วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี BCH - กำไรกลับมาเติบโตอีกครั้ง

เนื่องจากความกังวลว่า SSO จะลดงบประมาณ แต่ความเสี่ยงน้อยมาก เราปรับราคาเป้าหมายขึ้น 13% เป็น 26 บาทหลังจากปรับประมาณการกำไรขึ้น TTR มีความน่าสนใจที่ 21% คงคำแนะนำ ซื้อ

คาดกำไรธุรกิจหลักโต 13% ต่อปีในช่วง FY23-26F

เราปรับกำไร FY24F/FY25F ขึ้น 3%/5% เป็น 1.8 พันลบ./2.0 พันลบ. หลังปรับอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 0.3%/0.9% เป็น 31.1%/31.6% และเราคาดกำไร FY26F ที่ 2.2 พันลบ. ดังนั้น เราจึงปรับราคาเป้าหมายขึ้น 13% เป็น 26 บาท

การเติบโตสนับสนุนโดยผู้ป่วยเงินสดและ SSO และผลการดำเนินงานโรงพยาบาลใหม่สามแห่งดีขึ้น 

รายได้จากผู้ป่วยเงินสดซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า (+10% ต่อปี ส่วนหนึ่งเนื่องจากการปรับราคาขึ้นหลังการปรับปรุงรพ.) จะเพิ่มขึ้นจาก 67% ของรายได้ใน FY23 เป็น 69%-71% ใน FY24F-FY26F (i) รายได้ของผู้ป่วยชาวต่างชาติจะเพิ่มขึ้น >10% ในปีนี้ (ตามเป้าหมายของ BCH) สนับสนุนจากตลาดใหม่ (ซาอุดีอาระเบียและลิเบีย) และการเติบโตในตลาด CLMV ซึ่งจะชดเชยรายได้ที่ลดลงจากคูเวต (คิดเป็น 4% ของรายได้) หลังจากที่รัฐบาลระงับการส่งผู้ป่วยมายังประเทศไทยชั่วคราว (iii) โรคระบาดตามฤดูกาลเพิ่มขึ้น (Fig. 6) (iii) Cancer Center จะเปิดให้บริการใน 3Q23 จะช่วยประหยัดต้นทุน 60-70 ล้านบาทต่อปี ในค่าส่งต่อและจำนวนการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น และ (iv) โครงการตรวจสุขภาพให้กรมตำรวจและสภา

อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยคาดรายได้จาก SSO จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย4% ต่อปี สนับสนุนจาก (i) การลงทะเบียนเพิ่มขึ้น3% ต่อปีเป็น 1.1 ล้านคนภายใน FY26F (ii) รายได้เหมาจ่ายคงที่เพิ่มขึ้น 1,808 บาท/คน/ปี จากเดิม 1,640 บาท (iii) โปรแกรม 515 จเป็นโปรแกรมถาวร; และ (iv) รายได้จากโครงการสิทธิพิเศษด้านการรักษาพยาบาลที่ปรับเพิ่มขึ้น (Fig. 16) เช่น การทดสอบ
การนอนหลับ (6,000-7,000 บาท/ครั้ง โดยมีรายชื่อรอประมาณ 500 รายรอการตรวจ) เราคาดโรงพยาบาลใหม่ 3 แห่งจะมีผลการดำเนินงานดีขึ้น (Fig. 17)

ความเสี่ยงน้อยจากการปรับลดรายได้โครงการรักษาโรคค่าใช้จ่ายสูงของ SSO

ในปี 2023 BCH บันทึกรายได้ลดลง 10 ลบ. (เงินชดเชยน้อยลงในเดือนธ.ค. 2022 หลังจากที่ AdjRW ถูกปรับลดจาก 12,000 บาทเป็น 10,000 บาท) เนื่องจากงบประมาณไม่เพียงพอ) เราคาดงบประมาณของ SSO อยู่ที่ 10.1 พันลบ.ในปี 2023ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.5% yoy ตามจำนวนสมาชิก SSO ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่า BCH จะได้รับผลกระทบน้อย เนื่องจาก รพ. มีความสามารถในการรักษาโรคซับซ้อน (โรคหัวใจ มะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง) และความเสี่ยงปรับลดรายได้ไม่เกิน 20 ลบ.สำหรับลูกหนี้ค้างรับเดือน ต.ค.-ธ.ค. 2023

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ