และต้องปรับงบ กอ.รมน. ให้น้อยลง เอางบไปให้หน่วยงานพลเรือนอื่นจัดการ
“ถ้าจุดไฟแห่งความหวัง นายกฯ เศรษฐา ตั้งหลักให้ดี ว่าจะแก้และสร้างสันติภาพในชายแดนภาคใต้ได้อย่างไร ท่านมาเดินในพื้นที่แล้วบอกว่าจะไม่สนใจเรื่องนี้ จะสนใจแต่เรื่องการท่องเที่ยวแค่นั้นไม่พอครับ ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านต้องรู้ว่าตำแหน่งของท่านสำคัญ และ Leadership หรือภาวะการนำของรัฐบาลนั้นสำคัญมากจริงๆ ซึ่งไม่ต้องใช้งบประมาณ แค่ปรับการพูดคุย”
นายรอมฎอน กล่าวต่อว่า วิธีแก้ปัญหาต้องปรับการพูดคุยเรื่องเจรจาให้เป็นงานที่สำคัญ และเสนอปรับทัศนคติเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะหน่วยงานด้านความมั่นคง ตลอดจนถ่ายโอนหน่วยงานสำคัญให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
“ผมมีหลายเรื่องที่อาจจะไม่พอใจ แต่ขอเรียนตามตรงว่า จะต้องไม่เห็นชอบกับร่างงบประมาณปีนี้ แต่เชื่อว่าหากนายกฯ ฟังข้อเสนอของผมและปรับคิดจริงๆ เรามาร่วมปลดพันธนาการจากการครอบงำของปรสิต ที่เป็นมรดกตกทอดจากยุค คสช. ร่วมกัน ผมเชื่อว่าจะสามารถสร้างสันติภาพและปักหลักประชาธิปไตยที่มั่นคงของประเทศนี้ไปได้”
