กลุ่มแกนนำอนาคตใหม่ “ธนาธร-พิธา-ปิยบุตร-พรรณิการ์-ไพรัฏฐโชติก์” เดินทางมาฟังคำวินิจฉัยศาลแขวงดุสิต คดีม็อบ 14 ธ.ค. 62 “ชัยธวัช” มาร่วมให้กำลังใจ เผย ทุกคนสบายใจ ไม่กังวล ยังมั่นใจจะชนะคดี
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ศาลแขวงดุสิต นัดอ่านคำพิพากษา คดีที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และประธานคณะก้าวหน้า, นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และเลขาธิการคณะก้าวหน้า, น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และโฆษกคณะก้าวหน้า และ นายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร อดีตผู้สมัคร สส.นครปฐม พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มอนาคตใหม่ พร้อมด้วย นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เดินทางมาฟังการอ่านคำพิพากษา คดีชุมนุมไม่ถอยไม่ทน ที่สกายวอล์ก แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562 ซึ่งก่อนเดินขึ้นศาลมีผู้เข้ามอบดอกกุหลาบเพื่อเป็นกำลังใจ
...
ต่อมา นายชัยธวัช ให้สัมภาษณ์ว่า ทางทีมทนายความและทุกคนยังมั่นใจว่าเราจะชนะคดีในวันนี้ ส่วนรายละเอียดคงเป็นเรื่องการต่อสู้ เรื่ององค์ประกอบของความผิดตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ และยังเป็นการต่อสู้เรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงออกทางการเมืองโดยสันติ
ส่วนประเด็นที่เจ้าพนักงานแจ้งว่าไม่ได้มีการอนุญาตการชุมนุมนั้น นายชัยธวัช ระบุว่า ขอให้รอฟังคำวินิจฉัย ซึ่งจะทราบพร้อมกัน ผู้สื่อข่าวถามต่อ มีการเตรียมแผนรับเรื่องนี้ไว้อย่างไร โดย นายชัยธวัช ให้คำตอบว่า กรณีที่ศาลวินิจฉัยว่าผิด เราก็จะอุทธรณ์ แต่เรายังมั่นใจว่าผลจะออกมาดี ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะมีผลกระทบทางการเมืองอะไร “ย้ำว่าถ้าคำวินิจฉัยออกมาแย่ ยังสามารถอุทธรณ์ได้อยู่แล้ว และไม่มีเหตุผลที่จะไม่ให้ประกันตัว แต่ขอย้ำ โดยคิดว่าคำวินิจฉัยจะออกมาดี เราน่าจะชนะ”
นายชัยธวัช เผยต่อไปว่า แนวโน้มคดีวินิจฉัยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกทางการเมืองในช่วงหลังก็ออกมาค่อนข้างดี และคดีนี้ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องอุทธรณ์ถ้าผลออกมาลบ เพราะยังอยู่ในชั้นศาลชั้นต้น เมื่อถามว่า นายพิธา หรือ นายธนาธร ได้ระบุถึงความมั่นใจในคดีนี้หรือไม่ นายชัยธวัช ตอบว่า เห็นทุกคนสบายใจดี ไม่มีความกังวลอะไร และขอให้สบายใจว่าจะไม่มีผลทางการเมือง แต่จะมีผลที่ว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องสิทธิในการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พร้อมขอให้รอฟังคำวินิจฉัยก่อน ยืนยันว่าทุกคนเชื่อมั่นว่าใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนทางการเมืองโดยชอบ
“ผมคิดว่าประชาชนก็เห็นด้วยว่าในช่วงเวลานั้น เป็นช่วงเวลาที่สิทธิเสรีภาพทางการเมืองของประชาชนถูกละเมิดอยู่แล้วหลังรัฐประหาร โดยเฉพาะบรรยากาศภายใต้รัฐบาลที่สืบทอดจากการรัฐประหาร”
ส่วนคำถามว่า ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และทำงานในฝ่ายนิติบัญญัติ มองปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายเรื่องการใช้สิทธิเสรีภาพ และแนวทางการแก้กฎหมายอย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า เรามีข้อเสนอในการแก้ไขกฎหมายที่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนอยู่แล้ว รวมถึง พ.ร.บ.ชุมนุม อีกทั้งมีการประชุมกันในคณะกรรมาธิการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ตั้งแต่สภาฯ ชุดที่แล้ว ในฐานะ สส.คงต้องใช้ความสำคัญกับการพิจารณาว่ามีกฎหมายใดบ้าง ไม่ว่าจะมีเนื้อหา รวมถึงมีการบังคับใช้ ที่ไปละเมิดเสรีภาพขั้นพื้นฐานทางการเมืองของพลเมือง เรื่องนี้เป็นภาระหน้าที่ของ สส.ที่ต้องใช้ความสำคัญ
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า หากอนาคตพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล จะดำเนินการในเรื่องเหล่านี้อย่างไร นายชัยธวัช ระบุว่า ต้องยึดหลักสิทธิทางการเมืองของพลเมืองเป็นหลักการขั้นพื้นฐานระบอบประชาธิปไตยที่ไม่ควรจะถูกละเมิด และไม่ควรเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะมีความคิดเชื่อทางการเมืองแบบใด ซึ่งจะทำให้สังคมประชาธิปไตยสามารถอยู่ร่วมกันได้ แม้จะมีความคิดเห็นแตกต่างกัน ก่อนทิ้งท้ายถึงคดีว่า อย่าเพิ่งกังวลมากเกินไป และวันนี้ที่เดินทางมาเพื่อมาให้กำลังใจเท่านั้น
สำหรับคดีดังกล่าว เกิดขึ้นจากการจัดแฟลชม็อบ #ไม่ถอยไม่ทน ที่บริเวณสกายวอล์กแยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562 ที่นายธนาธร กับพวก ผลัดกันขึ้นปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล พร้อมกับชู 3 นิ้วบนสกายวอล์ก ทำให้ถูกกล่าวหาว่าเป็นการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจำเลยที่เป็นผู้จัดการชุมนุมไม่แจ้งการชุมนุมสาธารณะก่อน 24 ชั่วโมง ต่อหัวหน้าสถานีตำรวจนครปทุมวัน อันเป็นการฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี.
(ภาพ : วัชรชัย คล้ายพงษ์)
