“จรูญเกียรติ ปานแก้ว” รองผบช.ก. แย้มภายในสัปดาห์นี้ออกหมายจับระดับตัวเบ้งเพิ่มอีกสอง รวมทั้งเชิญบุคคลที่ปรากฏอักษรย่อทั้งหมดมาสอบปากคำ ยืนยันไม่มีการกลั่นแกล้ง เปรียบแก๊งนี้ดั่งสุนัขข้างทาง ไล่เห่าเพื่อแย่งเศษอาหาร ถ้าหลักฐานไม่แน่น ตำรวจคงไม่ผลีผลาม ด้าน “ศรีสุวรรณ จรรยา” ยังคงเก็บตัวเงียบ เพื่อนบ้านบอกไม่เห็นออกมารดน้ำต้นไม้เลยหลังเกิดเรื่อง
จากกรณีตำรวจ บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.และ ป.ป.ช. จับกุมนายศรีสุวรรณ จรรยา, เจ๋ง ดอกจิก-นายยศวริศ ชูกล่อม และ น.ส.พิมณัฏฐา หรือตูน จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หลังร่วมกันข่มขู่เรียกเงินจากอธิบดีกรมการข้าว เพื่อแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียน จนมีกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่าการกระทำของทั้งหมดไม่น่าใช่การ กระทำผิดครั้งแรก อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานขยายผล ท่ามกลางกระแสข่าวตำรวจ บก.ปปป. จ่อออกหมายจับเพิ่มอีก 2 ตัวการ สมาชิกแก๊ง “พี่ศรี” ตบทรัพย์
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่กองบังคับการป้องกันปราบปราม การทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 31 ม.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีนี้ว่า อยู่ระหว่าง ขั้นตอนของพนักงานสอบสวนเชิญ “นายหมู” 1 ใน ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่ตกเป็นข่าวพาอธิบดีกรมการข้าวและภรรยาไปพบนายศรีสุวรรณ จรรยา เข้าให้ปากคำในฐานะพยาน เชื่อว่าเจ้าตัวจะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนแน่นอน แต่ยังไม่สามารถระบุวันเวลาและไม่เพียงแต่นายหมู พนักงาน สอบสวนจะเชิญผู้เกี่ยวข้องที่ปรากฏอักษรย่อทุกคนมาสอบปากคำ ขณะนี้เชิญพยานที่เกี่ยวข้องกับคดี มาสอบปากคำหลายปาก 1 ในนั้นเป็นผู้เสียหายถูกแก๊ง ของนายศรีสุวรรณ รีดทรัพย์ในลักษณะคล้ายๆกัน ผู้เสียหายจะแจ้งความดำเนินคดีกับแก๊งดังกล่าวหรือไม่ยังไม่แน่ชัด ส่วนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ตัวย่อ ธ. ที่มีข่าวตกเป็นเหยื่อของแก๊งตบทรัพย์รายนี้ พนักงาน สอบสวนอยู่ระหว่างประสานเข้าให้ข้อมูลด้วย
...
พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการของนายศรีสุวรรณเพิ่มเติมอีกไม่น้อยกว่า 2 คน ภายใน วันศุกร์ที่ 2 ก.พ. เป็นตัวการสำคัญที่ตำรวจต้องการตัว มาก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นบุคคลใด ส่วน น.ส.พิมณัฏฐา หรือตูน จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.อุตรดิตถ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ต้องถูกแจ้งความเพิ่มเติมฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ หลังพบการแต่งตั้ง น.ส.พิมณัฏฐา เป็นคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 ของรองนายก รัฐมนตรี ก่อนถูกยกเลิกในวันถูกจับกุม ส่วนที่มีข่าว นายหมูพาอธิบดีกรมการข้าวและภรรยาไปเจรจากับ นายศรีสุวรรณที่บ้านและมีการจ่ายเงิน 6 หลักให้กับ นายศรีสุวรรณ เมื่อวันที่ 28 พ.ย.66 เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน วันดังกล่าวเป็นเพียงการเจรจาขอให้ยุติ เรื่องร้องเรียน ไม่มีการพูดคุยเรื่องผลประโยชน์ หรือจ่ายเงินแต่อย่างใด การจ่ายเงิน 6 หลักนั้น เกิดขึ้น หลังจากที่นายศรีสุวรรณ สึกจากการบวชเป็นพระ โดยระหว่างบวชยังเจรจากันมาตลอด
“ผมยืนยันตำรวจ บก.ปปป. ดำเนินการตามพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นจริง ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร เตรียมเปิดเผยข้อมูลของบุคคลชั่วร้ายออกมาว่าทำไมขบวนการนี้ถึงได้รู้ข้อมูลวงในของหน่วยงานรัฐ เป็นมืออาชีพที่ชั่วร้าย ไม่ใช่การร้องเรียนเพื่อทำให้ประเทศชาติดีขึ้น แต่เป็นเหลือบไร เป็นสุนัขข้างทาง ที่พยายามจะไล่เห่า ไล่กัดเพื่อแย่งอาหาร อาหารก็เปรียบเสมือนงบประมาณ พวกนี้จะล้อมหน้าล้อมหลังเอาเศษอาหาร เป็นพวกขี้เรื้อน ดังนั้น ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ ยืนยันคดีนี้หากหลักฐานไม่แน่นหนาจนมั่นใจขนาดนี้ ตำรวจ บก.ปปป. คงไม่กล้ารบกับยักษ์ซึ่งมีทั้งพ่อยักษ์และลูกยักษ์ ถ้าใครคิดว่าอยู่เหนือกฎหมายก็ลองดู” พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าว
ทั้งนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวทิ้งท้ายว่า การที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี ติงการ ปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ตำรวจ บก.ปปป. เข้าจับกุมตัวเจ๋ง ดอกจิก และ น.ส.พิมณัฏฐา ที่ทำเนียบรัฐบาล ใช้เพียงตำรวจยศ พ.ต.อ. มาจับกุม ถือว่าไม่ให้เกียรติ สถานที่ ต่างจากการจับกุมนายศรีสุวรรณนั้น ยืนยันตำรวจทุกคนมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญสามารถจับกุมได้เท่าเทียมกัน เป็นการกระจายปฏิบัติงานตามหน้าที่ ขอวิงวอนให้นายพีระพันธุ์รีบส่งหนังสือยกเลิกการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐของเจ๋ง ดอกจิก และ น.ส.พิมณัฏฐา หรือตูน มาให้เจ้าหน้าที่ด้วย เพื่อจะได้เร่ง ดำเนินการต่อและอยากให้นายพีระพันธุ์เข้าใจการทำงานของตำรวจด้วย
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนี้ว่า หน่วยงานที่ตนกำกับ ดูแลไม่มีการตบทรัพย์และไม่จำเป็นต้องมีที่ปรึกษาอะไรมากมาย กรณีที่เกิดขึ้นจะเป็นกรณีศึกษาหากทำอะไรที่ผิดกฎหมายจะเกิดปัญหา การทำอะไรตรงไป ตรงมาจะมีความสุขและดีที่สุด อะไรที่นอกลู่นอกทาง จะถูกตรวจสอบ เพราะทุกวันนี้การสื่อสารรวดเร็วไปไวมาก สิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้คนที่คิดไม่ถูกต้องฉุกคิด
ส่วนบรรยากาศที่บ้านของนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ผู้ต้องหาคดีนี้ ในพื้นที่ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ยังคงเงียบเหงา เหมือนเช่นเคย โดยผู้สื่อข่าวเดินทางไปดูบ้านอีกหลัง ของนายศรีสุวรรณที่อยู่เลยบ้านหลังแรกไปไม่ไกล ไม่พบผู้พักอาศัยเช่นกัน สอบถามผู้พักอาศัยอยู่บ้านข้างๆทราบว่า บ้านหลังนี้นายศรีสุวรรณเพิ่งจะทำบุญขึ้นบ้านใหม่ได้ไม่นาน ปกตินายศรีสุวรรณจะพักอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ หลังจากเกิดเรื่องไม่เห็นนายศรีสุวรรณออกมารดน้ำต้นไม้หน้าบ้านอีกเลย ส่วนรถกระบะสีแดงที่จอดอยู่มีกระถางต้นไม้และข้าวของอยู่ท้ายรถกระบะนั้น นายศรีสุวรรณเตรียมตัวเดินทางไป จ.ปราจีนบุรี หลังจากที่เกิดเรื่องยังไม่พบตัวนายศรีสุวรรณ แต่คิดว่าน่าจะอยู่ เพราะปกติเจ้าตัวไม่ค่อยไปไหน
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
