'สี จิ้นผิง' พบปะผู้นำธุรกิจสหรัฐฯ ณ กรุงปักกิ่งในวันนี้

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าวันนี้(27 มี.ค.67) ประธานาธิบดี"สี จิ้นผิง" ผู้นำจีน พบปะกับเหล่านักธุรกิจชั้นนำชาวอเมริกัน ณ กรุงปักกิ่ง ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมืองกับสหรัฐฯ ที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นจากข้อจำกัดทางการค้าและความมั่นคงทางไซเบอร์

โดยสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่าผู้นำจีนได้เข้าพบกับตัวแทนจากภาคธุรกิจ กลยุทธ์ และวิชาการของสหรัฐฯ 
 

ในตอนนี้จีนกำลังดิ้นรนเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ท่ามกลางการชะลอตัวของการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมา ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปี หลังจากความตึงเครียดทางการเมืองกับสหรัฐอเมริกา ในสงครามการค้าและเทคโนโลยีระหว่างสองประเทศมหาอำนาจรวมทั้งตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนตกต่ำ และเศรษฐกิจจีนเผชิญภาวะเงินฝืดติดต่อกันหลายเดือน ส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัทและบรรยากาศการลงทุน

รวมทั้งนักลงทุนต่างชาติในจีน ยังรู้สึกเหมือนถูก"ดีดแส้" (whiplash) เนื่องจากนโยบายสองคมของจีนที่มุ่งเน้นทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจและความมั่นคง แม้ว่าผู้บริหารบริษัทต่างชาติอาจเคยได้รับการต้อนรับอย่างดีจากทางการจีน
 

แต่ต่อมาบริษัทกลับพบว่าที่ปรึกษาของตนเองถูกทางการจีนตรวจสอบ จีนขยายขอบเขตกฎหมายต่อต้านการจารกรรมข้อมูลอันคลุมเครือ และจำกัดการเข้าถึงข้อมูล  นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงอย่างมีโครงสร้าง ทำให้ผู้บริหารต้องประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนในการดำเนินธุรกิจในจีนอีกครั้ง

เมื่อวันศุกร์ที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ทางการจีนได้ประกาศผ่อนคลายกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการส่งผ่านข้อมูลข้ามพรมแดน ซึ่งถือเป็นการตอบสนองต่อข้อร้องเรียนจากบรรดาธุรกิจต่างชาติที่ระบุว่าข้อจำกัดดังกล่าวก่อกวนการดำเนินธุรกิจของบริษัท

ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน อธิบายว่า การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการยืนยันท่าทีของรัฐบาลจีนในการสนับสนุนชุมชนธุรกิจและภาคส่วนอื่นๆ ทั้งในจีนและสหรัฐอเมริกา เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนด้านการค้า การลงทุน และสนับสนุนความร่วมมืออย่างฉันมิตร

โดยกระบวนการเชิญที่คล้ายคลึงกันกับครั้งนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เมื่อประธานาธิบดีสีเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำกับผู้นำธุรกิจของสหรัฐฯ ระหว่างการประชุม APEC 2023 ที่นครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ