โชว์กินห่านพะโล้ “ทักษิณ” สยบลือ แกล้งป่วยเข้าโรงพยาบาลไม่ไปศาล 18 มิ.ย.นี้

“ชัยธวัช” โอ่คนก้าวไกลไม่มีใครกลัวถูกยุบพรรค สส.ยังแกร่งพร้อมลุยต่อ ปัด “ก้าวใหม่” ยังไม่ใช่ชื่อพรรคสำรอง แค่แฟนคลับแต่งเพลงปล่อยลงยูทูบให้กำลังใจ “เด็ก ปชป.” สแกนงบฯปี 68 ซัดรัฐบาลกู้บานเสี่ยงชนเพดาน พอกหนี้มโหฬาร แต่ปั่นรายได้ต่ำเป้า เฉ่งจัดงบฯย่ำรอยเดิม ไม่จริงใจ ไม่ทำอะไรใหม่ๆ สวนทางขายฝันหาเสียง “อุ๊งอิ๊งค์” คุมทัพ 20 สส.เพื่อไทยอภิปรายอวยนโยบายเรือธง “ธนกร” ดักคอฝ่ายค้านไม่ใช่เวทีซ้อมซักฟอก “วรชัย” เผยคนเสื้อแดงนัดยกพลให้กำลังใจ “ทักษิณ” “หมอวรงค์” ปูดอดีตผู้นำเข้า รพ.จ่อเบี้ยวเข้าพบอัยการ แทงกั๊กให้จับตาดูคนใกล้ชิดยันอดีตนายกฯไปศาลแน่ 18 มิ.ย. “ตรีชฎา” สยบข่าวโชว์รูปหรา “ทักษิณ” โผล่นั่งโซ้ยห่านพะโล้ร้านดังในตำนาน

พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ทางการเมือง หลังศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้พิจารณายุบพรรคก้าวไกล ฐานกระทำการล้มล้าง การปกครองฯ โดยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค ก.ก. ระบุการประชุม สส.ของพรรคที่ผ่านมา มีการทำความเข้าใจแนวทางต่อสู้คดี โดย สส.ของพรรค ไม่มีอาการหวาดกลัว ยังคงพร้อมปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

...

“ชัยธวัช” ยัน สส.ก.ก.ไม่กลัวถูกยุบพรรค

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความ พร้อมรับสถานการณ์ทางการเมือง รองรับกรณีที่ศาล รัฐธรรมนูญจะพิจารณาคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้พิจารณายุบพรรคก้าวไกล ฐานกระทำการล้มล้างการปกครองฯ ว่า ในการประชุม สส.พรรค ก.ก.ครั้งล่าสุด ความจริง สส.ในพรรคเพิ่งจะได้ฟังข้อต่อสู้ ของเราแบบฉบับเต็มๆ คือครั้งแรกรับฟังพร้อมกับสื่อมวลชนและประชาชน ตอนที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ก.ก. แถลงข่าวเรื่องคดี ยุบพรรค ได้ฉายภาพให้ สส.ได้เข้าใจว่ามันจะเกิด อะไรขึ้นได้บ้าง สส.ก็เข้าใจและไม่ได้มีอาการกลัว หรือว่าอะไรเลย ส่วนใหญ่ สส.พร้อมทำหน้าที่

ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นพร้อมเดินหน้า

เมื่อถามถึงการเตรียมพร้อม แถว 3 ของพรรค ก.ก.นายชัยธวัชตอบว่า เราไม่ได้แบ่งแถว 2 แถว 3 แถว 10 แต่ให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นทีม เป็นพรรค ใช้ระบบความรู้ความสามารถ ไม่ได้ไปยึดว่า คนไหนอาวุโสกว่าใคร คนไหนเป็นหัวหน้ามุ้ง ดังนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพร้อมเดินหน้า เวลาอยู่ข้างเรา ไม่สำคัญเท่าประชาชนอยู่ข้างเราหรือไม่ ซึ่งเวลาอยู่ข้างเรา แต่ประชาชนไม่อยู่ข้างเรา ไม่มีความหมาย

“ก้าวใหม่” โผล่ยูทูบไม่ใช่ชื่อสำรอง

เมื่อถามถึงกรณีมีผู้อัปโหลดเพลง “พรรคก้าวใหม่” ลงบนยูทูบ คำร้อง/ทำนอง/ขับร้อง โดย อาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ และพรรคก้าวใหม่ เป็นชื่อสำรอง ของพรรค ก.ก.หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า เรามีแฟนคลับเยอะ เหมือนหัวคะแนนธรรมชาติช่วยแต่งเพลงหาเสียง โดยที่เราไม่ได้ทำ ไม่มีอะไรหรอก ไม่ได้เกี่ยวกับพรรค ก.ก. ไม่ได้เกี่ยวกับชื่อพรรคใหม่ อะไรด้วย ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะพิจารณาเรื่องนั้น ยังอยู่ในขั้นที่เราสู้คดีอย่างเต็มที่ ถ้าผลออกมาเลวร้าย คิดว่าเรื่องที่ยากจริงๆคือ สส.และทีมงานที่เหลืออยู่ จะต้องแบกรับความคาดหวังประชาชนให้ได้ เป็นสิ่ง ที่ยากที่สุด ยากกว่าการหาพรรคใหม่

ต้องให้โอกาสนิรโทษคนติดคดี 112

เมื่อถามถึงเรื่องรูปแบบคณะกรรมการนิรโทษ กรรม สุดท้ายแล้วเรื่องนิรโทษกรรมคดี 112 ที่พ่วงอะไร แล้วแต่ พรรค ก.ก.จะได้อานิสงส์หรือไม่ นายชัยธวัช ตอบว่า เวลามาพูดว่าจะได้อานิสงส์ถึง ก.ก.ไหม ไม่ได้ เป็นเป้าหมายของเรา แต่ถ้าเราเว้นคดีมาตรา 112 ไว้ เราเอาออกไปเลยจากการนิรโทษกรรมรอบนี้ มันไม่ได้ ช่วยแก้ไขปัญหาสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ถ้าเราไป คิดว่ายิ่งนิรโทษกรรม ยิ่งเป็นการให้ท้าย ถ้าเช่นนั้นไม่ต้องมีการนิรโทษกรรมอะไรเลยในประเทศนี้ ไม่ต้องมีการอภัยโทษด้วย แต่ละปีในวันสำคัญ เพราะถ้างั้นคนที่ค้ายาเสพติดทุกวันเขารอวันอภัยโทษเท่านั้น วันที่พระราชทานอภัยโทษ เพื่อเขาจะได้กลับไป มีชีวิตปกติถูกไหม ใครเป็นอาชญากรอะไรไม่รู้เต็มไปหมด ทุกวันนี้เขารอ ถ้าบอกว่าการไปนิรโทษจะเป็น การไปให้ท้าย ถ้างั้นการอภัยโทษในวันสำคัญๆ แต่ละปีเป็นการให้ท้ายคนไปค้ายาเสพติด หรือก่อ อาชญากรรมเพิ่ม ไม่ใช่ มันเป็นการให้ความเมตตา เป็นการคืนชีวิตให้กับคน เพื่อให้คนไปปรับตัวใหม่

ดักคอถกงบฯไม่ใช่เวทีซ้อมซักฟอก

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ในฐาน สส.พรรค รทสช.พร้อมร่วมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาทที่จะมีขึ้นวันที่ 19-21 มิ.ย. การใช้เวลา 3 วัน ถือว่าเพียงพอ รัฐบาลทุกกระทรวงมีความพร้อมชี้แจงงบฯ รวมถึงพรรค รทสช. ทั้งกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และที่เกี่ยวข้อง พร้อมร่วมพิจารณางบฯแผ่นดินอย่าง รอบคอบ มีความคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และประเทศชาติ มั่นใจว่าจะผ่านการพิจารณาของสภาฯ เพื่อให้การเบิกจ่ายงบฯ เป็นไปตามกรอบเวลาไม่ล่าช้า อยากเห็นการอภิปรายของฝ่ายค้านเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ รักษาเวลา ระเบียบการประชุม ตรวจสอบ เสนอแนะนำ ทำได้ตามหลักการ ไม่ใช้อารมณ์ หรือวาทกรรมทางการเมือง ไม่อยากเห็นการใช้เวทีอภิปรายงบฯ เป็นเวทีซักซ้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ อย่างที่เคยเกิดขึ้น ขอให้หลีกเลี่ยงการใช้วาทกรรมที่รุนแรง เลี่ยงสร้างคอนเทนต์ดราม่า เพื่อเอาไปลง ในโซเชียล ขอให้ยึดผลประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ไม่คิดตีกินทางการเมือง

“สรรเพชญ” ติง รบ.กู้จนชนเพดาน

นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาฯกล่าวถึง ร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 68 ที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาในสภาฯวันที่ 19-21 มิ.ย. ว่า เอกสารร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 68 มีข้อมูลกว่า 10,000 หน้า จะส่งให้ สส.ไปศึกษาเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ดูแล้วน่าเป็นห่วงคือการตั้งวงเงินกว่า 3.7 ล้านล้านบาท เป็นการกู้ขาดดุล กำหนดวงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบฯ ถึง 865,700 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เกือบเต็มเพดานกรอบวงเงินที่รัฐบาลกู้ได้ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังและเมื่อดูสถานะการคลังระยะปานกลางรัฐบาล ที่ประมาณการว่าปี 68 จะมีรายรับราว 2.8 ล้านล้านบาท และปี 69 จะมีรายรับราว 3 ล้านล้านบาท สิ่งที่น่ากังวลคือรัฐบาลจะมีรายได้ตามเป้าจริงหรือไม่ เพราะปีที่ผ่านมามักมีรายได้ไม่ตามเป้า ต้องกู้เพื่อชดเชยเงินคงคลังสูงขึ้นไปอีก ยิ่งกู้มาก รัฐบาลเสี่ยงต่อการกู้ชนเพดาน จะเกิดผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจในอนาคต ชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลไม่จริงใจและไม่กล้าทำอะไรใหม่ๆ ยังทำงบฯแบบเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สวนทางนโยบายที่ประกาศหาเสียงให้คนไทยมีกินมีใช้

ซัดก่อหนี้ใหญ่สวนทางหาเสียงไว้

“ในงบปี 68 ชี้ให้เห็นชัดว่า รัฐบาลตั้งค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็ง ของระบบเศรษฐกิจกว่า 152,700 ล้านบาทในงบกลางเพื่อทำนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เพราะรัฐบาลนี้ถนัดทำนโยบายโปรยเงินแบบเฮลิคอปเตอร์ มันนี่ แทนที่รัฐบาลจะหาเงินใหม่จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้าประเทศเพื่อทำนโยบาย แต่กลับใช้ทางลัด คือการกู้เงินเพื่อทำนโยบาย เสมือนเป็นการสูบเลือดของประชาชน ที่สำคัญรัฐบาลต้องให้ความกระจ่างกับประชาชน ในเงื่อนไขการใช้จ่ายเงินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่าสามารถซื้อโทรศัพท์ได้หรือไม่ เพราะถ้าหากซื้อได้ ก็อาจเป็นการเอื้อนายทุนค่ายมือถือรายใหญ่ที่ขายเครื่องพร้อมแพ็กเกจให้กับประชาชนโดยใช้เงินจากโครงการของรัฐบาล งบปี 68 ชี้ชัดว่ารัฐบาลมีความสามารถในการกู้เงินและไปล้วงเงินจากที่อื่นมาได้ดีกว่าการหาเงินใหม่ๆ เข้าสู่ระบบ จนวันนี้รัฐบาลยังตอบไม่ได้ว่าจะหาเงินจากที่ไหนมาใช้คืน หรือชดเชยคืนเงินที่เอามาทำนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเลย” นายสรรเพชญกล่าว

“อุ๊งอิ๊งค์” คุมทัพอภิปรายงบฯปี 68

นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการประชุม สส.พรรค พท. วันที่ 17 มิ.ย.ว่า เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญที่มีเรื่องการแก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2564 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯวันที่ 18 มิ.ย. และการวางขุนพลเพื่ออภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 68 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ วาระแรก วันที่ 19-21 มิ.ย. การอภิปรายครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา เพราะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. ลงมาดูเอง บอกว่าอยากให้มีคนพูดถึงนโยบายกระทรวงต่างๆ โดยเฉพาะ ไม่ใช่ สส.ใครอยากลงชื่อก็มาลงชื่อ แต่ไม่รู้พูดเรื่องอะไรบ้าง บางคนพูดซ้ำกัน ทำให้ประชาชนงง น่าเบื่อ การอภิปรายครั้งนี้วางขุนพลหลักไว้ประมาณ 20 คน ที่จะมาพูดในรายกระทรวงนั้นๆ หากมี สส.พูดเสริมในรายกระทรวงก็ทำได้ เพียงแต่ต้องมีคนหลักๆอยู่ จะเป็น สส.รุ่นใหม่ที่จะสื่อสารไปถึงประชาชนว่า การจัดทำงบประมาณปีนี้มีนโยบายใดบ้าง ในวันที่ 18 มิ.ย.นอกจากจะมีการประชุม สส.พรรคแล้ว จะซักซ้อมผู้อภิปรายหลักๆด้วย

จัดขุนพลอวยนโยบายเรือธง

เมื่อถามว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตและโครงการซอฟต์พาวเวอร์เป็นนโยบายเรือธงพรรค พท.ต้องอภิปรายสนับสนุนหรือไม่ นายดนุพรตอบว่า มี เพราะเกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดิน จะมีผู้อภิปรายถึงอยู่แล้วในทุกด้าน เมื่อถามว่าหากฝ่ายค้านมุ่งอภิปรายโครงการดิจิทัลวอลเล็ตและซอฟต์พาวเวอร์ เป็นหลัก มั่นใจหรือไม่รัฐมนตรีจะชี้แจงได้ นายดนุพร ตอบว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับ เป็นนโยบายที่หาเสียงไว้ตั้งแต่ช่วงเลือกตั้ง สส.รัฐบาลไม่มีหน้าที่ตอบโต้ฝ่ายค้าน คนที่จะตอบโต้หรือชี้แจงคือรัฐมนตรี ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ฝ่ายค้านจะมีข้อท้วงติงเรื่องการจัดงบฯ เป็นเรื่องปกติไม่น่าห่วง มั่นใจงบฯปี 68 วาระแรกจะผ่านสภาฯฉลุย เพราะงบฯปี 68 เป็นงบฯปีแรกที่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ทำเอง เป็นความรับผิดชอบพรรคร่วมรัฐบาล 100% เชื่อว่ารัฐมนตรีทุกกระทรวงพร้อมตอบทุกคำถาม ส่วนการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ประชามติ พรรค พท. เตรียม สส.อภิปรายหลักๆอยู่ 4-5 คน และผู้ลงชื่ออภิปรายเสริมอีก 15 คน การประชุมไม่น่าจะเลิกดึกมาก น่าจะเลิกประมาณ 17.00-18.00 น. เนื่องจากวันถัดไปต้องพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 68 มั่นใจร่าง พ.ร.บ.ประชามติผ่านสภาฯแน่นอน เพราะฝ่ายค้าน เห็นด้วย เมื่อฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลเห็นไปในทางเดียวกันมั่นใจว่าผ่านแน่นอน

เสื้อแดงนัดยกพลเชียร์ “ทักษิณ”

อีกเรื่อง กรณีอัยการสูงสุดนัดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มารายงานตัวเพื่อส่งฟ้องคดีมาตรา 112 ต่อศาลในวันที่ 18 มิ.ย. วันเดียวกัน นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า นายทักษิณไม่ได้รับความยุติธรรมจากเรื่องที่มีต้นเหตุจากการยึดอำนาจของ คสช. รวมถึงการถอดถอนยศนายทักษิณ มีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯที่เกิดจากการใช้อำนาจที่ไม่ได้อยู่ในกระบวนการยุติธรรมปกติ ดังนั้น วันที่ 18 มิ.ย. คนเสื้อแดงที่มีความรักความผูกพันกับนายทักษิณได้พูดคุยกันว่าจะเดินทางไปให้กำลังใจนายทักษิณ ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป เพื่อแสดงให้เห็นว่าพี่น้องคนเสื้อแดงทั้งประเทศยังรักและเคารพนายทักษิณ ต้องการเห็นความเป็นธรรมเกิดขึ้นในประเทศ ให้ประเทศก้าวข้ามอำนาจ คสช.ที่ไม่ได้มาตามกระบวนการยุติธรรมไปเสียที

“วรงค์” ปูด “ทักษิณ” เข้า รพ.กั๊กจับตาดู

เมื่อเวลา 10.00 น. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความ “ด่วน ถุงขนม 2,000 ล้าน ประเทศสารขัณฑ์พ่นพิษนักโทษ 112 ใช้วิธีป่วย ไปนอนในโรงพยาบาลเมื่อคืน คาดว่า 18 มิ.ย.นี้ ไม่มี” และโพสต์อีกครั้งเมื่อเวลา 13.00 น.วันเดียวกัน มีใจความว่า “นักโทษ 112 มีความพลิ้วสูงมาก ปรับแผนได้ตลอด เพื่อไม่ให้ใครตามได้ทัน ต้องติดตามวันจริง 18 มิถุนายนนี้เท่านั้น” โดย นพ.วรงค์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า สิ่งที่โพสต์เฟซบุ๊กไปเป็นข้อมูลที่ได้รับทราบจากแหล่งข่าว เป็นบุคคลที่เชื่อถือได้ เขาบอกมาช่วงเช้าว่า ก่อนหน้านี้นาย ทักษิณ ชินวัตร เข้าโรงพยาบาล ต่อมาบ่ายวันเดียวกันแหล่งข่าวคนเดิมโทร.มาแจ้งว่า เรื่องนี้นายทักษิณเขาปรับแผนตลอดเวลาในแต่ละวัน จึงออกได้ทุกหน้าว่า พอถึงวันที่ 18 มิ.ย. เขาจะไปที่ศาลก็ได้หรือไม่ไปก็ได้ เพราะเขามีการปรับแผน สถานการณ์มันไม่นิ่ง จึงได้โพสต์ช่วงบ่ายว่า ให้จับตาของจริงคือวันที่ 18 มิ.ย. เพราะเขาเดินเกมตลอดมันออกได้ทุกหน้า

ไม่มีใครจ่ายเงินสด 2 พันล้าน

นพ.วรงค์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีคนพรรคเพื่อไทยออกมาปกป้องเรื่องถุงขนม 2 พันล้าน ภาค 2 ที่ฮ่องกงว่า เรื่องนี้ใครจะจ่ายเงินสด 2 พันล้านบาท เพราะมันต้องใช้การขนส่ง และมีน้ำหนักถึง 2 พันกิโลกรัมนั้น ตนอยากบอกว่า ปัจจุบันการให้ผลประโยชน์ ไม่มีใครให้เงินสดโดยเฉพาะในต่างประเทศ ซึ่งอาจจะให้ผ่านโพยก๊วน หรือให้ในรูปทรัพย์สินอื่น แต่หลักฐานการเดินทางไป เดินทางกลับมันมีชัด ไม่มีใครโง่พอที่จะจ่ายเงินสดๆ 2 พันล้านแน่ แต่ผลประโยชน์สามารถให้กันได้หลายรูปแบบ

โต้กลับยันอดีตนายกฯ ไปศาล 18 มิ.ย.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ถึงกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความ “ด่วน ถุงขนม 2,000 ล้าน ประเทศสารขัณฑ์พ่นพิษ นักโทษ 112 ใช้วิธีป่วย ไปนอนโรงพยาบาลเมื่อคืน คาดว่า 18 มิ.ย.นี้จะไม่มา” ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจไม่เดินทางไปรายงานตัวต่ออัยการ เพื่อนำตัวไปส่งฟ้องศาลในคดีความผิดมาตรา 112 ในวันที่ 18 มิ.ย. แหล่งข่าวใกล้ชิดนายทักษิณยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยนายทักษิณพร้อมจะเดินทางไปรายงานตัว ต่ออัยการในวันที่ 18 มิ.ย.แน่นอน

โชว์ตัวหรากินห่านพะโล้ร้านดัง

วันเดียวกัน น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวง สาธารณสุข ฝ่ายการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กพร้อมภาพถ่ายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว-เทา นั่งรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านฉั่ว คิมเฮง โดยระบุว่า “วันนี้ (16 มิ.ย.) ท่านทักษิณแวะไปทานห่านพะโล้ในตำนาน 4 ชั่วอายุคน ที่ร้าน ฉั่วคิมเฮง สาขากรุงเทพกรีฑา เลียบทางมอเตอร์เวย์ ถูกใจป๊าอ๋าเจ้าของร้านใส่เสื้อแดงมารับเลย เป็นร้านห่านพะโล้ “สี่ชั่วอายุคน” โดยยังคงรักษา “น้ำพะโล้” ในหม้อไม่ให้แห้ง กักเก็บความอร่อยอายุร้อยปีนี้ ให้ยังอยู่จวบจนทุกวันนี้ ร้านย้ายมาจากแถวสี่แยกคลองตัน ปัจจุบันตั้งอยู่ริมทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ถนนกรุงเทพฯ-ชลบุรี (สายใหม่) รสชาติคงคุณภาพดั้งเดิม”

“จิราพร” ชวนติดตาม “คุยกับเศรษฐา”

น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจําสํานักนายกฯ กล่าวถึงความพร้อมของรายการ “คุยกับเศรษฐา” ที่จะออกอากาศตอนแรกในวันที่ 22 มิ.ย. ทางช่อง NBT ว่า เป็นรายการสนทนาวิสัยทัศน์ มุมมอง และแนวทางการทํางานของรัฐบาล โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ พิธีกรจะสลับกันมาทำหน้าที่รวบรวมข้อสงสัยและข้อคําถามของพี่น้องประชาชนจากแหล่งต่างๆมาสอบถามโดยตรงต่อนายกฯ และยังเป็นเวทีให้นายกฯ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง รายงานความคืบหน้าการทํางาน ทำให้พี่น้องประชาชนได้ทราบถึงทิศทางของนโยบาย บทบาทและหน้าที่ของรัฐบาล โดยเทปแรกจะได้เห็นนายกฯในภาพลักษณ์กระฉับกระเฉงทะมัดทะแมง ถอดสูทพับแขนเสื้อ พูดคุยการทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังในบรรยากาศที่เป็นกันเอง แต่ละเทปจะถ่ายทำในสถานที่แตกต่างกันไป จึงเชิญชวนติดตามรายการ “คุยกับเศรษฐา” ซึ่งจะออกอากาศทุกวันเสาร์ที่ 3 ของเดือน เวลา 08.00-08.30 น.

“เทพไท” เหน็บฮุบสื่อรัฐไปเป็น “สื่อชิน”

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กในหัวเรื่อง “อย่าเอาทีวีช่องรัฐ เป็นทีวี ช่องชิน” มีใจความว่า เห็นข่าวอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ชี้แจงกรณีมีอดีตผู้จัดรายการจาก Voice TV เข้ามาจัดรายการ “คุยคลายข่าว” ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง NBT2HD ว่า ไม่ใช่มีแต่คนจากวอยซ์ทีวี แต่ได้ดึงคนอื่นๆจากช่องต่างๆที่มีความรู้ความสามารถหลายคน และได้ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการทุกอย่าง ตนเห็นใจและเข้าใจเหตุผลที่ฝ่ายข้าราชการประจำต้องสนองตอบต่อนโยบายฝ่ายการเมือง ช่อง NBT ของกรมประชาสัมพันธ์ เป็นสื่อของรัฐ ทำหน้าที่กระบอกเสียงของรัฐบาล ทุกยุคไม่ว่าใครเข้ามาเป็นรัฐบาลจะปรับผังรายการและนำคนที่มีอุดมการณ์เดียวกับรัฐบาลมาจัดรายการเป็นกระบอกเสียงประชาสัมพันธ์ผลงาน เป็นสื่อโฆษณาชวนเชื่อให้กับรัฐบาล ในอดีตเคยนำแกนนำ นปช.3 เกลอ จัดรายการความจริงวันนี้มาแล้ว อยากจะตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มพิธีกรของช่องว๊อยซ์ทีวีที่มาร่วมกับช่อง NBT ทั้งหมดจะเป็นวอยซ์สายแดง ส่วนวอยซ์สายส้ม ไม่ได้มีสิทธิ์มาร่วมด้วย

อย่าตีเนียนย้ายเครือข่ายซุก NBT

“วันนี้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯที่คุมกรมประชา สัมพันธ์เป็นคนมาจากพรรค พท. เป็นเรื่องปกติที่นำคนของตัวเองมาจัดรายการเพื่อประชาสัมพันธ์ เป็นกระบอกเสียงเพื่อสู้กับสื่ออิสระที่ไม่ได้เชียร์รัฐบาล แต่แปลกคือ เมื่อพรรค พท.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ไม่กี่วัน สถานีวอยซ์ทีวีปิดกิจการลงทันที เหมือนการวางแผนย้ายกิจการที่ใช้เงินทุนของครอบครัวชินวัตรมาอยู่ที่ช่อง NBT ใช้งบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีของประชาชน ไม่เนียนพอ ดูแล้วน่าเกลียดจนเกินไป ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ขณะนี้ ไม่ติดใจเรื่องวิธีการใช้สื่อของรัฐโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาลเลย แต่ที่ติดใจคือทำไมต้องจงใจปิดกิจการวอยซ์ทีวีที่ผมเป็นแฟนประจำ แล้วพาเหรดมาอยู่ที่ NBT ทำเป็นเสมือนกิจการของครอบครัว ขอเตือนไว้ว่าอย่าใช้สื่อรัฐมาทำการเมืองเหมือนกับเป็นสื่อของตัวเอง” นายเทพไทระบุ

นิด้าโพล “แจ๊ด” นำโด่ง อบจ.ปทุมฯ

วันเดียวกัน นิด้าโพลเปิดเผยผลการสำรวจของประชาชนเรื่อง “ใครกล้า ฟันธง...เลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี 2567” ระหว่างวันที่ 11-12 มิ.ย.จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งมีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่ในจังหวัดปทุมธานี รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,067 หน่วยตัวอย่าง โดยเมื่อถามถึงบุคคลที่จะสนับสนุนให้เป็นนายก อบจ.ปทุมธานี พบว่า ร้อยละ 31.87 ระบุว่าเป็น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รองลงมา ร้อยละ 28.68 นายชาญ พวงเพ็ชร์ ร้อยละ 17.43 จะไปลงคะแนนไม่เลือกใคร ร้อยละ 8.98 ยังไม่ตัดสินใจ ร้อยละ 4.22 จะไม่ไปลงคะแนน ร้อยละ 3.19 นายนพดล ลัดดาแย้ม ร้อยละ 1.97 นายอธิวัฒน์ สอนเนย และร้อยละ 3.66 ไม่ตอบ เมื่อถามถึงผลกระทบต่อการตัดสินใจเลือกนายกอบจ.ปทุมธานี จากกรณีที่ทักษิณ ชินวัตร เดินทางไป จ.ปทุมธานี พบว่า ร้อยละ 81.91 ระบุว่า ไม่ส่งผลกระทบเลย ร้อยละ 5.25 ไม่ค่อยส่งผลกระทบ ร้อยละ 5.06 ระบุค่อนข้างส่งผลกระทบ ร้อยละ 3.56 ระบุว่า ส่งผลกระทบอย่างมาก และร้อยละ 4.22 ระบุว่า ไม่ตอบ

นายกฯส่องพัฒนาสนามบินหัวหิน

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ท่าอากาศยานหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาช่วงวันหยุดพักผ่อนติดตามความคืบหน้าการพัฒนาท่าอากาศยานหัวหินในการรองรับเที่ยวบินพาณิชย์ พร้อมนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม เพื่อมุ่งให้เป็น hub สำหรับการท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.เพชรบุรีและ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และมีแผนจากเดิมมีเพียงวันละ 1 เที่ยวบิน หัวหิน-เชียงใหม่ โดยแอร์เอเชียจะขยายเปิดเส้นทางบินจากภูมิภาคอื่นเพิ่มเติม โดยเฉพาะจากจังหวัดภาคอีสานและภาคใต้ และในอนาคตจะมีการเปิดเส้นทางเพิ่มจากหัวหินไปมาเลเซีย โดยนายกฯได้กำชับให้นายสุริยะเร่งปรับปรุงและประสานกับสายการบินพาณิชย์ที่พร้อมจะให้บริการในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ก่อนหน้านี้ในการประชุม ครม.สัญจรที่ จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 13-14 พ.ค.นายกฯลงพื้นที่ติดตามการพัฒนาท่าอากาศยานหัวหินแล้วครั้งหนึ่ง และได้เสนอเปลี่ยนชื่อจากท่าอากาศยานหัวหินเป็นท่าอากาศยาน “เพชรหัวหิน”

แฮปปี้ “เพชรหัวหิน” คืบหน้ามาก

ต่อมานายกฯโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียว่า สนามบิน “เพชรหัวหิน” คืบหน้าไปมาก เราเดินสู่การเป็น Aviation Hub และ Tourism Hub ก่อนหน้านี้เคยมาตรวจความพร้อม และเร่งรัดขยายรันเวย์ที่นี่แล้วครั้งหนึ่ง วันนี้ใช้เวลาช่วงวันหยุดมาตรวจความพร้อมที่นี่อีกครั้ง เพราะตอนนี้มีสายการบินพาณิชย์ของแอร์เอเชียเปิดให้บริการเส้นทางบินหัวหิน-เชียงใหม่แล้ว วันละ 1 เที่ยวบิน ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมามากขึ้น เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ เป็นประตูบานหนึ่งสู่การเป็น Aviation Hub และ Tourism Hub โดยสายการบินแอร์เอเชียพร้อมเปิดเส้นทางบินจากภูมิภาคอื่น ทั้งอีสานและใต้มาลงที่นี่เพิ่มเติม ได้กำชับ รมว.คมนาคม และปลัดคมนาคมเร่งปรับปรุงพื้นที่ให้บริการและประสานกับสายการบินพาณิชย์ต่างๆ ที่พร้อมให้บริการในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมาก เปิดเส้นทางบินเพิ่มได้

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...