“สมศักดิ์” ถือฤกษ์ดี เชิญพระเก่าแก่สุโขทัย เข้าห้องทำงานรองนายกรัฐมนตรีวันแรก ด้าน 3 รัฐมนตรี “สุริยะ-อนุชา-มนพร” พร้อมสส.เพื่อไทย 30 คน ร่วมแสดงความยินดี มั่นใจ นำประสบการณ์นั่งเก้าอี้ รมต. 14 สมัย ทำเพื่อชาติ ยอมรับเป็นตำแหน่งที่ถูกใจ
วันที่ 6 กันยายน 2566 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ โดยก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาลเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. โดยภายหลังการประชุม นายสมศักดิ์ พร้อมด้วยภรรยา นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เชิญพระพุทธรูปเก่าแก่ของจังหวัดสุโขทัย เข้าบูชาที่ห้องทำงานรองนายกรัฐมนตรี ตึกบัญชาการ เพื่อความเป็นสิริมงคล
...
สำหรับการเข้าห้องทำงานรองนายกรัฐมนตรีวันแรกของ นายสมศักดิ์ มีรัฐมนตรี และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคเพื่อไทย กว่า 30 คน เข้าร่วมแสดงความยินดีที่ดำรงตำแหน่ง อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม, น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ, นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ สส.สุโขทัย, นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง สส.สุโขทัย, นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล สส.สุโขทัย, น.ส.ประภาพร ทองปากน้ำ สส.สุโขทัย, นายนพพล เหลืองทองนารา สส.พิษณุโลก, นายเชิงชาย ชาลีรินทร์ สส.ชัยภูมิ, นายนิพนธ์ คนขยัน สส.บึงกาฬ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีทั้ง 3 ท่าน และ สส. ที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีและให้กำลังใจตนที่ได้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีครั้งที่ 15 ยอมรับว่าเป็นตำแหน่งที่ถูกใจ เพราะจะได้นำประสบการณ์เป็นรัฐมนตรีหลายสมัยมาบูรณาการงานเพื่อพี่น้องประชาชน หลังได้รับการแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรีมีหลายคนห่วงใยว่าจะทำอะไรได้บ้าง แต่อยากจะบอกว่าไม่ต้องห่วง เพราะเชื่อมั่นว่าที่ตนเป็นรัฐมนตรีมา 14 สมัย จะสามารถนำประสบการณ์มาช่วยประเทศชาติได้ ดังนั้นมั่นใจว่าจะเดินหน้าทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนได้อย่างแน่นอน
“ผมขอแสดงความยินดีกับท่านรัฐมนตรีทั้ง 3 ท่านด้วย ซึ่งก็เป็นคนที่รักใคร่กัน ดังนั้น การทำงานจากนี้ก็จะมีการประสานงานกันได้อย่างราบรื่นแน่นอน อย่าง ท่านอนุชา ถึงแม้จะอยู่คนละพรรค ก็ไม่ใช่ปัญหาอุปสรรค เพราะสามารถทำงานร่วมกันได้ ซึ่งในอนาคต ก็อาจจะมีการทำโครงการร่วมกันในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่รัฐมนตรีทุกท่านจะมาช่วยกันขับเคลื่อนงานเพื่อพี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่มีปัญหาความขัดแย้งอย่างแน่นอน เพราะผมอยู่ตรงไหนก็สามารถทำงานได้ รวมถึงร่วมงานได้กับทุกฝ่าย”