“ชูศักดิ์” วอน อย่าด่วนตัดสินแทนกรรมาธิการนิรโทษกรรม หวั่น นำไปสู่ความขัดแย้งของสังคม ย้ำ มีหน้าที่ศึกษาหาแนวทางการตรากฎหมาย ข้อดี-ข้อเสีย ให้มีความขัดแย้งน้อยที่สุด โดยยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย
วันที่ 16 มิถุนายน 2567 นายชูศักดิ์ ศิรินิล ในฐานะ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการตรากฎหมายนิรโทษกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการศึกษาแนวทางนิรโทษกรรม ว่า เท่าที่ติดตามดู เหมือนมีความพยายามจะรีบสรุปว่าการนิรโทษกรรมที่จะเกิดขึ้นนั้น จะรวมหรือไม่รวมมาตรา 112 ขอเรียนว่าหน้าที่ของกรรมาธิการ เรามิได้ยกร่างกฎหมาย มิได้ยกร่างพระราชบัญญัติ เรามีหน้าที่ในการศึกษาหาแนวทางการตรากฎหมาย ศึกษาข้อดี ข้อเสีย ทางสังคมในทางวิชาการและในทางที่ประเทศไทยสามารถเดินต่อไปได้ โดยปราศจากความขัดแย้งหรือมีความขัดแย้งให้น้อยที่สุด และยังคงยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
นายชูศักดิ์ ระบุต่อไปว่า หน้าที่สำคัญของกรรมาธิการจึงอยู่ที่การศึกษาว่าควรมีการนิรโทษกรรมการกระทำอะไรบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรจะมีการนิรโทษกรรมมาตรา 112 ด้วยหรือไม่ หากมีการนิรโทษกรรมหรือไม่นิรโทษกรรม มีผลดี ผลเสียต่อสังคมอย่างไร หรือจะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างไร ข้อสำคัญที่สุด เราไม่อยากเห็นว่าการคิด การศึกษา การตัดสินใจ จะนำไปสู่ความขัดแย้งของสังคมมากไปกว่าที่เป็นอยู่ จึงขอฝากถึงพรรคการเมือง ฝากถึงสังคม ฝากถึงประชาชนช่วยกันคิดหาทางออกของประเทศ ช่วยกันคิดในการแก้ไขปัญหาของประเทศ และไม่ควรรีบสรุปว่ากรรมาธิการ คิดอย่างนั้นคิดอย่างนี้ ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์กันจนเกินเลยไปจากหน้าที่ เจตนาความตั้งใจของกรรมาธิการ จนอาจนำไปสู่ความหลงผิดก็ได้.
...