วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ BCH ประมาณการ 4Q66F: คาดเป็นอีกไตรมาสที่แข็งแกร่ง

โดยปัจจัยหนุนหลักที่กำไรดีขึ้น YoY เนื่องจาก i) การปรับขึ้นอัตราเหมาจ่ายรายปีของสำนักงานประกันสังคม (SSO) ขึ้นเป็น 10.2% นับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ii) รายได้จากผู้ป่วยชาวไทยแข็งแกร่ง และ iii) ไม่มีค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรค COVID-19 ที่ 115 ล้านบาทและผลขาดทุนของอัตราแลกเปลี่ยนจากโรงพยาบาล Kasemrad International ในเมืองเวียงจันทน์ราว 60 ล้านบาทที่เกิดขึ้นใน 4Q65 อย่างไรก็ดี กำไรสุทธิใน 4Q66F ของบริษัทน่าจะอ่อนแอ QoQ แต่เราคิดว่าการชะลอตัวแบบไม่มีนัยสำคัญ QoQ เพียง 3.9% โดยรวมแล้ว เราคาดว่ารายได้ใน 4Q66F จะอยู่ที่ 3.16 พันล้านบาท (+13.5% YoY แต่ -0.3% QoQ) ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดอยู่ที่ 32.0% ลดลงจาก 32.7% ใน 4Q65 และ 33.9% ใน 3Q66 หากกำไรใน 4Q66F เป็นไปตามที่เราคาด กำไรสุทธิปี 2566F ของ BCH จะอยู่ที่ 1.40 พันล้านบาท คิดเป็น 98.7% ของประมาณการกำไรเต็มปี 2566F เดิมของเรา

คาดแนวโน้มระยะยาวยังสดใส

สำหรับปี 2567 นี้ BCH จะได้รับประโยชน์จากฐานจำนวนผู้ป่วยลงทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม (SSO) ที่มีจำนวนมากที่สุดเพราะล่าสุดบริษัทได้รับโควต้าผู้ป่วยส่วนเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 3.14 แสนคน (+20.4% YoY) ซึ่งจะทำให้มีโควต้าผู้ป่วยสูงที่สุดอยู่ที่ 1.856 ล้านคนในปี 2567 ประเด็นนี้ช่วยทำให้จำนวนผู้ลงทะเบียนกับ SSO อย่างน้อย 1.8 แสนคน (จากสาขาประชาชื่นและบางแค) คิดเป็นรายได้เพิ่มขึ้นราว 300 ล้านบาทต่อปี นอกจากนั้น ภาระผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนของโรงพยาบาล Kasemrad International ที่เวียงจันทน์จะไม่แสดงให้เห็นในปี 2567F ภายหลังจากการจ่ายคืนหนี้จำนวน 480 ล้านบาทใน 4Q66 นนอกจากนี้ เราคาดว่า โรงพยาบาล Kasemrad International ที่อรัญประเทศและโรงพยาบาล Kasemrad International ที่เมืองเวียงจันทน์จะมีกำไรใน 4Q67F

 

 

 

ปรับประมาณการกำไร

เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2566F ลง 1.3% เหลืออยู่ที่ 1.40 พันล้านบาท (จาก 1.42 พันล้านบาท) เพื่อสะท้อนคาดการณ์กำไรใน 4Q66F นอกจากนั้น เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2567F ขึ้นราว 8.6% อยู่ที่ 1.81 พันล้านบาท (+29.2% YoY) ทั้งนี้ BCH มีแนวโน้มกำไรแข็งแกร่งด้วยแรงหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งขึ้นอยู่ที่ 32.0% (จาก 31.0%)

Valuation & Action

BCH ยังคงเป็นหนึ่งในหุ้นเด่นของเราในหมวดการแพทย์ (healthcare sector) ด้านการฟื้นตัวแข็งแกร่งและแนวโน้มการเติบโตดีต่อเนื่องในระยะยาว ดังนั้น เราคงคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ใหม่ปี 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 26.00 บาท (ใช้ WACC ที่ 7.5% และ TG ที่ 3.0%) จากเดิม 24.00 บาท

Risks

COVID-19 ระบาด ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองรอบใหม่ของไทย และเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งใหญ่

 

 

 

 

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

คาดชาวจอร์เจียใช้สิทธิล่วงหน้ามากเป็นประวัติการณ์

กาเบรียล สเตอร์ลิง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ แบรด ราฟเฟน สเปอร์เกอร์ เลขานุการรัฐจอร์เจียกล...

ผู้พิพากษารัฐจอร์เจียสั่งระงับกฎให้นับบัตรลงคะแนนเลือกตั้งด้วยมือ

เมื่อวันอังคาร (15 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โรเบิร์ต แม็คเบอร์นี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาล ฟุลตัน เคาน์ตี...

ทรัมป์ได้เงิน ‘คริปโท’บริจาค มูลค่า 7.5 ล้านดอลลาร์

ตามเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งรัฐบาลกลางในวันอังคาร (15 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ระบุว่า...

‘อีลอน มัสก์’ นำทัพเศรษฐีทุ่มเงินช่วยทรัมป์

CNN รายงานข่าวว่า รายงานใหม่ที่ยื่นต่อหน่วยงานกำกับ ดูแลของรัฐบาลกลางเมื่อวันอังคาร (15 ต.ค.) ตามเวล...