อภิปรายงบประมาณ 2568 วันแรก “เศรษฐา” ยิ้มโชว์สื่อ บอกหายป่วยโควิดแล้ว “อนุทิน” ยัน พรรคร่วมรัฐบาลแน่นปึก ฝ่ายค้านจัดหนัก “ชัยธวัช” ซัดจัดงบฯ แบบ “เจ๊งไม่ว่าแต่เสียหน้าไม่ได้” ส่วน “จุรินทร์” ตั้งฉายา “นักกู้ผ้าขาวม้าพันคอ” ด้าน “ศิริกัญญา” ชี้ จัดงบฯ “โนสน-โนแคร์”
วันที่ 19 มิถุนายน 2567 ถือเป็นวันแรกในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 1 ครั้งที่ 2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 19-21 มิถุนายน 2567
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ปรากฏตัวครั้งแรกที่อาคารรัฐสภา หลังลาป่วยโควิด-19 ตั้งแต่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยยังมีสีหน้าค่อนข้างอิดโรย แต่ยังยิ้มแย้มให้สื่อมวลชนทันทีที่มาถึง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้าไปสวัสดีทักทายทันที จากนั้นนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่า หายป่วยดีแล้ว ความจริงมีอาการตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2567 ที่ไปลงเรือที่คลองโอ่งอ่าง และเช้าวันนี้แพทย์ได้ทำการตรวจแล้วยืนยันว่าปลอดภัยแล้ว พร้อมขอขอบคุณทุกคน ส่วนการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 พรรคร่วมรัฐบาลมีความพร้อมและได้มีการพูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้แล้ว ยืนยันว่าสามารถชี้แจงเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต ได้ทุกประเด็น ไม่มีคำว่าหมกเม็ดแน่นอน
อ่านข่าว : หายป่วยโควิด-19 เข้าสภาแจงงบประมาณ 68 นายกฯ ยัน ดิจิทัลวอลเล็ตไม่มีหมกเม็ด
...
ด้านนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ตั้งคำถามถึงงบประมาณรอบนี้ที่เพิ่มขึ้นจากปี 67 เป็น 220,000 ล้านบาท ในส่วนงบกลางเพิ่มขึ้น 190,000 ล้านบาท ว่าทำเพื่อมารองรับดิจิทัลวอลเล็ตใช่หรือไม่ อีกทั้งมีการตั้งงบชดเชยเพื่อขาดดุลกว่า 8 แสนล้านบาท ที่น่ากังวลเพราะเดิมไม่ควรเกิน 3% แต่ของไทยตอนนี้เป็น 4.5% ในส่วนของเงินที่ใช้หนี้ของภาครัฐที่ตั้งไว้ 4 แสนล้านบาท โดยเป็นเงินต้นแค่ 150,000 ล้านบาท ที่เหลือคือดอกเบี้ย ดังนั้นดอกเบี้ยเกินเงินต้นแล้ว ซึ่งดอกเบี้ยหนี้สาธารณะไม่ควรเกิน 9% หากครบ 10% จะทำให้ความน่าเชื่อถือของประเทศลดลง แต่เชื่อว่า งบฯ ปี 68 จะต้องผ่านอยู่แล้ว เพราะการบริหารราชการแผ่นดินต้องมีงบประมาณ แต่การทำงบที่เกินดุลอยู่เรื่อยๆ จะเป็นปัญหาต่อสถานะการคลังของประเทศในวันข้างหน้า จึงขอตั้งฉายาการอภิปรายครั้งนี้ว่า “รัฐบาลนักวิ่งราวทรัพย์” หมายความว่า กู้เดินหน้าไม่กังวลถึงสถานะการเงินการคลัง แล้วเอาเงินที่กู้มาแจกประชาชน แล้วบอกเป็นผลงานตัวเอง
อ่านข่าว : “ชัยชนะ” ห่วง ตั้งงบฯ 68 ดิจิทัลวอลเล็ต ตั้งฉายา “รัฐบาลนักวิ่งราวทรัพย์”
ต่อมาเวลา 09.30 น. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เรียก สส.ลงชื่อและเข้าห้อง ก่อนกล่าวเปิดการประชุม โดยในที่ประชุมมีการชี้แจงกรอบเวลา ว่า จะใช้เวลาประชุม 3 วัน เริ่ม 09.00-22.00 น. 2 วันแรก 13 ชั่วโมง วันสุดท้าย 15 ชั่วโมง จบไม่เกิน 24.00 น. ของวันที่ 21 มิถุนายน 2567 รัฐบาลและฝ่ายค้าน ฝ่ายละ 20 ชั่วโมง คือประธาน 1 ชั่วโมง
จากนั้นเวลา 09.39 น. นายกรัฐมนตรี นำกล่าวถึงหลักการและเหตุผลของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท ว่า ปีนี้ไม่มีการตั้งงบประมาณเพื่อชดใช้เงินคงคลัง และเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากปี 2567 เพื่อมุ่งให้เศรษฐกิจไทยโตอย่างเต็มศักยภาพ โดยคำนึงภาวะความสอดคล้องภาวะเศรษฐกิจ รัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้เกิดผลสัมฤทธิ์และประโยชน์สูงสุดอย่างเป็นรูปธรรม โดยนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตจะถึงมือประชาชนในปีนี้ ก่อเกิดการจับจ่ายใช้สอย และหมุนกลับมาเป็นเงินภาษีภาครัฐ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้นายกรัฐมนตรีจะให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมว่าหายดีจากโควิด-19 แล้ว แต่ในระหว่างการชี้แจงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 พบว่า มีการกระแอมหลายครั้งเนื่องจากเสียงแหบ
อ่านข่าว : ประชุมสภาอภิปรายงบประมาณ 68 วันแรก นายกฯ ย้ำ ดิจิทัลวอลเล็ตปีนี้ได้แน่
ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทยในวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้นำทีม สส.สวมเสื้อสีเหลืองประชุมสภาฯ ทั้งพรรค ยืนยัน รัฐมนตรีในส่วนของพรรคภูมิใจไทยที่กำกับดูแลอยู่ 4 กระทรวง พร้อมชี้แจงทุกประเด็น ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล 5-6 พรรคการเมือง ที่มีเสียงสนับสนุนในสภาผู้แทนราษฎร 314 เสียง ถือเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ และการทำงานของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทุกคนก็เป็นไปตามหลักการเดียวกัน ทำตามนโยบาย สนับสนุนซึ่งกันและกัน
อ่านข่าว : “อนุทิน” โชว์เสียงรัฐบาลแน่นปึ้ก เชื่อ คดีการเมืองใหญ่ไม่กระทบเสถียรภาพ
มาที่พรรคฝ่ายค้าน เปิดอภิปรายคนแรกโดย นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคก้าวไกล อัดงบฯ ปี 2568 รัฐบาลกำหนดรายจ่ายมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ถึง 3,752,700 ล้านบาท ซึ่งกำหนดให้ขาดดุลงบประมาณปี 2568 ประมาณกว่า 8.6 แสนล้านบาทเศษ ถือเป็นการวางวงเงินกู้ไว้สูงสุด ทำให้รัฐบาลและประเทศเหลือพื้นที่กู้เพิ่มได้ประมาณ 5,000 ล้านบาทเท่านั้น เปรียบเทียบกับปี 67 ถือเป็นการจัดงบประมาณเพิ่มสูงสุดในประวัติศาสตร์ เรียกว่ากู้เกือบเต็มเพดาน พอไปดูรายละเอียด ยิ่งผิดหวัง เพราะเป็นการจัดงบประมาณแบบแทบจะเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่มีแผนลงทุนทางเศรษฐกิจจริงๆ ไม่มียุทธศาสตร์ที่ชัดเจนว่าจะทำอะไร เป็นโครงการเดิมๆ แต่แปะป้ายใหม่ กลายเป็น “เจ๊งไม่ว่าแต่เสียหน้าไม่ได้”
อ่านข่าว : “ชัยธวัช” จัดหนัก งบปี 68 ไร้ยุทธศาสตร์ ไม่ตอบโจทย์ประเทศ แต่ตอบโจทย์รัฐบาล
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ร่ายยาวชี้ว่า งบประมาณ 2568 ภาพรวมทั้งขี้ฮก ขี้เหร่ เหมือนเห็นสภาฯ เป็นศาลาโกหก เพราะนายกรัฐมนตรีไม่ได้ทำตามที่เคยพูดไว้ การเก็บรายได้ก็ยังต่ำกว่าเป้า การขาดดุลงบประมาณ มหาศาล คือ 24.9% แถมยังขาดดุลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เกือบชนวินัยการเงินการคลัง ขาดอีกเพียง 40 ล้านบาท พร้อมระบุอีกว่าภายใต้รัฐบาลนี้ ถ้าครบวาระ 4 ปี ยังคิดจัดงบประมาณขาดดุลต่อไป จะส่งผลให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นทุกปี นี่คือภาระที่จะเกิดกับประเทศ พร้อมยกให้เป็น “นักกู้ผ้าขาวม้าพันคอ”
อ่านข่าว : “จุรินทร์” ซัด เงินดิจิทัลนโยบายเรือเกลือ ตั้งฉายา “นักกู้ผ้าขาวม้าพันคอ”
ถึงคิว สส.ฝ่ายรัฐบาล ชี้แจงบ้าง นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย ไม่รอช้า กล่าวอภิปรายสนับสนุนร่างงบฯ 68 ยืนยัน ทำตลาดไทยเท่าทันโลก สร้างเครือข่ายความปลอดภัยทางสังคม จัดทำกลไกการเพิ่มทักษะเดิม (Upskilling) เสริมทักษะใหม่ (Reskilling) ขนานใหญ่ ทำลายกับดักความกลัวในอดีต มีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่คำนึงถึงผลในระยะยาว และสร้างรัฐให้กระชับ มีประสิทธิภาพในการดูแลชีวิตประชาชน ตอบโจทย์ความต้องการ ลดคอขวดการตัดสินใจ มีความทันสมัย ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ พร้อมตอบโต้ นายจุรินทร์ ที่บอกว่าประเทศคือเป็ดง่อย แต่อย่าลืมว่าเป็ดง่อยตัวนี้ เกิดและเติบโตในรัฐบาลที่แล้ว รัฐบาลเศรษฐาก็ทำให้เป็ดง่อยลุกขึ้น และไม่ใช่เป็ดขี้เหร่อีกต่อไป ส่วนที่พรรคก้าวไกลระบุว่า งบประมาณปี 2568 นั้น เจ๊งไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะประเทศไทยเจ๊งไม่ได้ รัฐบาลอาจจะยุบสภา นายกฯ อาจจะลาออกแต่ยังต้องรักษาการ แต่ประเทศไทยเจ๊งไม่ได้
อ่านข่าว : “ดนุพร” ชี้ งบฯ ปี 68 ดัน 142 นโยบาย หวัง ดันไทยกลับเป็นเสือตัวที่ 5
จากนั้นเวลา 13.48 น. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวอภิปรายว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นงบที่มีรายจ่ายสูงสุด ในรอบ 14 ปี หนี้สาธารณะก็ทำสถิติใหม่ สูงสุดในรอบ 14 ปีเช่นกัน หากเกิดอะไรขึ้น เรื่องภัยแล้ง หรือเรื่องอะไร เราจะไม่มีงบประมาณใช้จ่ายเลย แล้วตอนนี้รัฐบาลทำตัว “โนสน-โนแคร์” พร้อมย้ำว่า ทุกงบประมาณปี 2568 นี้ ที่ขาดไปหรือถูกตัดออก เพราะรัฐบาลต้องการนำเงินไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้งบการลงทุนประเทศลดน้อยลง งบชำระดอกเบี้ยก็ไม่สามารถจ่ายได้
อ่านข่าว : “ศิริกัญญา” ซัด พ.ร.บ.งบฯ ปี 68 รัฐบาล เหลว ตัดทุกงบฯ เพื่อ “ดิจิทัลวอลเล็ต”
ส่วนนายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล สส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล อภิปรายจัดหนักเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ชี้ให้ห็นรัฐบาลกำลังหลงทางถึง 4 เรื่อง ทั้งการไม่ทำการบ้าน เน้นจัดงานเป็นหลัก และการไม่เข้าใจกันของรัฐบาลและหน่วยราชการ “ซอฟต์พาวเวอร์จะไม่เกิด ถ้าเรายังหาความรู้สึกอันน่าหลงใหลที่เราคนไทยและคนต่างชาติ ต่างยอมรับมันยังไม่เจอ ซอฟต์พาวเวอร์จะไม่เกิดเช่นกัน ถ้ารัฐบาล หน่วยงาน หรือแม้แต่ผู้ประกอบการ ยังควรมองว่ามันเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งเพื่อหารายได้จากการท่องเที่ยว” นายณัฐพล ระบุ
อ่านข่าว : “ณัฐพล” ก้าวไกล ชี้ รัฐบาลกำลังหลงทางเรื่อง Soft Power 10 เดือน แทบไม่เห็นผลงาน
ขณะที่ สส.ฝ่ายรัฐบาล ขอชี้แจงบ้าง โดยเฉพาะเรื่องงบกลาง น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ยืนยัน งบกลางไม่ใช่การตีเช็คเปล่าให้นายกฯ เรื่องนี้ถือเป็นการกล่าวหาที่เกินจริง เพราะงบกลางมีการจัดสรร และมี Fixed Cost (ต้นทุนคงที่) ที่ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ใช่เป็นงบที่เข้ากระเป๋านายกรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องนี้หลายคนกำลังเข้าใจผิด จึงอยากให้เข้าใจซะใหม่ และย้ำว่างบประมาณทุกบาทตอบโจทย์คนไทย
อ่านข่าว : “วิสาระดี” ยัน งบกลางไม่ใช่ตีเช็คเปล่าให้นายกฯ ซัดกล่าวหาเกินจริง ขอให้เข้าใจใหม่
ต่อมาฝ่ายค้านอภิปรายอีกรอบ ถึงคิวนายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวโต้ตอบรัฐบาลเศรษฐา ว่า เมื่อครั้งที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน ก็เคยให้ฉายารัฐบาลก่อนว่า เป็นนักกู้แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาลกลับกู้เงินที่สูงเป็นประวัติการณ์ซึ่งจะพาประเทศลงเหว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลกู้ชดเชยการขาดดุลงบประมาณที่สูงถึง 865,700 ล้านบาท หากจะกู้เพื่อมาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น โครงการท่าเรือน้ำลึก ตามที่ตนได้เคยอภิปรายไว้ในสภาฯ ตนไม่ติดใจ แต่สิ่งที่รัฐบาลทำในวันนี้คือ รัฐบาลจะกู้เงินเพื่อมาแจก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควร
อ่านข่าว : “สรรเพชญ” ฉะ รัฐบาลกู้จนหัวแบะ ทำงบหวังผลทางการเมือง กำลังใช้จ่ายเกินตัว
ขณะที่ภายนอกห้องประชุม กลับมาฮือฮาอีกรอบ เมื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ สส.ของพรรค ในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ด้วยตัวเอง ในเวลา 14.00 น. พร้อมทั้งยังได้หารือวงเล็ก กับรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค อาทิ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ, นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่, นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก่อนจะเดินลงมาด้านล่างพร้อมนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ในเวลา 16.20 น. โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงการเข้าสภาวันแรกถูกพาดพิงอภิปรายงบฯว่า สำนักงบประมาณตัดงบประมาณซอฟต์พาวเวอร์หมดไม่สนลูกใคร โดย น.ส.แพทองธาร ระบุว่า “ยิ้มรับค่ะ ยิ้มรับ”
อ่านข่าว : “แพทองธาร” มาสภาฯ ถก สส.-รมต.ของพรรค ให้กำลังใจอภิปรายงบฯ 68 วันแรก
ด้าน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอีกรอบ หลังร่วมรับฟังการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ที่วันนี้ฝ่ายค้านใช้คำรุนแรง ว่า บางทีก็ต้องดูนิดนึง ที่ใช้คำว่าทำงบฯ ที่ต้องใช้แว่นขยายสายตาสั้น อันนี้มองว่าเป็นสีสันการเมือง ไม่ได้คิดอะไรมาก เราก็ตั้งใจทำกันอยู่แล้ว หวังว่าข้าราชการประจำที่ทำกันมาไม่คิดอะไรมากมาย เพราะเขาก็เสียเวลาในการทำเยอะเหลือเกิน มีการใส่ใจเข้าไปพอสมควร แล้วมาใช้คำพูดด้อยค่า แต่ก็ไม่เป็นไร ก็เข้าใจว่าเป็นสีสันทางการเมือง
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับ โดยระหว่างที่เดินไปขึ้นรถ ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า พรุ่งนี้เจอกัน จะเดินทางมาที่รัฐสภาตั้งแต่เช้า ก่อนจะพูดว่า เมื่อเช้ามาเช้าเลย แต่การประชุมเริ่มสาย
โดยพบว่ามีแฟนคลับมารอให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ด้านหน้าอาคารรัฐสภาด้วย เพื่อมอบพวงมาลัยให้ ก่อนนายกรัฐมนตรีจะขึ้นรถออกไป
อ่านข่าว : “เศรษฐา” มองสีสันการเมือง ฝ่ายค้านด้อยค่างบฯ ปี 68 บอก พรุ่งนี้เจอกัน
ภาพ : วัชรชัย คล้ายพงษ์
