นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธาน กมธ.ศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ชี้ โจทย์ใหญ่ วางกรอบการนิรโทษกรรม โยนหิน นิรโทษกรรม ปม ม.112 หรือไม่ อย่างเพิ่งด่วนสรุป หรือถึงขั้นฟันธงเลย
เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2567 ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม กล่าวภายหลังการประชุม กมธ.นิรโทษกรรมฯ นัดแรกว่า เป็นการประชุมครั้งแรกเพื่อเลือกตั้งตำแหน่งต่างๆ ตนจึงเสนอว่าควรมีกรอบการทำงานว่า เรามุ่งหวังให้ไปถึงจุดไหน อย่างไร มีวิธีการทำอย่างไร แต่ก่อนจะถึงจุดนั้น ในการประชุมครั้งหน้าจะเชิญผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลายที่มีประสบการณ์ในการทำนิรโทษกรรม และความปรองดองมาให้ความคิดเห็นว่า ควรจะทำอย่างไร อาทิ ศ.ดร.คณิต ณ นคร ที่ปรึกษาคณะนิติศาสตร์ปรีดีพนมยงค์ รศ.ดร.โคทม อารียา ที่ปรึกษาสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มาให้ความรู้จากประสบการณ์ที่ศึกษาเรื่องนิรโทษกรรม ส่วนกรอบการทำงานของ กมธ. จะคุยรายละเอียดกันครั้งหน้า ซึ่งบางพรรคอยากให้มีการนิรโทษกรรมนำไปสู่ความปรองดองของคนในชาติ บางพรรคเสนอมาเป็นกฎหมายแล้ว โดยปัญหาใหญ่ คือจะนิรโทษกรรมให้ครอบคลุมเพียงใด กมธ.ต้องไปศึกษาว่า จะครอบคลุมการกระทำอะไร เวลาใด บุคคลใด
หากท้ายที่สุดเห็นควรว่า จะนิรโทษกรรม เราจะไปถึงขั้นยกร่างหรือไม่ เพราะหน้าที่ของเรา คือการศึกษาการตรากฎหมายนิรโทษกรรม เพราะเป็นประเด็นที่เป็นหัวใจ จะต้องมีการถามให้รอบคอบ จะได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานให้สำเร็จ
“ส่วนแนวทางการพิจารณาการนิรโทษกรรมให้ผู้ที่มีความเห็นต่าง และอาจนำไปสู่การนิรโทษกรรมผู้ต้องโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือไม่นั้น ก็ต้องฟังความคิดเห็นกัน อย่าไปด่วนสรุปว่า จะมีหรือไม่มีอะไร ต้องดูรอบด้าน อย่าไปถึงขั้นฟันธงเลย
...
สำหรับการตั้งคณะอนุกมธ.เพื่อพิจารณาว่าเรื่องใดบ้าง ควรได้รับการนิรโทษกรรมนั้น ผมคิดว่า เรื่องนี้มีการศึกษามาพอควรแล้ว หลายคนก็เคยทำไว้ กมธ.อาจจะสามารถศึกษาจากเรื่องเก่าได้เลย ไม่จำเป็นจะต้องไปตั้งคณะอนุกรรมการชุดใดอีก” นายชูศักดิ์ กล่าว