หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน แจงยิบ ขั้นตอนได้ใบ สด.43 ยันต้องมารับวันตรวจเลือก โต้ “จิรัฏฐ์” บอกมาวันอื่นแล้วจับใบดำใบแดง ไม่มีในกระบวนการ เตรียมรวบรวมหลักฐานร้องทุกข์กล่าวโทษ 1-2 วันนี้ ชี้โทษการปลอมแปลงเอกสารอยู่ที่ศาลจะตัดสิน
วันที่ 29 มกราคม 2567 ที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน พล.ท.ทวีพูล ริมสาคร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ได้แถลงข่าวชี้แจงกรณีใบ สด.43 ของ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ว่า การได้มาซึ่งใบ สด.43 ที่ถูกต้อง มี 2 รูปแบบ คือ ผู้ที่ผ่านกระบวนการตรวจเลือกมาจับใบดำใบแดง จะต้องมีประธานและคณะกรรมการลงลายเซ็นทั้งหมด และจะได้รับเอกสารจากวันตรวจเลือกจากมือประธาน ส่วนอีกกรณี คือ ผู้ที่ผ่อนผัน ก็จะได้ สด.43 กลับไปเช่นเดียวกัน แต่จะมีช่องเขียนว่าผ่อนผัน ซึ่งเงื่อนไขสำคัญคือจะต้องได้รับจากมือประธานในวันตรวจเลือกเท่านั้น ถ้าไปได้วันอื่น จะมาบอกว่าวันนั้นไม่มา แล้วมาวันหลังมาจับใบดำใบแดง แล้วได้ สด.43 กลับไป อันนี้ไม่มีโดยกระบวนการ ยืนยันว่าวิธีการเป็นแบบนี้ และจะได้รับเพียง 2 รูปแบบเท่านั้น พร้อมนำใบ สด.43 ที่ถูกต้องมาแสดงให้สื่อมวลชนเห็นรายละเอียด
สำหรับขั้นตอนการผ่อนผันนั้น เริ่มเกณฑ์ตั้งแต่อายุ 21 ถึง 26 ปี หากอยู่ระหว่างศึกษา สามารถผ่อนผันได้ แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไข หากพ้นเงื่อนไข กรณีถ้าต้องเป็นคดีความ หากศาลตัดสินแล้ว ก็ต้องมาเป็นทหารเลย เงื่อนไขมีเท่านี้ วิธีการอื่นไม่ใช่ขั้นตอนที่ทางราชการออก
ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ยืนยันว่าได้จัดเก็บหลักฐานการตรวจเลือกทหารไว้ทั้งหมด แยกไปหลายส่วน เพื่อป้องกันการทุจริต อย่างน้อยสามารถตรวจสอบได้หลายทาง
...
ด้าน พ.อ.พงศฤทธิ์ ภวังคะนันท์ ผู้อำนวยการกองการสัสดี หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ชี้แจงว่า น้องๆ ที่ได้รับหมายเรียก จะต้องเข้ารับการตรวจเลือก ซึ่งจะกำหนดไว้ว่าสถานที่ใด วันใดแบบตายตัว ไม่สามารถเป็นวันอื่นได้ โดย ใบ สด.43 มีอยู่ด้วยกัน 3 ท่อน ท่อนแรกจะเก็บไว้ที่สำนักงานสัสดีจังหวัด ท่อนที่ 2 เก็บไว้ที่กองทัพภาคภูมิลำเนาทหาร แล้วท่อนที่ 3 อยู่กับเจ้าตัว หากผ่อนผัน แต่ละท่อนก็จะถูกเก็บแยกต่างกันเพื่อตรวจสอบ หากไม่มาเข้ารับการตรวจเลือกในปีนั้น สด.43 ทั้ง 3 ท่อนนั้น ก็จะไม่ได้รับการแจกจ่ายไปที่ใด จะเก็บอยู่ในต้นขั้วทั้งหมด เพื่อเป็นหลักฐานไว้ว่าน้องไม่ได้มาเข้ารับการตรวจเลือก หรือขาดรับการตรวจเลือก
เมื่อถามว่า ถึงการตรวจสอบต้นขั้วของ นายจิรัฏฐ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ยืนยันว่าใครที่อยู่ในระบบ ต้นขั้วเจอหมด เพราะฉะนั้นชายไทยทุกคนที่เข้าสู่กระบวนการจะต้องมีต้นขั้ว ส่วนต้นขั้วของ นายจิรัฏฐ์ ระบุไว้อย่างไร ขออธิบายว่า ตนอธิบายไปแล้วว่าขั้นตอนของ สด.43 มีอะไรที่ถูกต้อง ลายเซ็นต้องครบ ลายนิ้วมือต้องพิมพ์ ต้องไปดูว่าสิ่งที่มีผู้แสดงออกมาว่า สด.43 ใบนั้น เป็นสิ่งที่ราชการออกให้หรือไม่ เพราะถ้าไม่ครบ ก็จะไม่ใช่เอกสารที่ทางราชการออกให้
เมื่อถามว่า ถ้าเป็นการปลอมแปลงเอกสาร ในฐานะหน่วยรับผิดชอบตรง จะดำเนินการอย่างไร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ระบุ ขณะนี้ กองทัพบกอยู่ในขั้นตอนรวบรวมหลักฐาน และแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ อยู่ในขั้นตอน เข้าใจว่าใช้เวลาไม่นาน วันถึงสองวันนี้จะดำเนินการ ส่วนความผิดเรื่องการปลอมแปลงเอกสาร อยู่ที่ศาลจะตัดสินและการต่อสู้ในชั้นศาล ยืนยันว่าโทษขนาดไหนอยู่ที่การพิจารณาของศาล
ทั้งนี้ ย้ำว่า ประเด็น สด.43 เป็นเรื่องที่สังคมสนใจและอยากทราบ จึงออกมาแจ้งรายละเอียด ยืนยันกองทัพบกไม่ได้นิ่งนอนใจในกรณีนี้ เพียงแต่อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อไป
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ต้นขั้วสด.43 สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้นับ 10 ปี และกรณีของนายจิรัฏฐ์ ไม่ได้ มาเข้ารับการตรวจเลือกจับใบดำใบแดง
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” โพสต์ข้อความภายหลังการแถลงข่าวของหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนเสร็จสิ้น ระบุว่า #ทุกคนคะ เมื่อความจริงปรากฏจนสิ้นข้อสงสัยว่า สส.จิรัฏฐ์ ก้าวไกล หนีทหาร และแสดง สด.43 ที่ไม่ได้ออกจากกองทัพ (สด.เถื่อน) สถานีต่อไป ป.ป.ช.ค่ะ
#ยื่นถอดถอน
