Livable Scape เมืองสร้างสรรค์ที่เราร่วมกันสร้างได้

แนวคิดของเมืองสร้างสรรค์เริ่มต้นและพัฒนาตามการเปลี่ยนแปลงของการวางผังเมือง การพัฒนาเศรษฐกิจ และนโยบายทางวัฒนธรรม ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 20 เมืองต่าง ๆ ได้เห็นถึงคุณค่าของระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ นำไปสู่การพัฒนาพื้นที่เมือง สำหรับทำกิจกรรมทางวัฒนธรรมและธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ ส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลมาจากการถดถอยของอุตสาหกรรมการผลิตแบบดั้งเดิมในเขตเมือง ทำให้เกิดพื้นที่ว่างและอาคารต่าง ๆ ถูกทิ้งร้างเป็นจำนวนมาก 

ปฐมบทของการพัฒนาเมืองสร้างสรรค์คงหนีไม่พ้นการอ้างอิงทฤษฎี "Creative Class" ของริชาร์ด ฟลอริดา ที่ชี้ให้เห็นถึง บทบาทของศิลปินและนักสร้างสรรค์ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของเมือง การเปลี่ยนผ่านจากระบบเศรษฐกิจฐานการผลิตไปสู่เศรษฐกิจบริการ ปรับโฉมและฟื้นฟูพื้นที่เมืองที่ทรุดโทรมให้กลายเป็นย่านที่มีชีวิตชีวา ดึงดูดนักท่องเที่ยว ผู้อยู่อาศัย และนักลงทุน

เมืองชั้นนำหลายแห่งขานรับแนวคิดนี้ด้วยเห็นว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์เสริมการแข่งขันของประเทศ สร้างความแตกต่าง และแสดงให้เห็นถึงสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองบนเวทีโลก

นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างการมีส่วนร่วมทางสังคม รัฐบาลและนักวางผังเมืองเริ่มบูรณาการงานพัฒนาเมืองสร้างสรรค์เข้ากับแผนแม่บทการพัฒนาเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศ ควบคู่ไปกับการสร้างแรงจูงใจให้ธุรกิจสร้างสรรค์เข้ามาตั้งถิ่นฐานหรือทำกิจกรรมในพื้นที่เหล่านี้มากขึ้น

เมื่องที่เปลี่ยนจาก 'เป็ด' เป็น 'หงส์'

"กลาสโกว์" (Glasgow) เมืองที่เคยถูกมองข้าม ได้กลายเป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวาและทันสมัยอย่างไม่น่าเชื่อหลังจากได้รับตำแหน่งเมืองแห่งวัฒนธรรมของยุโรป (European Capital of Culture) ในปี 1990 การลงทุนครั้งใหญ่ในศิลปะและวัฒนธรรมไม่เพียงเปลี่ยนแปลงทัศนียภาพของเมือง แต่ยังสร้างการจ้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น พร้อมกับส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับวัฒนธรรม ในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาอัตลักษณ์เฉพาะตัวของเมืองไว้ได้ด้วย

ในกลาสโกว์มีเทศกาลและกิจกรรมต่าง ๆ มากมายที่เน้นย้ำถึงสถานะของเมืองสร้างสรรค์ ตัวอย่างเช่น Celtic Connections เทศกาลดนตรีพื้นบ้านและดนตรีโฟล์กที่มีรากฐานจากดนตรีสก็อตแบบดั้งเดิม หรือ งานเทศกาลตลกนานาชาติกลาสโกว์ (Glasgow International Comedy Festival) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้กลาสโกว์เป็นเมืองที่สนุกที่สุดในโลก พร้อมทั้งเฉลิมฉลองบทบาทของนักแสดงตลกตามวิถีวัฒนธรรมสก็อต

ทั้งนี้นอกเหนือจากการส่งเสริมด้านศิลปวัฒนธรรมของเมืองแล้ว กลาสโกว์ยังมีเป้าหมายที่ใหญ่กว่านั้น โดยในอนาคตเมืองวางแผนที่จะยกระดับคลัสเตอร์ “Digital and Creative Economy” ให้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เติบโตเร็วที่สุด มุ่งเป้าสร้างการจ้างงานราว 34,000 ตำแหน่ง และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจมากกว่า 1 พันล้านปอนด์ เป็นจุดดึงดูดนักสร้างสรรค์และนวัตกรทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศและนานาชาติ เป็นแหล่งรวมธุรกิจสตาร์ทอัพด้าน CreaTech ที่สำคัญของสหราชอาณาจักร 

"เมืองออสติน" (Austin) ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐอเมริกา เป็นที่รู้จักในฐานะ "The home of live music" ออสตินเป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงดนตรีสดและเทศกาลต่าง ๆ มากมาย ทั้งงาน Austin City Limits และ South by Southwest (SXSW) ซึ่งเมืองให้ความสำคัญกับเอกลักษณ์อันโดดเด่นนี้ โดยแผนกพัฒนาเศรษฐกิจของเมือง ตั้งโปรแกรมสนับสนุนทุนที่ชื่อว่า “Austin's Live Music Event Fund Program” เพื่อให้ทุนในวงเงิน 5,000-10,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อราย แก่นักดนตรี วงดนตรี และโปรโมเตอร์ เพื่อชูจุดขาย “เมืองหลวงแห่งดนตรีสดของโลก”

นอกจากนี้ออสตินยังมีโครงสร้างพื้นฐานทางวัฒนธรรมที่สำคัญอื่น ๆ เช่น โรงละคร The Paramount Theatre และโรงภาพยนตร์ Alamo Drafthouse เป็นต้น


"เมืองไครสต์เชิร์ช" (Christchurch) ของนิวซีแลนด์ ได้แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะภายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี 2010 ไครสต์เชิร์ชกลายเป็นที่รู้จักในด้านนวัตกรรมการฟื้นฟูเมืองและการใช้แนวคิดเชิงสร้างสรรค์พัฒนาเมือง โดยเป็นเจ้าภาพจัดงานสำคัญต่าง ๆ เช่น งาน World Buskers Festival เป็นเทศกาลนานาชาติประจำปีของนักแสดงข้างถนน (Street performers) ซึ่งในบริบทของเทศกาลนั้น ครอบคลุมทุกด้านของสตรีทอาร์ตและโรงละครริมถนน เช่น การเล่นกล การแสดงผาดโผน การแสดงตลก หรือการแสดงเดี่ยวไมโครโฟน เวทีแสดงจัดขึ้นใจกลางเมืองโดยเฉพาะในจัตุรัส Cathedral Square, Victoria Square the Arts Centre และ City Mall

การสนับสนุนเมืองไครสต์เชิร์ชด้วยแนวคิดเชิงสร้างสรรค์นี้ จากข้อมูลปี 2022 พบว่า เมืองได้สร้างการจ้างงานมากกว่า 5,500 คน และมีส่วนสนับสนุน GDP ของประเทศนิวซีแลนด์ คิดเป็นมูลค่าราว 718 ล้านดอลลาร์
 

แนวคิดเมืองสร้างสรรค์ของไทย 

ประเทศไทยเองก็มีคอนเซ็ปต์การพัฒนาเมืองและย่านสร้างสรรค์เช่นเดียวกัน โดยมีหน่วยงานหลักที่ขับเคลื่อน คือ สำนักพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ของ CEA ร่วมกับเครือข่ายทั้งหน่วยงานรัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ดำเนินงานผ่านยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนเมืองใน 5 ด้าน ประกอบด้วย

  1. Strategic planning & development – สร้างเครื่องมือและกลไกในการยกระดับพื้นที่ให้เป็นย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นในการจัดทำแผนหรือเพิ่มเติมแผนพัฒนาย่านบูรณาการเข้าไปอยู่ในแผนพัฒนาจังหวัด การพัฒนาเครื่องมือประเมินเชิงนโยบาย
  2. Creative placemaking – การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ผ่านการพัฒนาพื้นที่สร้างสรรค์ โดยทดลองนำพื้นที่เก่าในเมืองมาฟื้นการใช้ประโยชน์ใหม่
  3. Strengthen creative business – การพัฒนาสภาวะเอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจและผู้ประกอบการสร้างสรรค์ภายในย่าน 
  4. District branding - การสร้าง เผยแพร่ สื่อสาร และส่งเสริมการรับรู้อัตลักษณ์ย่านสร้างสรรค์ ผ่านโครงการ Storytelling เพื่อศึกษาอัตลักษณ์ของพื้นที่นำไปต่อยอดในมิติต่าง ๆ
  5. Co-creating a creative community – การบริหารการมีส่วนร่วมและสร้างเครือข่ายในการพัฒนาย่านสร้างสรรค์ ด้วยเครื่องมือ Design Week หรือ เทศกาลการออกแบบ ในแต่ละพื้นที่ทั้งกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา และพื้นที่อื่น ๆ 

จากยุทธศาสตร์ทั้ง 5 จะเห็นได้ว่า เป็นการตั้งต้นจากการพัฒนาพื้นที่เล็ก ๆ อย่าง “ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์” เพราะเมื่อย่านหลาย ๆ ย่านมีโอกาสทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ก็เป็นเสมือนผลรวมที่ทำให้เมืองทั้งเมืองดีตามไปด้วย รวมไปถึงการพัฒนาเมืองสร้างสรรค์ไม่ใช่เป็นเพียงการสร้างแบรนด์ หรือการจัดกิจกรรมเท่านั้น แต่คือการจัดองค์ประกอบของเมืองทั้งหมดที่สะท้อนอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของเมือง และนำมาต่อยอดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมให้กับเมืองและผู้คนในเมือง 

อย่างไรก็ตาม จากตัวอย่างเมืองในประเทศต่าง ๆ ข้างต้นจะเห็นได้ชัดว่า เกือบทุกเมือง สร้างภาพจำและแบรนด์ของตัวเองผ่านงานเทศกาล ด้วยเพราะเป็นสิ่งที่สื่อสารและดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาทำความเข้าใจและมีส่วนร่วมกับเมืองได้ง่ายที่สุด การจัดงานเทศกาลเป็นกลยุทธ์หลักที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจและเพิ่มคุณค่าทางวัฒนธรรม ทำให้เมืองน่าดึงดูดทั้งในแง่ของการท่องเที่ยวและการลงทุน ส่งเสริมการจ้างงาน และสนับสนุนธุรกิจในท้องถิ่น

กรุงเทพฯ กับงาน Bangkok Design Week

เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ หรือ Bangkok Design Week (BKKDW) เริ่มต้นจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2018 มุ่งเน้นนำเสนองานออกแบบและงานสร้างสรรค์ ที่สะท้อนความคิดและความเป็นไปได้ใหม่ของกรุงเทพฯ ต่อสถานการณ์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

งานนี้เป็นเวทีแสดงผลงานของนักออกแบบและธุรกิจสร้างสรรค์ตั้งแต่ขั้นทดลองไปจนถึงผลงานระดับมืออาชีพ จัดแสดงผ่านการใช้งานพื้นที่ในเมืองและย่านสร้างสรรค์ พร้อมด้วยการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างสีสันและประสบการณ์น่าจดจำให้กับชาวเมือง อีกทั้งยังดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วโลกเดินทางมาสัมผัสกับความเคลื่อนไหวล่าสุดของกรุงเทพฯ โดยงานยังส่งผลต่อเศรษฐกิจของชุมชนท้องถิ่นด้วย เกิดการจับจ่ายใช้สอยร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักในบริเวณย่านที่จัดงาน ช่วยกระตุ้นธุรกิจในท้องถิ่น

จากการประเมินผลกระทบในปี 2023 พบว่าเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ สร้างให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 721 ล้านบาท คิดเป็น 23 เท่าโดยประมาณจากเงินลงทุนในการจัดงาน และเกิดการจ้างงานอยู่ที่ 1,392 อัตรา อีกทั้งยังก่อให้เกิดผลกระทบที่ดีต่อสังคมมากถึง 86.5% โดยเป็นผลที่ได้มาจากการสำรวจข้อมูลผู้เข้าชมงานและประชาชนที่อาศัยภายในย่าน

ปี 2024 เทศกาลการออกแบบกรุงเทพ กลับมาจัดอีกครั้งด้วยแนวคิดที่มองเมืองเหมือนชีวิตของคนที่มักพบกับความไม่สมบูรณ์แบบอยู่เสมอ แม้กรุงเทพฯ จะยังคงน่าเที่ยวโดยเฉพาะกับชาวต่างชาติ แต่ยังไม่ค่อยน่าอยู่ นั่นเพราะกรุงเทพฯ ต้องเผชิญปัญหาและความท้าทายเชิงโครงสร้างที่ยังไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในหลายมิติ

นี่จึงเป็นโจทย์สำคัญสำหรับงาน “Bangkok Design Week 2024” ที่อยากชวนทุกคนมาร่วมลงมือเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็นเมือง “น่าเที่ยว” “น่าลงทุน”และ “น่าอยู่” ทั้งกับผู้คนในเมือง นักลงทุน และผู้มาเยี่ยมเยือน ภายใต้แนวคิด "Livable Scape" มุ่งหวังที่จะเห็นกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ดีต่อการอยู่อาศัยมากกว่าเป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยว โดยการพัฒนาในทุกมิติ ทั้งทางกายภาพ จิตใจ และสังคม ให้สอดรับกับการใช้ชีวิตประจำวัน

งานเทศกาลนี้เป็นเวทีสำหรับสร้างแรงบันดาลใจและประสบการณ์ใหม่ ๆ ผ่านการเชื่อมโยงวัฒนธรรมท้องถิ่นกับสิ่งแวดล้อมและชุมชน โดยนำเสนอในรูปแบบ Exhibition, Showcase, Music & Performing, Workshop, Tour, Talk, Event, Market กว่า 500+ โปรแกรม จาก 15+ ย่านทั่วกรุงเทพฯ ตลอด 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. - 4 ก.พ. 2567 นี้ 

 

โดย: ศูนย์ข้อมูลเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...