“จุลพันธ์” แจงดิจิทัลวอลเล็ต ยันไม่มีเสียหน้า ชี้ รัฐบาลกู้เพิ่มแค่ชั่วคราว

“จุลพันธ์” แจงอภิปรายงบประมาณ 2568 กรณี “ดิจิทัลวอลเล็ต” ยัน ไม่มีเสียหน้า ติง บางวาทกรรมหนักไปนิด ยอมรับ รัฐบาลกู้เพิ่มมากขึ้นจริงแต่แค่ชั่วคราว ยอมขาดดุลเพิ่ม เหตุต้องการสร้างเม็ดเงินใหม่ใส่ลงระบบ

เมื่อเวลา 18.52 น. วันที่ 19 มิถุนายน 2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 3,752,700 ล้านบาท ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 1 ครั้งที่ 2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ว่า ขอบคุณเพื่อสมาชิกที่นำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ บางส่วนอาจจะหนักวาทกรรมไปนิด แต่ก็รับได้ โดยจะนำไปแก้ไขปรับปรุงในจุดที่สามารถปรับแก้ได้ ซึ่งท้ายที่สุด เป็นอำนาจหน้าที่ของสมาชิกในที่นี้ในการตั้งกรรมาธิการไปพิจารณาปรับลด ปรับเพิ่ม ในส่วนที่มีความเหมาะสมและจำเป็น เป็นสิทธิอันชอบของสภาแห่งนี้ 

ในประเด็นดิจิทัลวอลเล็ต นายจุลพันธ์ ระบุว่า บางวาทกรรมอาจจะหนักไปนิด ไม่ว่าจะเป็น คิดไปทำไป หรือเจ๊งไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ มันไม่ได้เป็นความจริงตามที่ท่านคิดและสะท้อนมา เรื่องเสียหน้าไม่มี รัฐบาลวันนี้ไม่ใช่ของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่เป็นรัฐบาลของประชาชน ร่วมมือกันทำงาน สมัครสมานกลมเกลียว และโครงการต่างๆ ก็เข้าใจและตกลงร่วมกันในการเดินหน้านโยบายของรัฐ เช่น โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ซึ่งเป็นเรื่องมุมมองที่แตกต่างเท่านั้น รัฐบาลมองว่ากระบวนการในการสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เพื่อให้มีเม็ดเงินเพียงพอที่จะแบ่งสรรปันส่วนระหว่างประชาชนจากการเจริญเติบโต สามารถทำได้ และควรต้องทำก่อน 

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อไปว่า วันนี้เศรษฐกิจเติบโตในระดับที่ต่ำ ไม่เป็นไปตามศักยภาพ อันนี้เป็นมุมมองที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน รัฐบาลนี้เน้นในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องการที่จะอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจเพื่อเติมน้ำในบ่อ ให้ประชาชนคนไทยสามารถที่จะหายใจหายคอได้ สามารถที่จะมีกำลังไปบริโภค ไปต่อยอดการลงทุนสำหรับอาชีพของเขา สร้างสภาพคล่องให้กับประชาชน ให้มีกำลังในการเดินหน้าต่อไป คำว่าคิดไปทำไป ไม่ใช่ แต่ต้องยอมรับความจริงว่าเรารับมรดกมาจากรัฐบาลก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระดับหนี้สาธารณะ ในระดับหนี้ครัวเรือนที่ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ทั้งหมดนี้มาถึงจุดที่ถึงมือเรา และเรามีหน้าที่บริหารจัดการเดินหน้าต่อไป

...

“แน่นอนครับว่า เรื่องคำว่าคิดไปทำไปเนี่ย จะว่าไปแล้วมันก็แย้งกันกับเรื่องที่ท่านบอกว่าเสียหน้าไม่ได้ ผมเป็นคนดำเนินโครงการเรื่องของดิจิทัลวอลเล็ตมาตั้งแต่ต้น การปรับเปลี่ยนแต่ละครั้งผมโดนเขาว่านะครับ ท่านก็คงรู้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนในเรื่องเกณฑ์ เช่น ลดจำนวนคนลงมาเหลือ 50 ล้านคน เป็นต้น ตัดคนที่มีกำลังเงินสูง รายได้สูง แล้วก็มีเงินออกสูงออกเนี่ย เป็นข้อเสนอจากหน่วยงานซึ่งเราต้องรับฟัง บางอย่างเราต้องถอยเพื่อที่จะเดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง” 

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงย้ำว่า เราเข้าใจข้อจำกัด สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ต้องบริหารจัดการให้เหมาะสมที่สุดเพื่อเดินหน้าแต่ละโครงการ โดยใช้เม็ดเงินอย่างประหยัด คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด นี่จึงไม่ใช่การไม่รอบคอบ แต่นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตต้องใช้คำว่าคิดนอกกรอบ นอกจากวางรากฐานทางเศรษฐกิจดิจิทัล ยังจะมีการสร้างระบบเซตเทิลเมนต์กลาง เรื่องของการเงิน การเคลียริ่งเฮาส์ (Clearing house) หรือโอนถ่ายเงินกลางของรัฐให้ประชาชนมีแอปพลิเคชันกลางให้บริการประชาชน จะกระตุ้นคน 50 ล้านคน มาลงทะเบียนกับรัฐ จะทำให้บัตรประจำตัวดิจิทัลสามารถใช้ล็อกอินทุกบริการของรัฐในอนาคต จะมีการยืนยันตัวตนผ่านโทรศัพท์มือถือ ใช้บริการของรัฐได้ทุกประเภท นี่คือประโยชน์ของประชาชนและรัฐอย่างมหาศาล 

อีกทั้ง การทำธุรกรรมกับรัฐจะง่ายขึ้น หลากหลาย ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปหน่วยงานของรัฐสำหรับหลายๆ ธุรกรรม เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ ลดการตัดสินโดยบุคลากร ซึ่งหลายครั้งเป็นช่องโหว่ทุจริตคอร์รัปชันที่จะเกิดการรั่วไหลของงบประมาณ และให้บริการ 24 ชั่วโมง ขณะที่ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ด้วยกลไกแอปพลิเคชันใหม่จะยืนยันได้ว่าอะไรก็ตามที่แจ้งเตือนมาคือระบบของรัฐ ทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจและลดการถูกหลอกลวง นอกจากนี้ ระบบป้องกันเตือนภัยสาธารณะ ซึ่งสามารถบรรจุเข้ามาได้ในระบบ และอื่นๆ อีกมาก

ทั้งนี้ ดิจิทัลวอลเล็ตไม่ใช่เป็นเพียงหนึ่งโครงการของรัฐ แน่นอนเป็นเรือธง อันนี้ยอมรับ เพราะเป็นโครงการใหญ่ และเป็นโครงการที่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศรอคอยกับการที่เม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจจะลงไปถึงมือ แต่อย่างไรก็ตาม โครงการอื่นๆ โดยเฉพาะที่เป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ก็ยังมีควบคู่กันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทักษะแรงงาน การผลิตอุตสาหกรรม S-curve อุตสาหกรรมแห่งอนาคต ก็มีอยู่โดยตลอด

“เรื่องของพื้นที่ทางการคลัง (Fiscal Space) มีการพูดถึงว่าวันนี้เรากู้เต็มเพดาน ต้องยอมรับครับว่าเรากู้เพิ่มมากขึ้นจริงๆ ในปีนี้ แต่มันเป็นเพียงการกู้ที่เพิ่มมากขึ้นชั่วคราว เพื่อมาดำเนินโครงการในการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างเช่น ดิจิทัลวอลเล็ต มีข้อห่วงใยว่าหากเรากู้แล้วเราขาดดุลเต็มเพดาน ในกรณีที่เกิดวิกฤติแล้วเราจะไม่สามารถปรับตัวรองรับได้ อันนี้เป็นความเข้าใจในเรื่องของกลไกงบประมาณและกลไกวินัยทางการเงินการคลังของประเทศไทยที่ยังคลาดเคลื่อน ในข้อเท็จจริงมีกลไกตาม พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการภาครัฐที่จะสามารถรองรับ ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตการณ์ในลักษณะใดก็ได้ เรายังสามารถเดินหน้าได้” 

พร้อมขอถามกลับไปว่า วันนี้สถานการณ์เศรษฐกิจไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีนัก พี่น้องประชาชนยังเดือดร้อนในเรื่องของรายรับ ค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพประจำวัน วันนี้เราจะใช้พื้นที่ทางการคลังลงไปเพื่อไม่ให้เกิดวิกฤติ ทำให้เศรษฐกิจเติบโตอยู่ในระดับที่เหมาะสม หรือจะรอให้เศรษฐกิจหนักไปกว่านี้ แล้วค่อยเอาพื้นที่ทางการคลังไปซ่อม เราผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาหลายครั้ง กลไกที่เศรษฐกิจไปถึงจุดที่ตกต่ำ เราต้องใช้งบประมาณลงไปเยียวยาแก้ไขสูงกว่าอย่างมหาศาล นี่จึงเป็นแนวทางของรัฐบาลชุดปัจจุบัน วันนี้เรามีความต้องใช้พื้นที่ทางการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชาชนกลับมาจับจ่ายใช้สอย ให้เศรษฐกิจกลับมาหมุนเวียนอีกครั้ง

ในตอนท้าย นายจุลพันธ์ ยังได้ชี้แจงต่อประเด็นงบประมาณที่มีการกล่าวอ้างว่าถูกตัดไป 167,000 ล้านบาท ว่า ได้ไปทำการบ้านกับสำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากันไม่เจอในส่วนนี้ ในข้อเท็จจริงไม่มี จริงๆ แล้วมีคำของบประมาณราว 6.5 ล้านล้านบาท ทุกปีก็เช่นนี้ สุดท้ายสำนักงบประมาณก็มีหน้าที่ไปเรียงลำดับความสำคัญ ปีนี้ได้ออกมา 3.75 ล้านล้านบาท เป็นการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนปกติ ยืนยันว่าไม่มีหน่วยงานที่งบประมาณโดนเบียดบังไปใช้กับดิจิทัลวอลเล็ต ที่สำคัญ ดิจิทัลวอลเล็ตเป็นโครงการที่เรายอมขาดดุลเพิ่มเติม คือเติมการขาดดุลเข้าไป เพราะต้องการสร้างเม็ดเงินใหม่ใส่ลงในระบบ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ เป็นกลไกที่จะยืนยันได้ว่าเงินทุกบาททุกสตางค์เกิดประสิทธิภาพ และสามารถลงไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และเกิดการหมุนเวียนหลายๆ รอบ เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนมากที่สุด และจบการชี้แจงในเวลา 19.06 น.

(อ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 โดยสังเขป)



คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...