“พายัพ” อัด “วรงค์” บิดเบือนเงินดิจิทัล ไล่กลับไปดูแลชาวพิษณุโลกให้ดีก่อน

“พายัพ” จวก “หมอวรงค์” อคติล้น เอาแต่เล่นการเมืองมากไป บิดเบือนเงินดิจิทัลวอลเล็ต ไล่กลับไปลงพื้นที่ดูแลชาวพิษณุโลกให้ดีก่อน อย่าเอาแต่คิดเองเออเอง

วันที่ 23 มกราคม 2567 นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ให้ความเห็นกรณี นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี และอดีต สส.จังหวัดพิษณุโลก ออกมาต่อต้านและวิพากษ์วิจารณ์นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ช่วยคนจนของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ว่า เป็นนโยบายที่น่าเป็นห่วงว่าจะโกงยิ่งกว่าโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลเพื่อไทยอีก 

นายพายัพ ระบุ ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ นายแพทย์วรงค์ กล่าวหารุนแรงและอคติมากเกินไป เอาแต่เล่นการเมือง ไม่สนใจปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่แท้จริงว่าวันนี้เศรษฐกิจภาคประชาชนของคนไทยวิกฤติมากขนาดไหน ต่อเนื่องมามากถึง 8 ปีกว่าแล้ว ถึงขั้นวิกฤติที่รุนแรงมาก อย่าเอาแต่เล่นการเมืองนักเลย ควรเอาเวลาไปลงพื้นที่สัมผัสชีวิตชาวบ้านร้านตลาดให้มากๆ จะดีกว่า จะได้รู้ข้อเท็จจริงว่า ขณะนี้ชาวบ้านเขาเดือดร้อนกับปัญหาข้าวยากหมากแพงขนาดไหน อย่าเอาแต่จ้อหน้าสื่อและทีวีนักเลย 

วันนี้พรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล กำลังทำงานตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ผลักดันการค้าการลงทุนทั้งในประเทศต่างประเทศ พยายามหาวิธีการช่วยเหลือเศรษฐกิจปากท้องประชาชน พยุงให้คนจนลุกขึ้นมายืนสู้ชีวิตต่อไปได้ด้วยการผลักดันนโยบายมอบเงินช่วยเหลือคนจนดิจิทัลวอลเล็ตคนละ 10,000 บาท เพื่อให้คนจนยืนได้ช่วยตัวเองได้ เขามีระบบระเบียบ มีคณะกรรมการศึกษา คณะกรรมการดำเนินงาน คณะกรรมการควบคุมกำกับดูแลการหาเงินและการใช้เงินทุกขั้นตอน มีการรับฟังความเห็นทุกฝ่ายในการดำเนินการให้เป็นไปตามระบบระเบียบของการใช้จ่ายเงินแผ่นดินของประเทศ 

...

“ไม่มีตรงไหนเลยที่ตรวจสอบไม่ได้ แล้วแหล่งที่มาของเงินก็จะเป็นเงินกู้ นำเข้าสู่วาระการประชุมพิจารณาของรัฐสภา สส. ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนทั่วประเทศสามารถอภิปรายสนับสนุน โต้แย้ง ให้ข้อคิดได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ได้มีการปกปิดมุบมิบทำเสียเมื่อไร นายแพทย์วรงค์ อย่าเอาแต่คิดเองเออเอง เพ้อฝันไปเอง มองแต่แง่ร้าย ไม่มองแง่ดีเอาเสียบ้าง นายแพทย์วรงค์เป็นหมอ ต้องเข้าใจคนไข้ ต้องตรวจดูอาการคนไข้ จะรักษาอย่างไรให้เขาทุเลา ให้เขาหายป่วย น่าจะเข้าใจการรักษาพยาบาลดี นี่รัฐบาลยังไม่ได้จ่ายยาหรือฉีดยาสักเข็มเลย ตำหนิติเตียนจนคนไข้จะตายคามือหมออยู่ เบาหน่อยซิครับมีเหตุมีผลกันบ้าง”

ส่วนกรณีที่ นายแพทย์วรงค์ เป็นห่วงเรื่องการใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์ของประชาชนจะเกิดความยุ่งยาก เกรงว่าจะเอาเงินดิจิทัลวอลเล็ตไปแลกเงินสดจากร้านค้ามาใช้ แล้วถูกหักเงินนั้น ตนขอบอกว่า เดี๋ยวนี้ชาวบ้านเขาทันสมัย เขาฉลาดหลักแหลมกว่าที่คุณคิด เพราะชาวบ้านเขาไปตลาดเขาไม่พกเงินสดกันแล้ว ซื้อผักปลาก็ใช้โทรศัพท์สแกนจ่ายสตางค์กันหมดแล้ว

ในช่วงท้าย นายพายัพ ยังระบุด้วยว่า “เอาเวลาที่อยู่วิพากษ์วิจารณ์ตำหนิติเตียนกล่าวหารัฐบาล กลับบ้านพิษณุโลกบ้าง จะได้ไปสัมผัสชาวบ้านที่เคยเลือกตนเองมาเป็น สส. ว่าเขาเป็นอยู่กันอย่างไร ยากจนเสมอภาคไหม ทำอะไรกินกันลำบากมากไหม เศรษฐกิจชาวบ้านมันวิกฤติจริงไหม ตอนนี้น้ำแล้งข้าวแห้งแล้ง ไปช่วยหาเครื่องสูบน้ำให้เขาหน่อยดีไหม ลดทิฐิและอคติลงไปบ้าง ชาวบ้านจะได้รักและเห็นใจ สมัยหน้าจะได้กลับมาเป็น สส.ในสภาผู้แทนราษฎร”

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...