ชื่นมื่น “แดง-เหลือง-สามนิ้ว” ประกาศจับมือเลิกความขัดแย้ง ขอเทิดทูนสถาบันฯ

แกนนำแดง-เหลือง-สามนิ้ว ร่วมปาร์ตี้สุดชื่นมื่น ประกาศจับมือเลิกความขัดแย้งเพื่อเดินหน้าประเทศไทย หวังเป็นโมเดลต้นแบบ ขยายไปยังกลุ่มต่างๆ ชวนแนวร่วม 3 นิ้วย้ายขั้ว รับปากช่วยเหลือหาที่ยืนให้ในสังคม

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 2 ก.ย. 2566 ที่ร้านแซ่บไบรท์ ถ.ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี ที่มีนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบรท์ อดีตแกนนำคนสำคัญของกลุ่มราษฎรที่เปลี่ยนค่ายมาอยู่ฝ่ายปกป้องสถาบันเป็นเจ้าของ มีการจัดงานปาร์ตี้เหลืองแดง เพื่อสานความสัมพันธ์ของกลุ่มมวลชนต่างอุดมการณ์ โดยมีเครือข่ายเสื้อเหลืองปกป้องสถาบัน ประกอบด้วย นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. นายนพดล พรหมภาสิต ประธานศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคม หรือ ศชอ. และที่ปรึกษา ศปปส. นางกัลยาณี จูปรางค์ หรือ ป้าอยุธยา ศปปส. จังหวัดอยุธยา ร่วมกับ เครือข่ายคนเสื้อแดง นำโดยนายนิยม นพรัตน์ หรือ เค สามถุยส์ แกนนำกลุ่มเดอะเรดเอฟซีเพื่อไทย นายสมบัติ ทองย้อย อดีตการ์ดเสื้อแดง นายศุภชัย สมสุข หรือซันชิโร่ ศิลปินเสื้อแดง น.ส.จิรัชยา สกุลทอง หรือจินนี่  อดีตแนวร่วมกลุ่มราษฎรเดินทางเข้าร่วม

...


สำหรับบรรยากาศการนัดกินเลี้ยงสังสรรค์ของกลุ่มมวลชน 2 อุดมการณ์ เป็นไปด้วยความชื่นมื่น ทั้งสองฝ่ายต่างถ่ายภาพประวัติ ศาสตร์ร่วมกัน มีการมอบของฝากต่อกัน และร่วมโต๊ะรับประทานอาหารอีสานกัน แบบลืมสิ่งที่เคยขัดแย้งต่อสู้ทางอุดมการณ์กันมาก่อน บางคู่เช่น นายอานนท์และน.ส.จิรัชยา ที่เคยเป็นคู่ปรับต่างฝ่ายต่างดำเนินคดีต่อกัน ก็มาพูดคุยสานสัมพันธ์กันทั้งแซวกันเรื่องที่เคยด่าทอต่อสู้อย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ยังมีการปราศรัยเปิดใจ ร้องเพลงที่เกี่ยวกับการเทิดทูนสถาบันฯ และขอบคุณพรรคก้าวไกล ที่ทำให้มีวันนี้

นายนพดล พรหมภาสิต แกนนำศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ ศชอ. กล่าวว่า การประกาศปิดตัวของทางกลุ่มเป็นไทม์ไลน์หนึ่งที่จะต้องเกิดขึ้นตามสถานการณ์ของการเมือง เมื่อนายทักษิณ ชินวัตร กลับมาเมืองไทยเพื่อรับโทษและยอมรับสารภาพในสิ่งที่ทำ แสดงว่ารับในสิ่งที่ทำไป ประกอบกับบ้านเมืองขณะนี้ เหลืองแดงหันมาร่วมกันบริหารประเทศแล้ว แต่ยืนยันว่าการเมืองเป็นเรื่องเห็นต่างได้แต่การละเมิดสถาบันฯ ยังคงต้องถูกดำเนินคดีแม้ ศชอ. ไม่ได้ทำ แต่ศปปส.ยังดำเนินการอยู่ ซึ่งตนก็มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษา ศปปส.อยู่ และเชื่อว่าฝ่ายที่ต่อต้านสถาบันฯ จะยังไม่หยุด


นางกัลยาณี จูปรางค์ หรือ ป้าอยุธยา แกนนำกลุ่มปกป้องสถาบันอยุธยาและกลุ่มแฟนคลับพลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า แดงเหลืองเป็นศัตรูกันมาเกือบ 20 ปีวันนี้เป็นวันแรกที่ได้มาพบเจอกัน รู้สึกดีใจจนน้ำตาไหล เราต่างก็เป็นคนไทยหัวใจรักชาติ เรามีพระมหากษัตริย์องค์เดียวกัน วันนี้เรามีนายกฯ ชื่อคุณเศรษฐา ทวีสิน คนเดียวกัน มีคนถามตนว่าจะรักเหมือนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ ตนขอดูผลงานก่อน ถ้าทำความดีให้กับประเทศไทย ไม่แน่อาจกลับมาเลือกพรรคเพื่อไทยก็ได้ แต่เว้นสีเดียวให้ตายก็ไม่เอาคือ “สีส้ม” เพราะนั่นคือศัตรู เพราะรับไม่ได้ที่จะมายกเลิก ม.112 วันนี้ความขัดแย้งระหว่างตนกับคนเสื้อแดงถือว่าจบ ขอไม่ให้ไม่โจมตีสถาบันฯ ก็พอ

นายนิยม นพรัตน์ หรือ เค สามถุยส์ กล่าวว่า ประเทศชาติถูกแบ่งแยกด้วยเหลืองกับแดงมานานแล้ว สิ่งที่เห็นวันนี้ คือ มีรัฐบาลทั้งสองฝ่ายมาจับมือเพื่อร่วมเดินหน้าในฐานะที่เป็นประชาชนไม่ควรอยู่บนความขัดแย้งกันมานานขนาดนี้ ประเทศชาติเราแทบไม่ได้เดินหน้า ขอถามว่าเราจะส่งต่อความขัดแย้งนี้สู่ลูกหลานหรือ แต่ถ้าอยากเริ่มต้นสิ่งดีๆให้ประเทศก็ควรจะเริ่มจากคนกลุ่มเล็กๆ ที่มาสร้างความสามัคคีกันและขยายออกไปสู่วงกว้างต่อไป 

“ยอมรับว่าเราเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ แต่ถ้าวันหนึ่งมีคนที่นำเสนอความปรองดองสามัคคีให้กับสังคม ดังนั้น คนไทยต้องตัดสินใจว่าคุณจะเข้ากลุ่มที่ขัดแย้งและส่งต่อให้ลูกหลาน หรือมาอยู่กับกลุ่มคนที่สร้างความสามัคคีปรองดองให้กับประเทศ แต่ถ้าจะมีคนบอกว่าไม่เอาด้วยขออยู่บนความขัดแย้งเราก็ไปห้ามไม่ได้ เราเปิดใจแล้วแต่สีส้มจะเปิดหรือไม่”

ด้านน.ส.จิรัชยา สกุลทอง หรือจินนี่ อดีตแนวร่วมแถวหน้าของม็อบราษฎร กล่าวว่า สถาบันไม่ได้ทำอะไรให้เรา แต่สร้างแผ่นดินไทยและประเทศนี้ขึ้นมา ขอปรับเปลี่ยนตัวเองและพฤติกรรมจากที่เป็นจินนี่ปากร้ายด่าเก่งไม่สนใจใคร ขอกลับมาเทิดทูนสถาบันฯ ดังเดิม นี่คือจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับคนไทย ความสามัคคีที่จะทำให้ประเทศเราเดินหน้าไปได้ อย่าแบ่งแยกสีเลย กลับมาร่วมใจและสู้กับปัญหาเศรษฐกิจ อย่าไปสู้กับสถาบันฯ เลยท่านไม่ได้ทำอะไรให้เรา ตลอดระยะเวลาที่ออกมาต่อสู้ร่วมกับกลุ่มราษฎรตนต้องสูญเสียอิสรภาพถูกจำคุก 2 ครั้งและถูกคดีม.112 อีกหลายคดี ตลอดระยะเวลาต่อสู้เพื่อคนอื่นสิ่งที่ได้รับคือความเจ็บปวด และความทุกข์น้ำตา หลังจากนี้ขอวางมือจากม็อบ  ขอฝากเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ยังเลือกเดินในแนวทางเดิมว่าเหรียญมี 2 ด้าน อย่าไปสุดโต่งมาก หรือทำกิจกรรมอะไรที่ไร้สาระ ถูกดำเนินคดีเวลาหางานทำไม่ได้ไม่มีเงินใช้ ก็ต้องเปิดรับบริจาคซึ่งกระแสตอบรับของสังคมมองไปในทางลบ 

นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธาน ศปปส. กล่าวว่า อยากจะเปิดใจว่า ตนไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง แต่จะขอดำเนินคดีกับคนที่หมิ่นสถาบันฯ อย่างเดียว ใครที่อยากเปลี่ยนอุดมการณ์มาอยู่ฝ่ายเดียวกับเราก็จะยินดีต้อนรับและให้คำแนะนำเพื่อยืนอยู่ได้ในสังคมได้ อย่างกรณีนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง อยากให้เป็นตัวอย่างกับกลุ่ม 3 นิ้ว ใครอยากที่จะย้ายขั้วให้ติดต่อมาที่ตนหรือทีมงานได้เลย

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...