รัฐบาลทหารเมียนมาพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ เสียเมืองชายแดนเมียวดีให้กะเหรี่ยง KNU

รัฐบาลทหารเมียนมาที่ขึ้นมามีอำนาจเมื่อ 3 ปีก่อน ประสบกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ทางชายแดนด้านตะวันออกที่ติดกับประเทศไทย

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า กองทัพเมียนมาถูกกลุ่มก่อความไม่สงบชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ที่เป็นพันธมิตรกับกองกำลังต่อต้านรัฐประหารอื่น ๆ โจมตีเป็นเวลาหลายสัปดาห์ และกองกำลังทหารหลายร้อยคนที่ดูแลพื้นที่ชายแดนสำคัญอย่างเมียวดียอมแพ้แล้ว ซึ่งเมียวดีเป็นเส้นทางการค้าทางบกส่วนใหญ่ระหว่างไทยและเมียนมา

กองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือกลุ่มเคเอ็นยู (Karen National Union) ประกาศเมื่อวันศุกร์ (5 เม.ย.) ว่าได้ยอมรับการจำนนของกองพันที่ประจำการในเมืองติงกะหยิงหย่อง (Thingannyinaung) ที่ห่างจากเมืองเมียวดีไปทางตะวันตก 10 กิโลเมตร และได้โพสต์วิดีโอนักรบเผยให้เห็นอาวุธยุทโธปกรณ์มากมายที่ยึดมาได้

เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของรัฐบาลทหารเมียนมา ที่เพิ่งเสียพื้นที่ชายแดนขนาดใหญ่ที่ติดกับจีนอย่างรัฐฉาน และรัฐยะไข่ใกล้ชายแดนบังกลาเทศเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และการต่อสู้ระหว่างกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารและกองทัพเมียนมา ทำให้ทหารเมียนมาหลายพันคนเสียชีวิต หรือยอมจำนน หรือแปรพักตร์ไปอยู่ฝ่ายต่อต้าน ส่งผลให้กองทัพต้องเกณฑ์ทหารเพื่อชดเชยจำนวนที่ทหารสูญเสียไป

ทั้งนี้ กลุ่มเคเอ็นยูต่อสู้กับรัฐบาลเมียนมาเพื่อคงการปกครองตนเองเพื่อชาวกะหรี่ยงมานานหลายปี นับตั้งแต่เมียนมาได้เอกราชในปี 2491 แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับกองกำลังรัฐบาลหลายครั้งในช่วงทศวรรษ 90 และหลังจากปี 2558 กลุ่มเคเอ็นยูก็ลงนามหยุดยิงทั่วประเทศกับรัฐบาล

แต่แล้วการรัฐประหารในปี 2564 ก็ส่งผลกระทบต่อข้อตกลงดังกล่าว โดยกลุ่มเคเอ็นยูประกาศว่า การโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งนำโดยนางอองซาน ซูจีนั้น ทำให้ข้อตกลงหยุดยิงเป็นโมฆะ

กลุ่มเคเอ็นยูยังได้ช่วยสอนนักรบอาสาจากหลายเมือง ที่เข้าร่วมกองกำลังเพื่อโจมตีฐานที่ตั้งกองทัพเมียนมาฐานใหม่ และได้พยายามประสานการปฏิบัติการกับกลุ่มก่อความไม่สงบขนาดใหญ่อื่น ๆ เช่นกองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง (Karenni Nationalities Defense Force: KNDF) ทางตอนเหนือของรัฐกะเหรี่ยง และกองกำลังอิสรภาพคะฉิ่น (Kachin Independence Army) ทางภาคเหนือของประเทศ

อนึ่ง รัฐกะเหรี่ยงที่อยู่ใกล้เมืองย่างกุ้ง ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเมียนมา และเป็นเส้นทางที่ดีที่สุดที่สามารถไปยังชายแดนไทยได้นั้น ทำให้รัฐกะเหรี่ยงกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นิยมในบรรดากลุ่มผู้เห็นต่าง เพื่อใช้หลบหนีการปราบปรามอย่างโหดร้ายของกองทัพเมียนมาหลังรัฐประหาร

อ้างอิง: BBC

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

'นิคมโรจนะ'โซนอันตรายเหลือขายสูงสุดมูลค่า1.7หมื่นล้าน

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยผลสำรวจอุปทานโดยรวมภาคกลาง ในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ที่อยู่อาศัยเสนอขายทั...

ตลาดหุ้นสหรัฐแทบไม่ขยับ นักลงทุนชะลอซื้อหลังดัชนีพุ่งแรงวันก่อน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (20 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้น...

เจาะพอร์ต 5 เซียนชื่อดัง ถือหุ้นปันผลสูงเกิน 5% รวม 18 หลักทรัพย์

การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้องค์ความรู้มาวิเคราะห์ สังเคราะห์ในทุกปัจจัยอย่างละเอียด ซึ่งม...

น้ำนมดิบอินทรีย์ สร้างรายได้ให้เกษตรกรครบวงจร

นางอังคณา พุทธศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 ชัยนาท (สศท.7) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (...