นายกรัฐมนตรี น้อมนำกระแสพระราชดำรัสในหลวงบริหารประเทศ แก้ปัญหาให้ประชาชน ลั่นจะเป็นรัฐบาลที่ทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เตรียมลงพื้นที่ขอนแก่น อุดรฯ หนองคาย แจงไม่มีเปลี่ยนคนหากทำงานไม่ได้ ชี้ อะไรที่ทำได้ให้ทำไปก่อน
วันที่ 5 กันยายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำคณะรัฐมนตรีถ่ายภาพหมู่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น รัฐมนตรีทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้ม นายเศรษฐา ได้ยกมือสวัสดีทักทายสื่อมวลชนก่อนที่จะเข้าไปนั่งเก้าอี้ประจำตำแหน่งเพื่อถ่ายรูปร่วมกับคณะรัฐมนตรี จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แถลงร่วมกับคณะรัฐมนตรี โดยกล่าวว่า วันนี้ได้นำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นที่เรียบร้อย แล้วจะขอน้อมนำเอากระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการต่อไป ขอยืนยันรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชนและทุกคนในที่นี้ มาวันนี้มาที่นี่มาเพื่อเป็นตัวแทนของประชาชนทุกคน รัฐบาลนี้มีความตั้งใจ ปัญหามีมากมายจะทำงานอย่างลืมความเหน็ดเหนื่อยทุกวันทุกนาที จะเอาความต้องการของประชาชนทุกคนเป็นที่ตั้ง โดยเริ่มจากวันศุกร์นี้จะลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย เพื่อพูดคุยรับทราบปัญหาของประชาชน มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานต่อไป ส่วนสัปดาห์หน้าวันจันทร์ที่ 11 ก.ย.นี้ จะแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา
นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า รัฐบาลนี้จะสร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งมีประสิทธิภาพโปร่งใส ภายใต้หลักการที่มีส่วนร่วมของประชาชน รัฐบาลจะสร้างโอกาสและความเท่าเทียมให้กับประชาชนให้ประเทศไทย เปลี่ยนผ่านไปสู่ประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนในอนาคต
...
ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษในวันพรุ่งนี้ จะมีวาระเพียงแค่เรื่องเดียวจะมาพูดคุยกันเพื่อเตรียมตัวแถลงนโยบายในวันจันทร์หน้า
ส่วนเรื่องเศรษฐกิจย้ำว่าเป็นเรื่องสำคัญรัฐบาลนี้ทุกคนให้ความสำคัญซึ่งจะไปพูดคุยกันภายในรัฐบาลก่อน และพรรคร่วมเพราะหลายคนอาจจะมีข้อคิดที่ดี กับรัฐมนตรีบางคนก็ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกัน บางคนเพิ่งจะเจอกันวันนี้ครั้งแรก
ส่วนเรื่องงบประมาณที่อาจล่าช้าคิดว่ารัฐมนตรีทุกคน ทราบดีถึงปัญหานี้ และคิดว่าไม่เป็นอุปสรรคในการบริหารประเทศอะไรทำได้ก่อนจะทำทันที ส่วนจะขับเคลื่อนเรื่องไหนก่อนก็คงต้องดู เพราะบางเรื่องอาจจะใช้เวลานาน ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐมนตรีทุกคนด้วย แต่ตนเองเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนเข้าใจและตระหนักถึงปัญหาของประชาชน ดังนั้นเรื่องการเร่งทำงานจนลืมความเหน็ดเหนื่อยไม่ใช่ประเด็น ขอโอกาสให้รัฐมนตรีทุกคนได้ทำงานก่อน
ส่วนนโยบายเร่งด่วน 100 วัน ยืนยันไม่เคยพูด แต่จะพยายามทำให้เร็วที่สุด คิดว่าไม่เกินไตรมาสหนึ่งของปีหน้าก็จะขับเคลื่อนเรื่องเร่งด่วนได้
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า เราเป็นรัฐบาลของประชาชน เชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนเข้าใจและตระหนักดีถึงปัญหาที่เราเผชิญอยู่ปัจจุบัน คงไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก เอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง
ส่วนปัญหาเรื่องปากท้องก็คิดเห็นตรงกับประชาชนว่า เป็นคำถามที่ประชาชนทุกคนก็อยากจะทราบ วันนี้เรื่องปัญหาปากท้องเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด เรื่องหนึ่งที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ ทุกวันมั่นใจว่ารัฐมนตรีทุกคนจะทำงานอย่างหนักจะพยายามเข็นนโยบายที่เป็นประโยชน์ออกมา บางอย่างทำได้เร็ว บางอย่างทำได้ช้า แต่จะไม่เอามาเป็นข้ออ้าง ในการที่จะไม่ทำ ทั้งหมดอะไรที่ทำเร็วๆ เราจะทำก่อน
นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงเพิ่มเติมในประเด็นที่เมื่อวานนี้มีการพูดระหว่างประชุมกับ 16 รัฐมนตรีที่พรรคเพื่อไทย ว่า หากงานไหนทำไม่ได้ก็เปลี่ยนคน ย้ำว่า ตนเองไม่ได้หมายความว่าต้องเปลี่ยนคนทำงานใหม่ แต่หมายความว่าอะไรที่ทำได้ให้ทำไปก่อน หากอะไรยังติดขัดก็ต้องทำต่อไป แต่ไม่ใช่เหตุผลในการที่จะไม่ทำอะไรเลย
พร้อมย้ำว่า รัฐบาลนี้ไม่มีเวลามา Honneymoon period ตั้งแต่เริ่มตั้งรัฐบาลมา ก็เริ่มลงพื้นที่เก็บข้อมูลจากประชาชน เพียงแต่ยังสั่งงานบริหารราชการแผ่นดินไม่ได้ เช่นเดียวกับการลงพื้นที่วันศุกร์-เสาร์นี้ก็จะลงไปเก็บข้อมูลปัญหาของประชาชนมาก่อนแถลงนโยบาย ถึงจะสั่งงานได้ ไม่ต้องเริ่มทำงานทันที
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวย้ำว่า ขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาลนี้ว่ามีความตั้งใจจริงตระหนักดีในปัญหาของประชาชนกำลังเผชิญอยู่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ หรือความแตกแยกทางด้านความคิด รัฐบาลจะให้ความสำคัญเท่าเทียมกัน และจะพยายามเดินไปข้างหน้าจัดการกับปัญหาให้ได้เร็วที่สุด มั่นใจว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ไปด้วยกันตลอด
เมื่อถามถึง นโยบายการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) ขึ้นมาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญนายเศรษฐา กล่าวว่า จะเรียนให้ทราบในการแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 11 ก.ย. ซึ่งจะมีรายละเอียดตรงนั้น
เมื่อถามอีกว่า จะมอบหมายรองนายกฯคนใดให้ดูแลเรื่องกฎหมายเป็นพิเศษ นายเศรษฐา กล่าวว่า เดี๋ยวจะมีการพูดคุยกันในการมอบหมาย ซึ่งมีการวางตัวไว้แล้ว เพราะเป็นรัฐบาลของประชาชน ไม่ใช่อยู่ดีๆเราจะไปตัดสินใจ ต้องถามความเห็นจากรัฐมนตรีทุกท่าน
เมื่อถามอีกว่า นายกฯ ถ้าพูดประโยคหนึ่งให้เข้าหูประชาชนอยากจะพูดว่าอะไร นายเศรษฐา นิ่งคิดครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวว่า “เป็นอะไรที่ยาก ถ้าจะต้องพูดประโยคเดียว ผมขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาลนี้ว่าพวกเรามีความตั้งใจจริง และพวกเราตำหนักดีถึงปัญหาที่ประชาชนเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องความแตกแยกทางความคิด ถ้าเรื่องนี้รัฐบาลจะให้ความสำคัญเท่าเทียมกัน และพยายามเดินไปข้างหน้า รวมถึงจะพยายามจัดการปัญหาเหล่านี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด”
เมื่อถามด้วยว่า หวังว่าพรรคร่วมรัฐบาลที่อยู่ด้วยกันตรงนี้จะอบอุ่นตลอดไปในรัฐบาลชุดนี้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า มั่นใจ มั่นใจ เรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน
เมื่อถามว่า การเดินทางไปประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติครั้งที่ 78 (The 78th UN General Assembly หรือ UNGA 78) ระหว่างวันที่ 18-26 ก.ย. ณ กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา จะบอกกับแต่ละประเทศอย่างไรให้หันกลับมาสนใจประเทศไทย นายเศรษฐา กล่าวว่า มีหลายเรื่องที่ต้องไปพูดคุยกัน แล้วแต่เรื่องที่เราจะไปเจอกับผู้นำในหลายประเทศ ซึ่งอาจจะไปเจอกับนักธุรกิจด้วย จึงขอเตรียมงานก่อน
นอกจากนี้ นายเศรษฐา ปฏิเสธการตอบคำถาม ความอิสระในการบริหารงานของรัฐบาล ทั้งที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังอยู่ในประเทศไทย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะนอนทำเนียบรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ยิ้ม พร้อมระบุว่า “ขอดูก่อน”.