ที่ประชุม กบฉ. เห็นชอบขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดชายแดนใต้ต่ออีก 3 เดือน ตั้งแต่ 20 ก.ย.-19 ธ.ค. 66 พร้อมปรับลดพื้นที่ อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ออก “พล.อ.ประวิตร” ขอบคุณทุกฝ่าย หลังพบสถิติการก่อเหตุลดลง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 สิงหาคม 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.) ครั้งที่ 3/2566 โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด และประชุมทางไกลผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์
ทั้งนี้ ที่ประชุมรับทราบผลการปฏิบัติงานตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ห้วงวันที่ 20 มิถุนายน 2566 - 20 สิงหาคม 2566 ซึ่งมีแนวโน้มของสถานการณ์ที่มีความสงบเรียบร้อยมากขึ้นตามลำดับ และมีสถิติการก่อเหตุความรุนแรงลดลง สามารถพัฒนาไปสู่การปรับลดพื้นที่ออกจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินได้มากขึ้น
ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับให้หน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ เข้มงวดตรวจสอบโรงงานที่เกี่ยวข้องกับสารประกอบระเบิด พร้อมเร่งรัดการช่วยเหลือฟื้นฟูประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โรงงานพลุระเบิด ในพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ที่ผ่านมา โดยเร็วด้วย
จากนั้นที่ประชุม กบฉ. มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ปรับลดพื้นที่ อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ออกจากพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ เพื่อนำพระราชบัญญัติการรักษาความมั่งคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 มาใช้แทน และขอขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้น อ.ศรีสาคร, อ.สุไหงโก-ลก, อ.แว้ง และ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส อ.ยะหริ่ง, อ.มายอ, อ.ไม้แก่น และ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี อ.เบตง และ อ.กาบัง จ.ยะลา ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 20 กันยายน 2566 - 19 ธันวาคม 2566 โดยเป็นการขยายระยะเวลา ครั้งที่ 73 เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติงาน ป้องกัน ระงับ ยับยั้งเหตุการณ์ในพื้นที่ให้ได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งจะเป็นประโยชน์ต่อการดูแลรักษาความสงบ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ด้วย โดยให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอเรื่องไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อไป
...
ในช่วงท้าย พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณคณะกรรมการ หน่วยงานความมั่นคง ฝ่ายปกครอง และกำลังพลทุกนายที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ ทุ่มเท และกล้าหาญ อย่างน่าภาคภูมิใจ สามารถแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีสถิติการก่อเหตุลดลงตามลำดับ พร้อมทั้งขอบคุณประชาชนในพื้นที่ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี รวมทั้งกำชับ สมช. ซึ่งถือเป็นกลไกหลักในการเตรียมความพร้อมแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในระดับนโยบาย ต้องขับเคลื่อนให้ต่อเนื่อง ไม่ขาดตอน มีความเป็นมืออาชีพ ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และเตรียมรับนโยบายจาก ครม.ชุดใหม่ ที่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ในระยะเวลาอันใกล้นี้ด้วย.