ประวัติ ‘สุทิน คลังแสง’ ทรัพย์สิน 17 ล้าน รมว.กลาโหม ‘พลเรือน’ คนที่ 6

ออกแอ็คชั่นเริ่มลุยงานทันที

สำหรับ ‘สุทิน คลังแสง’ รมว.กลาโหม จากพรรคเพื่อไทยใน ‘ครม.เศรษฐา 1’ ที่มาจาก ‘พลเรือน’ คนที่ 6 ต่อจาก ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช (พรรคประชาธิปัตย์ 27 ส.ค.-23 ก.ย. 2519) ชวน หลีกภัย (พรรค ปชป. 2540-2544) สมัคร สุนทรเวช (พรรคพลังประชาชน 2551) สมชาย วงศ์สวัสดิ์ (พรรคพลังประชาชน 2551) และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย 2556-2557)

หลังจากได้รับโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่ง ‘สนามไชย 1’ เขารุดไปกราบสวัสดี พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีต รมว.กลาโหม สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย เพื่อขอคำปรึกษา เนื่องจากเขาและ พล.อ.ธรรมรักษ์ มีความสนิทสนมกันส่วนตัว ตั้งแต่สมัย ‘สุทิน’ เป็น ‘สส.นกแล’ 

ถัดมา ‘สุทิน’ ควง ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 รับประทานอาหารกับ ‘ว่าที่ผู้นำเหล่าทัพ’ ทั้ง พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด (รอง ผบ.ทสส.) ในฐานะว่าที่ ผบ.ทสส. พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ รอง ผบ.ทบ. ในฐานะว่าที่ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) ในฐานะว่าที่ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และ พล.อ.อ.พันธ์ภักดิ์ พัฒนกุล ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผช.ผบ.ทอ.) ว่าที่ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และชี้แจงเหตุผลที่เป็น ‘พลเรือน’ แต่มาทำหน้าที่ รมว.กลาโหม

ล่าสุดวันนี้ ‘สุทิน’ เข้าพบ ‘บิ๊กโอ๋’ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีต รมว.กลาโหม เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 (ตท.10) รุ่นเดียวกับ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ เพื่อขอคำแนะนำในการทำงาน และหลังจากนี้จะไปพบกับ ‘บิ๊กทหาร’ อีกหลายคน เช่น ‘บิ๊กเหวียง’ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ‘บิ๊กจิ๋ว’ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นต้น

นอกจากนี้ในส่วนการฟอร์มทีมงาน ได้เชิญ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ที่ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ของ ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ เข้ามาเป็นทีมงาน โดยจะถูกแต่งตั้งเป็นผู้ช่วย รมว.กลาโหม ด้วย

‘สุทิน’ ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายของ ‘กองทัพ’ หลังจากแต่งตัวเข้ารับตำแหน่งว่า กองทัพพร้อมทำตามนโยบายของรัฐบาล โดยนโยบายที่จะผลักดัน เช่น การเปลี่ยนการเกณฑ์ทหารเป็นรูปแบบสมัครใจ โดยจะเห็นผลเป็นรูปธรรมทันทีในเดือน เม.ย. 2567 โดยจะเห็นอัตราการเกณฑ์ทหารที่ลดลงจาเดิม และค่อย ๆ หมดไปจนเหลือเพียงการเข้ากองทัพแบบสมัครใจ นอกจากนี้ยังร่วมกันพัฒนากองทัพให้เป็นที่พึ่งของประชาชนมากขึ้น และปรับลดขนาดกองทัพ โดยภายในปี 2570 จะทำให้กองทัพกระชับลง นายพลจะหายไปจำนวนมาก

สำหรับ ‘สุทิน’ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เขามีบทบาททางการเมืองสูงสุด ได้ขึ้นชั้นเป็น ‘เสนาบดี’ คุมกระทรวงความมั่นคงระดับชาติ หลังจากโลดแล่นบนสนามการเมืองมาตั้งแต่ปี 2544 จากอดีตครูสอนคนพิการทางสายตา มาเป็นนักวิจัยประจำ ม.มหาสารคาม กระโดดเข้าร่วมพรรคไทยรักไทย และได้รับชัยชนะเป็น สส.บัญชีรายชื่อ

หลังจากนั้นกราฟชีวิตทางการเมืองของ ‘สุทิน’ ก็มีแต่พุ่งขึ้นตลอด โดยเป็นทั้ง สส.ปาร์ตี้ลิสต์ และ สส.แบบแบ่งเขต ในนามพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน กระทั่งปี 2551 ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ในคดียุบพรรคพลังประชาชน เนื่องจากเขาเป็นกรรมการบริหารพรรค

หลังจากพ้นโทษแบน เขากลับมาโลดแล่นอีกครั้งกับพรรคเพื่อไทย และมีความโดดเด่นมากขึ้นหลังจากปี 2562 แผนแตกแบงก์พันของ ‘ทักษิณ’ ไม่ประสบผลสำเร็จ ทำให้ต้องผลักดัน สส.เกรดรอง ลงมาให้มีบทบาทในสภาฯ ชื่อของ ‘สุทิน’ ในฐานะ สส.มหาสารคาม โดดเด่น จนถูกแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคการเมืองฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และมีบทบาทสำคัญในการซักฟอกรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ต่อมาในปี 2563 เขาถูกแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และในการเลือกตั้งปี 2566 ได้กลับเข้าสภาฯอีกครั้งในฐานะ สส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 9 กระทั่งมีชื่อถูกผลักดันนั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม

ข้อมูลด้านทรัพย์สิน ‘สุทิน คลังแสง’ แจ้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีพ้นตำแหน่ง สส.มหาสารคาม เมื่อ 20 มี.ค. 2566 ว่า มีทรัพย์สิน 7,168,875 บาท ได้แก่ เงินฝาก 61,875 บาท ที่ดิน 6,407,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 4.5 แสนบาท ยานพาหนะ 2.5 แสนบาท มีหนี้สินเป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 3,640,042 บาท มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 1,362,720 บาท เป็นเงินเดือน สส. มีรายจ่ายรวม 695,251 บาท

ส่วนนางฉวีวรรณ คลังแสง คู่สมรส รอง ผอ.วิทยาลัยเทคโนโลยีเอเชียแปซิฟิก และเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัวเขา มีทรัพย์สิน 10,549,821 บาท ได้แก่ เงินฝาก 704 บาท เงินลงทุนใน หจก.คลังแสงอีสาน 1 ล้านบาท ที่ดิน 5,749,117 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 3.7 ล้านบาท ยานพาหนะ 1 แสนบาท มีหนี้สินเป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 2,428,288 บาท มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 747,739 บาท เป็นเงินเดือน 459,739 บาท เงินเดือนผู้เชี่ยวชาญ สส. 288,000 บาท มีรายจ่ายรวม 871,752 บาท

รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 17,718,896 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 6,068,330 บาท

สำหรับ หจก.คลังแสงอีสาน จดทะเบียนเมื่อ 20 เม.ย. 2549 ทุนปัจจุบัน 1.2 ล้านบาท ตั้งยู่ที่ 120 หมู่ที่ 17 ซอยโพธิ์ทอง ถนนเหล่านาดี ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น แจ้งประกอบธุรกิจ ผลิตอาหารสัตว์ มีนางฉวีวรรณ คลังแสง เป็นหุ้นส่วน และหุ้นส่วนผู้จัดการ และ น.ส.ฐาธิปัตย์ คลังแสง (บุตรสาว) เป็นหุ้นส่วน นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2565 มีรายได้รวม 41,640 บาท กำไรสุทธิ 37,266 บาท

ขณะที่นายรัฐ คลังแสง บุตรชาย ‘สุทิน-ฉวีวรรณ’ เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 3 แห่ง ยังเปิดดำเนินกิจการ 1 แห่งคือ บริษัท แอ็ดวานซ์ เอ็นพาวเวอร์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 5 ก.พ. 2556 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 173/128 หมู่บ้านกัญจน์เพชรวิลล่า ซอยประชาอุทิศ 17 ถนนประชาอุทิศ แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ประกอบธุรกิจจำหน่ายสื่อการเรียนการสอน ห้องทดลอง ห้องปฏิบัติการ ฯประกอบธุรกิจให้บริการรับเหมา มีนายวิทวัส แรมรี นายทศพร บุญ-หลง และนายรัฐ คลังแสง เป็นกรรมการ ยังไม่มีข้อมูลงบการเงิน

ส่วน ‘สุทิน’ ปรากฏชื่อเป็นกรรมการ บริษัท ทรอปิคอล ไบโอนาโน อินดัสทรี จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 25 ก.ค. 2550 ทุน 1 ล้านบาท ทำธุรกิจจำหน่ายพืชผลทางการเกษตร แจ้งเลิก 16 ก.ค. 2563 เสร็จชำระบัญชี 1 ก.ย. 2563 

ทั้งหมดคือโพรไฟล์ของ ‘สุทิน คลังแสง’ จาก ‘สส.นกแล’ สู่ รมว.กลาโหม ‘พลเรือน’ คนที่ 6 ฝีไม้ลายมือจะเป็นอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ