นายกฯดันเศรษฐกิจไทยขยายตัว 2 เดือนแรกปี 67 บริษัทใหม่จดทะเบียนกว่า 2 หมื่นล.

เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ผลักดัน แก้ปัญหา ยกระดับเศรษฐกิจไทย จนมียอดการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ทั่วประเทศในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2567 (เดือนมกราคมและกุมภาพันธ์) จำนวน 17,270 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 45,794.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 จำนวน 267 ราย หรือ 1.57% โดยมูลค่าทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 5,807.51 ล้านบาท หรือ 14.52% สะท้อนผลสำเร็จรัฐบาลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในปี 2567 ให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีปัจจัยสำคัญจากการฟื้นตัวที่ดีและเติบโตอย่างชัดเจนของภาคการท่องเที่ยว 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อมูลการวิเคราะห์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2567 ของกระทรวงพาณิชย์พบว่า ธุรกิจที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไปจำนวน 1,378 ราย ทุนจดทะเบียน 3,020.09 ล้านบาท ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 1,311 ราย ทุนจดทะเบียน 5,275.20 ล้านบาท และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 743 ราย ทุนจดทะเบียน 1,374.09 ล้านบาท 

ข้อมูลการวิเคราะห์ฯ ยังแสดงให้เห็นถึง 2 ธุรกิจที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ 1) ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ หรือธุรกิจขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต ได้มีการจัดตั้งธุรกิจใหม่ 479 ราย เพิ่มขึ้น 116 ราย คิดเป็น 31.96% ทุนจดทะเบียนรวม 555.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น 137.43 ล้านบาท หรือคิดเป็น 32.91% สืบเนื่องจากปัจจัยในการส่งเสริมให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของไทยเข้าสู่ระบบมากยิ่งขึ้น 2) ธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า พบการลงทุนในตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจากทั้งชาวไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้น อาทิ กลุ่มผู้ผลิตระบบควบคุมไฟฟ้า กลุ่มผู้ผลิตระบบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มธุรกิจสถานีชาร์จ 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ คาดการณ์ว่าในไตรมาสแรกของปี 2567 จะมีจำนวนธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งใหม่จำนวน 23,000 – 27,000 ราย และจำนวน 90,000 – 95,000 รายสำหรับทั้งปี 2567 โดยจะมีการลงทุนจากทั้งนักธุรกิจชาวไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้น ด้วยปัจจัยสนับสนุนที่หลากหลาย อาทิ การขยายการบริโภคของภาคเอกชน การฟื้นตัวของภาคการส่งออก การจัดตั้งโครงการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจภาครัฐขนาดใหญ่ (Mega Projects) ตลอดจนนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจตามโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Economy Model) 

“นายกรัฐมนตรีมุ่งเสริมสร้างศักยภาพของเศรษฐกิจไทย และเสริมปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันของตลาดการลงทุนในไทย ผ่านมาตรการส่งเสริมการลงทุน ทั้งการส่งเสริมการลงทุนเชิงรุกในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ยกระดับสภาพแวดล้อมในการประกอบธุรกิจ ดึงดูดบุคลากรทักษะสูงผ่านมาตรการทางวีซ่า เชื่อมผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมถึงยกระดับปัจจัยสนับสนุนที่นักลงทุนสนใจ อาทิ แรงงาน สาธารณสุข โรงเรียน พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งดำเนินนโยบายด้วยวิสัยทัศน์จนผู้ประกอบการเชื่อมั่นการดำเนินธุรกิจในไทย” นายชัย กล่าว

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...