"รองปลัด ยธ." เผย "ทักษิณ" และครอบครัว ยังไม่ได้ยื่นเอกสารขออภัยโทษ ชี้ ต้องพรรณนาเหตุขอทูลเกล้าฯ ให้ละเอียด หากผลยกฎีกาเจ้าตัวต้องรออีก 2 ปี ส่วนการเข้าเยี่ยมเพิ่มเติม ญาติต้องจองล่วงหน้ากับเรือนจำฯ อีกครั้ง เพื่อลงวันที่และเวลา ขณะที่ตลอดช่วงเช้าวันนี้ ยังไร้เงาพี่น้องชินวัตร
ภายหลังจากที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าพักรักษาตัวและกักโรคโควิด-19 ที่โรงพยาบาลตำรวจแทนการรักษาตัวที่ห้องพยาบาล หรือแดน 7 เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เนื่องด้วยอาการเจ็บป่วยหลายโรครุมเร้า และต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์รวมถึงแพทย์เฉพาะทางเพื่อการรักษา ครบระยะเวลา 5 วัน อีกทั้งที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ได้มีการเปิดให้ญาติและครอบครัว ผู้ประสงค์เข้าเยี่ยมนายทักษิณ ได้ลงทะเบียนรายชื่อเข้าเยี่ยม จำนวน 10 รายชื่อ และวานนี้ (28 ส.ค.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ พร้อมด้วยนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ เดินทางเข้าเยี่ยมก่อนแล้วนั้น
เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 29 ส.ค. 66 นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการเยี่ยมหลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนปกติที่ญาติหรือครอบครัวตามที่มีการระบุไว้ 10 รายชื่อ จะทยอยเข้าเยี่ยมกันตามลำดับการจอง ถือเป็นสิทธิ์ของญาติของผู้ต้องขัง ส่วนถ้าหากบุคคลใดประสงค์จะเข้าเยี่ยมเพิ่มเติมอีกครั้งจะต้องดำเนินการลงทะเบียนจองล่วงหน้ากับเรือนจำ/กรมราชทัณฑ์ โดยจะต้องมีการระบุวันที่และลงเวลาสำหรับการเข้าเยี่ยมในครั้งถัดไป เพื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบว่าวันที่เวลาดังกล่าวไปตรงกับของบุคคลอื่นหรือไม่ อีกทั้งขณะนี้นายทักษิณยังอยู่ภายใต้ระเบียบการควบคุมตัวของกรมราชทัณฑ์ ส่วนเวลาการเข้าเยี่ยมนั้น ราชทัณฑ์จะยึดตามเวลาการเปิดทำการของโรงพยาบาลตำรวจ และให้สอดคล้องไปกับระเบียบของกรมราชทัณฑ์มากที่สุด คือ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. และการเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังป่วยจะอยู่ภายใต้การกำกับรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์โดยตรง ห้ามผู้ได้รับการอนุญาตเข้าเยี่ยมนำเครื่องมือสื่อสารหรืออุปกรณ์โทรศัพท์มือถือเข้าไปภายในห้องผู้ป่วยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการบันทึกภาพและเสียง และต้องสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด
...
เมื่อถามถึงประเด็นการเข้าเยี่ยมว่าในการเข้าเยี่ยม 1 ครั้งภายในห้อง 1401 ญาติและครอบครัวสามารถเข้าไปภายในห้องได้กี่คน มีการจำกัดจำนวนคนต่อการเข้าเยี่ยม หรือจำกัดเวลาเยี่ยมอย่างไรบ้างนั้น นายสหการณ์ ระบุว่า ข้อมูลรายละเอียดดังกล่าวนี้ จะเป็นในส่วนรับผิดชอบของผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครที่จะต้องให้ข้อมูล เพราะค่อนข้างเป็นรายละเอียดเชิงลึก ตนจึงระบุไม่ได้ เกรงว่าข้อมูลอาจมีความคลาดเคลื่อน
ต่อข้อถามถึงความคืบหน้าล่าสุด เรื่องการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณและครอบครัวนั้น นายสหการณ์ ระบุว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานการสอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่ถ้ามีความประสงค์จะยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ทางครอบครัวโดยสายเลือดหรือผู้ต้องขังเองจะติดต่อยังเรือนจำฯ ส่วนเอกสารที่จะต้องใช้ประกอบการยื่นฎีกา ยกตัวอย่างเช่น เอกสารคำพิพากษาของศาลเกี่ยวกับรายคดีของเจ้าตัว เอกสารรายงานคุณงามความดี ข้อมูลประวัติการรักษาอาการเจ็บป่วย และหลักฐานอื่นๆ ส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องขัง รวมถึงผู้ต้องขังที่ประสงค์ยื่นขอทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา จะต้องมีการกรอกข้อมูลตามแบบคำร้องบังคับของทางเรือนจำฯ จะมีรูปแบบตัวคำร้องนี้อยู่ อีกทั้งจะต้องมีการเขียนพรรณนาถึงสาเหตุการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาในครั้งนี้ให้ครบถ้วน
ทั้งนี้ นายสหการณ์ ระบุตอนท้ายว่า การยื่นขอพระราชทานอภัยโทษของผู้ต้องขัง หากรายใดดำเนินการเรื่องเอกสารเสร็จสิ้นก่อนก็ยื่นให้กับเจ้าพนักงานเรือนจำได้ทันที เนื่องจากกรมราชทัณฑ์ไม่ได้มีการกำหนดถึงการยื่นฎีกาว่าจะต้องมีการรวบรวมรายละเอียด/เอกสารของผู้ต้องขังเป็นกลุ่มแต่อย่างใด แต่ว่าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต้องดำเนินการต่อเนื่องเป็นไปตามขั้นตอนปกติ ส่วนเรื่องของผลฎีกาภายหลังมีการยื่นทูลเกล้าฯ จะเป็นในส่วนของพระราชอำนาจ ที่จะทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยแจ้งมายังเรือนจำ/ราชทัณฑ์ ถ้าผลปรากฏว่ายกฎีกา ตามขั้นตอนของกฎหมายก็ได้มีการกำหนดไว้ว่าจะต้องรออีก 2 ปี เพื่อดำเนินการยื่นขอทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาใหม่อีกครั้ง
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา บริเวณด้านหน้าอาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา (หอผู้ป่วยพิเศษระดับสูง) โรงพยาบาลตำรวจ ยังไม่ปรากฏบุคคลหรือสมาชิกภายในครอบครัวชินวัตรเพิ่มเติมที่จะมีการเดินทางมาเข้าเยี่ยมนายทักษิณแต่อย่างใด หลังจากวานนี้มีเพียง น.ส.แพทองธาร พร้อมด้วยทนายวิญญัติ เข้าเยี่ยมนายทักษิณตามการจองเยี่ยม อีกทั้งยังมีรายงานว่าในวันนี้ช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. น.ส.แพทองธาร จะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย เพื่อตั้งโต๊ะแถลงข่าวตอบข้อซักถามเกี่ยวกับรายละเอียดการเข้าเยี่ยมและอาการของนายทักษิณ หลังจากที่เจ้าตัวไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อวาน