จับ "เอก ปากน้ำ" คาบ้าน จอมบงการ แก๊งศรีสุวรรณ ทั้งวางแผน-แบ่งงานรู้ข้อมูลดี (คลิป)

ตำรวจ บก.ปปป. บก.ปอท. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เปิดปฏิบัติการจับกุม “เอก ปากน้ำ” คาบ้านย่านนิมิตรใหม่ขณะเจ้าตัวตักบาตรพร้อมแม่ที่หน้าบ้านเผยเป็น 1 ในตัวเบ้งแก๊ง “พี่ศรี” คีย์แมนคนสำคัญระดับสั่งการ แจกจ่ายงานชี้เป้าเมื่อได้เงินมาแล้วจะนำมาแบ่งกัน เจ้าตัวถูกค้นนานกว่า 6 ชั่วโมงก่อนคุมตัวไปสอบต่อที่ บก.ปปป. ด้านเจ๋ง ดอกจิก-การ์ตูน แถลงข่าวแจงไม่มีเอี่ยว โต้ถ้าไม่มีแผลจะเคลียร์ทำไม แถมขู่เตรียมฟ้องกลับทั้งหมด ยกแพธูปเทียนสาบานขอให้มีอันเป็นไปถ้าทำจริง หากไม่ได้ทำขอให้เจริญยิ่งๆขึ้น

ยังต้องติดตามกันต่อ กรณีตำรวจ บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.และ ป.ป.ช. จับกุมนายศรีสุวรรณ จรรยา เจ๋ง ดอกจิก-นายยศวริศ ชูกล่อม และ น.ส.พิมณัฏฐา หรือการ์ตูน จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัครสส.รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หลังร่วมกันข่มขู่เรียกเงินจากอธิบดีกรมการข้าว เพื่อแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียน จนมีกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่าการกระทำของทั้งหมดไม่น่าใช่การกระทำผิดครั้งแรก อยู่ระหว่างการขยายผล ท่ามกลางกระแสข่าวตำรวจ บก.ปปป. จ่อออกหมายจับเพิ่มตัวการใหญ่ สมาชิกแก๊ง “พี่ศรี” ตบทรัพย์อีกหลายคน

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 1 ก.พ. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. มอบหมายให้ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.เพิ่มวุฒิ ประทุมราช ผกก. 1 บก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบการทุจริตในภาครัฐ 2 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) นำกำลังตำรวจ บก.ปปป.บก.ปอท. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จับกุมนายเอกลักษณ์ หรือเอก วารีชล อายุ 47 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 หมายจับศาลอาญา ที่ จ.5/2567 ลงวันที่ 31 ม.ค. 2567 ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินสำหรับตนเองโดยมิชอบ, ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, แสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น, รีดเอาทรัพย์, ข่มขืนใจผู้อื่นฯ จับได้ที่บ้านเลขที่ 49/44-45 หมู่บ้านสัมมากร ถนนนิมิตรใหม่ ซอย 34 แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กทม. ขณะผู้ต้องหาออกมาใส่บาตรพระกับแม่ที่หน้าบ้าน ระหว่างการจับกุมนายเอกลักษณ์ไม่มีท่าทีขัดขืนพร้อมยินยอมให้ตำรวจตรวจค้นภายในบ้านแต่โดยดี

...

จากการตรวจสอบพบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น รั้วรอบขอบชิด ปลูกติดกัน 2 หลัง ในเนื้อที่ประมาณ 100 ตร.ว. เบื้องต้นตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ เอกสารต่างๆเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของทางราชการ รวม 3 ลัง รวมทั้งยังมีเอกสารการแถลงข่าวของนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เปิดแถลงข่าวเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันด้วย เพื่อนำมาตรวจสอบความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับคดี โดยชุดจับกุมใช้เวลาค้นหาหลักฐานอยู่นานกว่า 6 ชั่วโมง ก่อนคุมตัวนายเอกลักษณ์พร้อมหลักฐานต่างๆไปสอบสวนต่อที่ บก.ปปป.

ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เวลา 17.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำนายเอกลักษณ์ วารีชล หรือเอกปากน้ำ คนกลางประสานงานขบวนการรีดทรัพย์ของนายศรีสุวรรณ จรรยา กับพวกที่ถูกจับกุมได้เพิ่มเติมเป็นรายที่ 4 เมื่อช่วงเช้าว่า นายเอกเป็นคนเก่ง มีความรู้ความสามารถ คอยควบคุมดูแลสถานการณ์ต่างๆได้เก่งจนทำให้นายศรีสุวรรณต้องเชื่อฟังได้ เพราะนายเอกเป็นคนที่มีข้อมูลการทุจริต การตรวจสอบหน่วยงานรัฐต่างๆเป็นจำนวนมาก รู้จักคนเยอะ หากนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมคงดี แต่กลับนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ส่วนรายละเอียดการสอบปากคำ อยู่ระหว่างการแจ้งข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์และการยื่นขอประกันตัว ตนบอกกับนายเอกว่า หลังประกันตัวจะขอพูดคุยเป็นการส่วนตัว เชื่อว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคดีมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามปฏิบัติการเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจ บก.ปปป.ออกหมายจับและจับกุมผู้ร่วมขบวนการรายนี้เพียงรายเดียวก่อน แต่หลังจากนี้จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 2 คน เป็นผู้ร่วมขบวนการระดับล่างไม่ใช่ตัวการใหญ่ เพราะในวงนี้มีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดประมาณ 6 คน โดยยังไม่นับวงอื่นๆที่มีข้อมูลทยอยเข้ามาเรื่อยๆอีกหลายวง หากนับรวมความเสียหายทุกวงน่าจะเกือบร้อยล้านบาท แต่การกระทำเป็นของผู้ต้องหากลุ่มเดียวกัน พฤติการณ์ลักษณะเดียวกันคือเริ่มต้นจากการร้องเรียน จากนั้นจะแปลงร่างมาเป็นคนเคลียร์ แต่สุดท้ายก็มาแบ่งเค้กกัน หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะเรียกนายหมูและบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำภายในสัปดาห์นี้

มีรายงานว่า จากการเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักของนายเอกลักษณ์ เจ้าหน้าที่ตรวจพบเอกสารต่างๆจำนวนมาก หนึ่งในนั้นมีซองเอกสารสีน้ำตาลภายในมีแผ่นกระดาษแถลงการณ์ซึ่งมีเนื้อหาคล้ายกับที่เจ๋ง ดอกจิก-นายยศวริศ ชูกล่อม และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือการ์ตูน อดีตผู้สมัคร สส.รวมไทยสร้างชาติ ใช้กล่าวในการแถลงข่าวชี้แจง สอดคล้องกับพยานหลักฐานต่างๆที่ตรวจยึดได้ก่อนหน้านี้ ทำให้เชื่อว่านายเอกลักษณ์เป็นผู้ทำหน้าที่สั่งการหรือคอยบงการเรื่องราวทั้งหมด

จากการตรวจสอบประวัตินายเอกลักษณ์คีย์แมนแก๊งตบทรัพย์รายนี้ เป็นถึงด็อกเตอร์เรียนจบปริญญาเอก สาขาวิศวกรรมสื่อสาร จากสถาบันย่านลาดกระบัง มีความรู้และเชี่ยวชาญเกี่ยวกับข้อมูลโครงการต่างๆในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งอีกหลายหน่วยงาน ทั้งยังเป็นที่ปรึกษาและเป็นผู้ร่างโครงการต่างๆจนทำให้รู้ว่าโครงการไหนใครเป็นผู้เสนอ มูลค่าเท่าไหร่  มีส่วนต่างตรงไหนบ้าง หลังได้ข้อมูลมาจะเรียกประชุมแก๊งเพื่อชี้เป้าแบ่งหน้าที่ให้ไปทำ มีทั้งคนร้องเรียน คนเคลียร์เจรจาต่อรองเรื่องเงิน ก่อนนัดแบ่งเงินที่ได้มาทุกครั้ง ทั้งนี้เจ้าตัวยังเคยถูกแจ้งความในคดีกรรโชกทรัพย์ ท้องที่ สน.ดุสิต เมื่อปี 66 ด้วย

อีกด้าน ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ เวลา 10.00น. เจ๋ง ดอกจิก-นายยศวริศ ชูกล่อม และ น.ส.พิมณัฏฐา หรือการ์ตูน จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินทางมาแถลงข่าว พร้อมนำพวงมาลัยกับแพธูปเทียนมาด้วย โดยกล่าวว่าตนและ น.ส.พิมณัฏฐาถูกกล่าวหาเป็นแก๊งตบทรัพย์ระดับชาติ รวมทั้งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ต้องออกมาชี้แจงเพื่อแก้ข้อกล่าวหา

เจ๋ง ดอกจิกกล่าวว่า ถูกยึดโทรศัพท์มือถือไปตั้งแต่วันแรกของการมอบตัว ต้องพยายามนึกย้อนข้อมูลและไทม์ไลน์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.2566 นายศรีสุวรรณ จรรยา และตนพบข้อพิรุธส่อทุจริตในกรมฝนหลวง เรื่องการบินเกษตร งบฯ 1,188 ล้านบาท นัดหมายจะไปร้องกมธ.ในวันที่ 20 ธ.ค.2566 จากนั้นมีข้อมูลตรงกับนายศรีสุวรรณว่ากรมการข้าวก็มีเรื่องทุจริตเช่นเดียวกัน

“การเจรจากันก่อนหน้านี้ระหว่างฝั่งอธิบดีกรมการข้าวและนายศรีสุวรรณ ผมไม่รู้เรื่อง มีเพียงหน้าที่คอยประสานงาน ยืนยันผมเข้าไปเกี่ยวข้องเพียงเท่านี้ ส่วน น.ส.พิมณัฏฐามีหน้าที่เพียงช่วยประสานงานเช่นเดียวกัน ยืนยันไม่ใช่แก๊งตบทรัพย์ และไม่เคยคิดว่าในกรมการข้าวมีงูเห่า เรื่องทุจริตนั้นจริงไม่จริงต่างฝ่ายต่างมีข้อมูล ถ้ามีการร้องก็ต้องสอบกันคนเราถ้าไม่ผิด ไม่มีแผล จะเคลียร์ทำไม” นายยศวริศกล่าว

นายยศวริศกล่าวต่ออีกว่า ตนกับนายศรีสุวรรณร้องหลายเคส ส่วนใหญ่เป็นการทุจริตในองค์กร เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย ไม่เคยมีใครมาเคลียร์กับตน หรือตนไปเคลียร์กับใคร แล้วมากล่าวหาว่าเป็นแก๊งตบทรัพย์ได้อย่างไร เคสนี้เช่นเดียวกัน ตนและ น.ส.พิมณัฏฐาไม่เคยได้เงินสักบาทเดียว ไม่รู้เรื่องตบทรัพย์และขอความเป็นธรรมเพราะเกิดความเสียหาย อีกทั้ง น.ส.พิมณัฏฐากำลังมีอนาคตทางการเมืองกลับโดนตั้งข้อหาแบบนี้ เจ้าตัวร้องไห้ทุกวันว่าไปเกี่ยวข้องหรือทำผิดอะไร เป็นเพียงผู้ประสานระหว่างผู้ร้องกับผู้ถูกร้อง นอกจากนี้ขอความเป็นธรรมให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย การตั้งข้อกล่าวหาตบทรัพย์เป็นข้อหาที่รุนแรงเกินควร อยู่ระหว่างให้ทนายความรวมรวบข้อมูลดำเนินคดีผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์และเกรียนคีย์บอร์ด เพราะสร้างความเสียหายมาก ศาลจะเป็นผู้วินิจฉัยว่าตนผิดหรือไม่ผิด ไม่ใช่ตำรวจออกมาพูดจนสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นแก๊งตบทรัพย์ นอกจากนี้ ตนไม่เคยรู้จักคนชื่อ “หมู” ส่วนที่โยงกันไปมานั้นจะฟ้องทั้งหมด พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดภรรยาอธิบดีกรมการข้าวเปิดบริษัทด้วยเงินลงทุนกว่า600 ล้านบาท เหตุใดถึงร่ำรวยมาก

จากนั้น เจ๋ง ดอกจิก-นายยศวริศ หยิบแพธูปเทียน ลุกขึ้นสาบานว่า กรณีที่กล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐใช้หน้าที่โดยมิชอบ เรียกทรัพย์เพื่อประโยชน์ตัวเอง ถ้าตนเป็นแก๊งตบทรัพย์ ขอให้มีอันเป็นไป แต่ถ้าไม่ได้เป็นแบบนั้น ขอบารมีพระแก้วมรกต ศาลหลักเมือง พระแม่ธรณี สิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณนี้ไปจัดการกับคนที่กล่าวหาให้ทุกข์ใจเป็นร้อยพันเท่า รวมทั้งทุกคนที่คิดและเกี่ยวข้องขอให้มีอันเป็นไปและถ้าตนไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ขอให้เจริญขึ้นเรื่อยๆ

ขณะเดียวกัน น.ส.พิมณัฏฐา หรือการ์ตูน กล่าวว่า ไม่รู้จะชี้แจงอะไร เพราะแค่ประสานและติดตามงาน ยืนยันว่าไม่ได้เรียกรับเงินใดๆทั้งสิ้น ส่วนแชตที่ถูกนำมาเผยแพร่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น หากอ่านทั้งหมดจะได้ข้อสรุปว่า ตนเป็นเพียงแค่ผู้ประสานงาน แต่ตอนนี้กลายเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่ารีดทรัพย์ ส่วนที่มีข้อความต่างๆนั้นได้ให้การกับตำรวจอยู่ในสำนวนคดีทั้งหมดแล้ว

 ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 12.10 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเจ๋ง ดอกจิก-นายยศวริศ ชูกล่อม ออกมายอมรับเคยเข้าไปพบคณะทำงานของนายสมศักดิ์ในสมัยที่เป็น รมว. ยุติธรรม เรื่องปัญหากำไล EM ว่า ไม่ทราบแต่ไม่ได้เข้ามาพบตน ทั้งนี้ แต่ละกระทรวงมีงานมีโครงการต่างๆ เขาอาจจะไปเก็บข้อมูลหรือหาข้อมูล แต่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานของตนนั้นไม่ทราบ เขาอาจจะไปพบใครต่อใครหรือคนรู้จักกันก็ได้ คงไม่มีประเด็นหรือมีเรื่องอะไร การตรวจสอบเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้วและการตรวจสอบด้วยความบริสุทธิ์จะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด แต่หากไม่ใช่การตรวจสอบเพื่อให้ประเทศชาติได้ประโยชน์ก็คงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...