คิวแน่นคุยยักษ์ธุรกิจ “เศรษฐา” ฟิตถกเวทีเศรษฐกิจโลก “สุริยะ” โวแลนด์บริดจ์ฉลุย

“เสรี” ลั่น สว.ไม่ได้อยู่ใต้อาณัติใคร แค่ทำหน้าที่ตรวจสอบ เปิดช่องรัฐบาลชี้แจงทางออกประเทศ 7 ประเด็น ไม่ใช่เกมโค่นล้ม จวกคนเดินเกมขวางคิดผิด อย่าปิดกั้น รับช่วงแรกล่าชื่อเพื่อน สว.ไม่ยอมเซ็นอ้างมีพวกขอมา “กิตติศักดิ์” เผื่อเหลือเผื่อขาดเกินล่าชื่อไว้เกิน 90 เสียง แขวะปมคนชั้น 14 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เก็บข้อมูลรอถล่มเงินดิจิทัล อภิสิทธิ์ชนคนชั้น 14 ปมสางปัญหาเศรษฐกิจ “วันชัย” แนะล่าชื่อสำรองเกิน 10 คน รับมือพวกดอดถอนชื่อตอนท้าย ชี้เดือน ก.พ. “ทักษิณ” อาจได้พักโทษ ขย่มไปก็ไร้ประโยชน์ “มนพร” แจงรัฐบาลไม่ได้ล้วงลูก ยินดีให้ สว.ตรวจสอบ พร้อมแจงทุกเวที “อนุสรณ์” โวเป็นโอกาสยึดเวทีอวดผลงาน “นายกฯ” ถึงสวิตเซอร์แลนด์ร่วมถก “เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม” ลุยกล่อม บ.ยักษ์ใหญ่ระดับโลกลงทุนในไทย

คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา เดินหน้ารวบรวมรายชื่อ สว.ไม่น้อยกว่า 84 คน เพื่อยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 153 ท่ามกลางกระแสข่าวฝ่ายรัฐบาลพยายามสกัดไม่ให้สว.ร่วมลงชื่อเสนอญัตติ โดยนายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.ในฐานะประธานกมธ.พัฒนาการเมืองฯ ยืนยันเป็นการทำหน้าที่ส่งท้ายวาระ ไม่ได้หวังล้มรัฐบาล เพียงแค่ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล

กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ

...

84 สว.เข้าชื่อชงญัตติอภิปราย รบ.

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 15 ม.ค. ที่รัฐสภา นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. กล่าวว่า ความคืบหน้าการล่าชื่อ สว. เพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 153 ล่าสุดได้รับรายงานว่า เมื่อเช้าวันที่ 15 ม.ค. เสียง สว.ถึง 84 เสียงแล้ว และอาจเกินเล็กน้อยไปถึง 90 เสียง ทำให้เปิดอภิปรายได้ คาดว่าจะยื่นเรื่องถึงประธานวุฒิสภาได้สัปดาห์หน้า เพื่อส่งไปยัง ครม.ต่อไป จากนั้นเป็นเรื่องรัฐบาลว่าจะเปิดการอภิปรายได้เมื่อใด ส่วนกระแสข่าวมีขบวนการล็อบบี้ไม่ให้เปิดอภิปรายได้นั้น อย่าเรียกเป็นล็อบบี้หรือการสกัดเพราะ สว. 250 คน มีเอกสิทธิ์จะโหวตอย่างไรก็ได้ การจะร่วมลงชื่อหรือไม่ เป็นเอกสิทธิ์แต่ละคน

แขวะปมชั้น 14 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

นายกิตติศักดิ์กล่าวว่า ส่วนการโน้นน้าวไม่ให้สว.ร่วมลงชื่อ โดยอ้างรัฐบาลเพิ่งเข้ามาบริหารประเทศและมีความกังวลในการอภิปรายเรื่องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เข้าพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจนั้น จากการฟังหลายฝ่ายบอกได้เลยว่า อนาคตจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นเรื่องสลับซับซ้อนมากมาย ฝ่ายที่ต้องการไม่ให้อภิปรายเพราะกังวลเรื่องนายทักษิณจะกระทบต่อเรื่องกระบวนการยุติธรรมเป็นหลัก จะเป็นการจารึกว่าเป็นเรื่องประหลาดไม่ใช่เฉพาะแต่ประเทศไทย ถึงบอกว่าไม่เกินที่จะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และเป็นหน้าที่รัฐบาลที่จะมาตอบ ทั้งเรื่องเงินดิจิทัล เรื่องนายทักษิณ เรื่องเศรษฐกิจ สว.หลายคนทำการบ้าน หาข้อมูลอภิปราย เรื่องนายทักษิณหนีไม่พ้นถูกนำมาอภิปรายอยู่แล้ว ขณะนี้ สว.ศึกษาและเก็บข้อมูลไว้มากพอสมควร แต่ไม่อยากบอกไปก่อน เดี๋ยวจะจืด เป็นความลับ

“เสรี” ย้ำกระบวนการสกัดยื่นซักฟอก

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.ในฐานะประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีมีเกมสกัด สว.ไม่ให้ลงชื่ออภิปรายเพื่อยื่นขอเปิดอภิปรายรัฐบาลทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 ว่า การจะเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติได้ต้องมี สว.ลงชื่อขอเปิดอภิปราย 1 ใน 3 หรือ 84 คนขึ้นไป ในช่วงดังกล่าวได้เอาญัตติให้สมาชิกศึกษา ปรากฏว่าสมาชิกหลายคนไม่ร่วมลงชื่อด้วยบางคนพูดตรงๆว่ามีคนขอหรือเป็นพวกกันบ้าง จึงเป็นความยากลำบากระดับหนึ่งว่าจาก สว. 250 คน ต้องใช้ 84 เสียง แต่ถ้าไม่มีใครมาล็อบบี้ ปล่อยตามธรรมชาติครบไปนานแล้ว

โวย สว.ไม่อยู่ใต้อาณัติใคร-ไม่ใช่ล้ม รบ.

“สิ่งที่เราทำไม่ใช่ล้มรัฐบาล แต่เป็นการเสนอญัตติให้รัฐบาลมาชี้แจงหาทางออกประเทศใน 7 ประเด็น ไม่ว่าใครก็ตามที่มีแนวคิดไม่ให้มีผู้สนับสนุนญัตติครบ ถือว่าคิดผิดเพราะหากรัฐบาลตอบได้จะเป็นเครดิตรัฐบาล อย่าปิดกั้น ขณะนี้มีผู้แจ้งความจำนงไว้ 80 คนแล้ว น่าจะเปิดอภิปรายได้ จะพยายามทำให้ได้ เพราะ สว.ไม่อยู่ใต้อาณัติใคร ถือเป็นประโยชน์บ้านเมือง ช่วงเวลาสุดท้ายที่ สว.ใกล้หมดวาระ เป็นผลงานสุดท้ายที่พยายามทำเพื่อประชาชน แม้จะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ความรับผิดชอบในหน้าที่ เป็นสิ่งที่ สว.ต้องทำ แม้ที่ผ่านมา สว.จะโหวตให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯแต่การทำหน้าที่ตรวจสอบเป็นอีกเรื่องหนึ่ง” นายเสรีกล่าว

“วันชัย” ห่วง สว.ถอนชื่อตอนท้าย

นายวันชัย สอนศิริ สว.กล่าวถึงการล็อบบี้สว.ไม่ให้ลงชื่อเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 ว่า เท่าที่ติดตามข่าวพบว่า มีการล็อบบี้ให้ สว.ลงชื่อยื่นอภิปราย ทั้งทางโทรศัพท์ ไลน์ หรือพูดคุยกัน ให้มาลงชื่อเกิน 84 เสียง เป็นเรื่องปกติ แต่ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มไม่เห็นด้วยเช่นกัน ส่วน สว.กลุ่มอยู่กลางๆยังรอดูท่าทีอยู่ เพราะเห็นว่ายังมีระยะเวลายื่นญัตติเหลืออยู่ แต่เท่าที่เห็นมีการประเมินในช่วงแรก อาจจะไม่ถึง 84 เสียง ทราบว่าขณะนี้รวมชื่อได้ 77 คน เหลืออีกไม่เกิน 6-7 คน จะครบ 84 คน แต่ไม่ได้หมายความว่าอีก 6-7 คนแล้วจะพอ อย่างน้อยควรมีรายชื่อสนับสนุนเลยเสียงกำหนดเกิน 10 คน ต้องประเมินว่าถึงเวลาใกล้ๆสมาชิกลงชื่อไปแล้ว อาจมีเหตุผลอื่นถอนตัว ทำให้ไม่ครบ 84 คนก็ได้ ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ก่อน เท่าที่ประเมินคิดว่ายังก้ำกึ่งที่อาจมีรายชื่อเพิ่มขึ้น 5-6 คนหรืออาจมีคนถอย เพราะขณะนี้ สว.กลุ่มข้าราชการ ทหาร ตำรวจที่เป็นตำรวจยังไม่ค่อยขยับ ท่าทีกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ยังกลางๆกับไม่เห็นด้วย ขณะที่กลุ่มสนับสนุนจะเป็น สว.พลเรือนกับ สว.อิสระ

ชำแหละชั้น 14 เดือน ก.พ.ไร้ประโยชน์

เมื่อถามว่า หาก สว.สามารถอภิปรายตามมาตรา 153 ได้ จะสร้างผลกระทบถึงรัฐบาลได้แค่ไหน นายวันชัยตอบว่า คงได้แค่การพูด สอบถามเท่านั้น เพราะไม่สามารถลงมติไม่ไว้วางใจได้เหมือนสส. แต่อาจเป็นโอกาสให้รัฐบาลได้ชี้แจงข้อสงสัย ถือเป็นผลบวกกับทั้ง สว.ที่ได้แสดงท่าที และรัฐบาลที่ได้ชี้แจงข้อสงสัย แต่ถ้ามองอีกมุม สว.กำลังถล่มรัฐบาล มองรัฐบาลเป็นฝ่ายตรงข้ามก็มองได้ เพราะถ้าเป็นพวกกัน คงไม่ทำอย่างนี้ อาจแค่ตั้งกระทู้ มีข้อปรึกษาหารือ หรือดำเนินการด้วยวิธีการอื่น มากกว่าอภิปรายโดยไม่ลงมติ และประเด็นที่จะอภิปรายเป็นเรื่องดาษดื่นเกินไป ควรเอาประเด็นใหญ่สัก 1 เรื่อง ที่เปิดมาแล้วกระแทกสังคมได้ หลายคนที่ไม่เห็นด้วยจึงมองว่าสิ่งที่จะเสนอเยอะเกินไป ส่วนเรื่องชั้น 14 นั้น อาจเป็นประเด็นใหญ่หนึ่ง แต่บางกลุ่มบอกว่า กว่าที่ สว.จะได้อภิปรายเดือน ก.พ. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อาจได้พักโทษแล้ว เพราะครบ 6 เดือน หรือเมื่อถึงวันอภิปรายจริงๆ อาจเป็นเดือน มี.ค. เรื่องนี้จบไปแล้ว ไม่ทัน แต่ถ้าวันนี้เดี๋ยวนี้อาจจะใช่ อย่างไรก็ตามส่วนตัวไม่ได้ลงชื่อในญัตติดังกล่าว เพราะเป็นกลุ่มกลางๆ ไม่สนับสนุนหรือคัดค้าน แต่ถ้าเปิดอภิปรายได้ อาจจะร่วมอภิปรายด้วย ต้องดูท่าทีต่อไป

มนพร เจริญศรี

รบ.ปัดล้วงลูกพร้อมให้ สว.ตรวจสอบ

นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ในฐานะผู้วิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์กรณี นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. ในฐานะประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน ระบุมีข่าวมีการเสนอไม่ให้ลงชื่อในญัตติ เปิดอภิปรายทั่วไป คณะรัฐมนตรีโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 ว่า รัฐบาลปัจจุบันที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ที่ผ่านมาทำงานมาแค่ 4 เดือน โดยใช้งบไปพลางก่อนของปี 66 เพราะงบประมาณปี 67 ยังอยู่ในกระบวนการของคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาของสภาฯ แต่เราสามารถผลักดันผลงานต่างๆออกมาได้มากมาย เพราะเราจะมุ่งทำงานรับใช้ประชาชนให้คนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นหลังจากติดหล่มความขัดแย้งมานาน ยืนยันรัฐบาลไม่กลัวการตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นจาก สส. สว. ภาคประชาชน หรือสื่อมวลชน เราพร้อมชี้แจงในทุกเวที และไม่คิดก้าวก่ายกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติ หาก สว.รวบรวมชื่อ และยื่นอภิปรายได้ รัฐบาลพร้อมให้ความร่วมมือในการชี้แจง ที่ให้ข่าวเสมือนมีการล้วงลูกยืนยันไม่เป็นความจริงเราให้เกียรติ สว.และพร้อมรับการตรวจสอบ เพราะมั่นใจว่าจะชี้แจงได้ทุกประเด็น มั่นใจว่าเมื่อประชาชนได้รับฟังคำชี้แจงแล้วจะยิ่งเชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาลนี้มากยิ่งขึ้น

“อนุสรณ์” โวถือโอกาสขึงเวทีโชว์ผลงาน

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีการรวมรายชื่อ สว. เพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ตาม ม.153 ของรัฐธรรมนูญ ว่า แม้การดำเนินการดังกล่าวจะเป็นสิทธิ แต่ต้องยอมรับว่ามี สว.จำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยและไม่สบายใจกับการอภิปรายฯรัฐบาลในช่วงเวลานี้ เพราะมองไม่เห็นว่าประชาชนจะได้ประโยชน์อย่างไร การอภิปรายของวุฒิสภาคงเป็นไปในลักษณะอภิปรายถามตอบ คงไม่ส่งผลกระทบอะไรกับรัฐบาล สิ่งใดที่เป็นประโยชน์รัฐบาลก็นำมาปรับใช้ อะไรที่ สว.สงสัยถามมา รัฐบาลก็ตอบไป หากมองด้วยมุมมองเชิงบวกก็จะเป็นเวทีให้รัฐบาลได้ชี้แจงผลงานให้ประชาชนได้รับทราบอีกช่องทางหนึ่ง รัฐบาลจึงไม่มีความจำเป็นใดๆในการไปล็อบบี้ให้ สว.คนใดไม่ไปลงชื่อหรือลงชื่อ ต้องเคารพต่อการใช้ดุลพินิจและการตัดสินใจของ สว.ทุกท่านด้วย ก่อนพ้นวาระ ถ้า สว.จะฝากชื่อให้ประชาชนจำ สามารถทำได้หลายวิธี แต่การดำเนินการใดที่อาจกระทบต่อบรรยากาศการทำงานเพื่อประชาชนของรัฐบาล หรืออาจกระทบต่อความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติต้องระมัดระวัง

มท.1โต้หลอก ตปท.ลงทุนแลนด์บริดจ์

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการประชุม ครม. สัญจร จ.ระนอง วันที่ 22-23 ม.ค. ว่า จ.ระนองและชุมพรเป็นเส้นทางตามนโยบายรัฐบาลเรื่องโครงการแลนด์บริดจ์ จึงประชุม ครม.ที่จ.ระนอง ให้ ครม.และหน่วยงานรัฐได้เห็น ถือเป็นประโยชน์หลายด้าน ส่วนพรรคก้าวไกลตั้งแง่กับโครงการแลนด์บริดจ์นั้น ทุกอย่างต้องมีการศึกษา ตั้งแง่ไม่ได้ ยึดเหตุผล ความเป็นประโยชน์ทำให้ประเทศเข้มแข็ง การวิจารณ์ว่าหลอกต่างชาติมาลงทุนนั้น ต่างชาติฉลาดน้อยกว่าเราตรงไหน ระดับนานาชาติไม่มีคำว่าหลอก ถ้าเริ่มต้นด้วยการหลอกก็ผิดตั้งแต่แรก ทุกวันนี้เป็นโลกความร่วมมือ ไม่ใช่แข่งขันอย่างเดียว ส่วนที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยสถานภาพความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ วันที่ 17ม.ค.ไม่สามารถตอบได้ว่ามั่นใจหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ ได้แต่น้อมรับคำพิพากษา ไม่ว่าจะรูปแบบใดหวังว่าน่าจะตอบข้อกล่าวหาทุกอย่างได้

หนี้นอกระบบ 46 วันขยับ 8 พันล้าน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าวถึงการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบว่า นับตั้งแต่เปิดลงทะเบียนเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2566 เป็นต้นมาจนถึง 46 วัน ข้อมูลสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง พบมีมูลหนี้รวม 8,306 ล้านบาท ประชาชนลงทะเบียน 128,813 ราย เจ้าหนี้ 93,367 ราย จังหวัดที่ลงทะเบียนมากสุดคือ กทม. 10,666 ราย เจ้าหนี้ 6,742 ราย มูลหนี้ 748.9 ล้านบาท รองลงมาคือ นครศรีธรรมราช ลงทะเบียน 5,247 ราย เจ้าหนี้ 4,534 ราย มูลหนี้ 340 ล้านบาท นครราชสีมา ลงทะเบียน 4,791 ราย เจ้าหนี้ 3,120 ราย มูลหนี้ 359.8 ล้านบาท จังหวัดที่ลงทะเบียนน้อยสุดคือ แม่ฮ่องสอน ลงทะเบียน 199 ราย เจ้าหนี้ 171 ราย มูลหนี้ 10.8 ล้านบาท ทั้งประเทศมีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว 9,464 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 3,822 ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย 783.5 ล้านบาท หลังไกล่เกลี่ย 437.5 ล้านบาท ลดลง 346 ล้านบาท จังหวัดที่ลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยมากสุดคือ นครสวรรค์ 2,925 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 87 ราย ส่วนกรณีไม่ได้รับความร่วมมือและไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งความต่อสถานีตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดีไปแล้ว 52 คดี ใน 22 จังหวัด

นายกฯนั่งเครื่องพาณิชย์ถกเวที WEF

สำหรับความเคลื่อนไหวนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง อยู่ระหว่างเดินทางเข้าร่วมประชุม World Economic Forum (WEF) ที่กรุงดาวอส สมาพันธรัฐสวิต ระหว่างวันที่ 15-19 ม.ค. เมื่อเวลา 00.45 น. วันที่ 15 ม.ค. นายเศรษฐา ทวีตข้อความผ่าน X ว่า เดินทางไปประชุม WEF ที่ Davos ครั้งนี้ เดินทางด้วยเครื่องพาณิชย์ครับ โดยมีผู้ร่วมเดินทางไปด้วยเท่าที่จำเป็น ตามข้อจำกัดหลายด้าน รู้สึกสะดวก และกระชับดี แต่มั่นใจว่าจะสามารถนำประโยชน์กลับมาให้ประเทศและประชาชนคนไทยได้เต็มที่แน่นอน

เศรษฐา ทวีสิน

แวะซื้อหนังสือก่อนจับเข่าคุยผู้นำ

เมื่อเวลา 09.04 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายก รัฐมนตรีและ รมว.คลัง ทวีตข้อความผ่าน X ระบุว่า กองทัพภาคที่ 3 และ กอ.รมน.ภาค 3 ได้ปฏิบัติการเพื่อลดปัญหา PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือหลังได้รับนโยบายไป โดยเราขอความร่วมมือเรื่องการควบคุมไฟป่าและหมอกควัน จากรองเจ้าเมืองเชียงฮ่อน ทางการ สปป.ลาวรับปากว่าจะช่วยรณรงค์ไม่ให้มีการเผาป่าในฝั่งลาว และเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดไฟป่าที่ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ พบว่าไฟดับแล้ว ต้องขอบคุณการปฏิบัติหน้าที่เพื่ออากาศที่ดีของพี่น้องประชาชน

วันเดียวกัน ระหว่างที่นายเศรษฐาอยู่ที่สมา พันธรัฐสวิต ในห้วงระหว่างการเดินทางเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum (WEF) ได้ทวีตภาพขณะเดินดูหนังสือในร้านหนังสือแห่งหนึ่ง พร้อมโชว์ภาพถุงหนังสือที่ซื้อมา โดยนายกฯ ระบุว่า “ใช้เวลาระหว่างรอต่อเครื่องไปซูริกหาหนังสืออ่าน เผื่อมีประเด็นที่น่าสนใจไปพูดคุยกับผู้นำที่จะได้เจอกัน”

ประชุมเตรียมพร้อมข้อมูล

เมื่อเวลา 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นสวิต เซอร์แลนด์ (ช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง) นายเศรษฐาเดินทางถึงที่พัก โดยมีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม และนายจิตติพัฒน์ ทองประเสริฐ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น ให้การต้อนรับ จากนั้นนายกฯได้ใช้เวลาหารือกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อรับฟังสรุปข้อมูล ในการเข้าร่วมการประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม

จ่อกล่อมดึงทุน บ.ยักษ์ใหญ่ของโลก

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า ในห้วงระหว่างการประชุม WEF ประจำปี 2567นายกฯมีกำหนดการพบหารือผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก อาทิ DKSH ผู้ให้บริการด้านการขยายตลาด บริษัท Dubai Port World ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์การขนส่งสินค้า การดำเนินงานท่าเรือ การขนส่งสินค้าทางทะเล และเขตการค้าเสรี Standard Chartered ธนาคารชั้นนำระดับสากลและมีเครือข่ายทั่วโลก Telenor บริษัทโทรคมนาคมชั้นนำระดับโลก มีลูกค้าประมาณ 175 ล้านคน ใน 8 ประเทศทั่วภูมิภาคนอร์ดิกและในเอเชีย Coca Cola หนึ่งในบริษัทเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นเจ้าของหรือมีใบอนุญาตยี่ห้อเครื่องดื่มมากกว่า 200 ยี่ห้อ เนสท์เล่ บริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำระดับโลก Grab ผู้ให้บริการจัดส่ง การเดินทาง พัสดุ การเงิน การบริหารจัดการธุรกิจและอื่นๆผ่านแอปพลิเคชัน และ Robert Bosch บริษัทเทคโนโลยีด้านการขับเคลื่อนชั้นนำของโลก เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค เทคโนโลยีพลังงานและอาคาร

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

มั่นใจแลนด์บริดจ์เกิดได้แน่

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ที่ร่วมคณะไปกับนายกฯด้วยกล่าวถึงโครงการแลนด์บริดจ์ว่า ยืนยันได้รับการตอบรับจากนักลงทุน นายกฯให้ความสำคัญนำเสนอต่อเนื่องตั้งแต่การประชุมเอเปก ไปจนถึงการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นและจีน การประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัม ที่เมืองดาวอส ก็ได้รับการตอบรับจากหลายประเทศ ส่วนที่ฝ่ายค้านยกประเด็นมาโจมตีว่า รัฐบาลนำเสนอรายงานแลนด์บริดจ์ฉบับไม่สมบูรณ์กับนักลงทุนต่างชาตินั้น โครงการดังกล่าวการลงทุนส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากภาคเอกชน เชื่อว่าภาคเอกชนเมื่อจะลงทุนใดๆต้องศึกษาข้อมูลรอบด้าน ในครั้งนี้มีการตอบรับจากบริษัทใหญ่ของดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เชื่อว่าโครงการจะเกิดขึ้นได้แน่นอน

ต่อคิวไปเชียงใหม่-ครม.สัญจรระนอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายเศรษฐาเสร็จสิ้นการประชุม WEF แล้ว ทันทีที่กลับถึงไทยช่วงเย็นวันที่ 19 ม.ค. นายกฯจะเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ในเวลา 21.00 น. ไปลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.เชียงใหม่ต่อทันที ถือเป็นครั้งที่ 2 ในช่วงเดือน ม.ค. และวันที่ 20 ม.ค. นายกฯจะเยี่ยมชมโครงการศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พูดคุยการส่งเสริมการเกษตรสมัยใหม่และการใช้เทคโนโลยีในการเพาะปลูก ที่ อ.หางดง จากนั้นเยี่ยมชมตลาดจริงใจ อ.เมือง พบปะพูดคุยกับเกษตรกรการซื้อขายผลิตภัณฑ์ชุมชน ช่วงบ่ายเยี่ยมชมสินค้าและผลิตภัณฑ์โครงการตามพระราชดำริ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่กวงอุดมธารา อ.ดอยสะเก็ด และวันที่ 21 ม.ค. เดินทางกลับ กทม.โดยครั้งนี้นายกฯได้เชิญบรรดานักธุรกิจเกือบทุกสาขาร่วมคณะด้วย เพื่อต่อยอดและขยายโอกาสเปิดตลาดให้เกษตรกร จากนั้นวันที่ 22-23 ม.ค. นายกฯมีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการและประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 2 ที่ จ.ระนอง

“สมศักดิ์” สุดทนให้ฝ่าย ก.ม.ฟ้อง “พี่ศรี”

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นหนังสือถึง กมธ.กิจการศาลฯให้ตรวจสอบการทุจริตโครงการเช่ากำไลอีเอ็มของกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม สมัยเป็น รมว.ยุติธรรมว่า ทราบเรื่องแล้วนายศรีสุวรรณเป็นนักร้องเรียนที่มีผลงาน แต่ประเด็นนี้คงได้รับข้อมูลมาไม่ครบ กล่าวหาว่าตนปล่อยปละละเลยให้กรรมการทีโออาร์และกรรมการจัดซื้อทุจริตกันตั้งแต่ต้นน้ำ ขอยืนยันไม่ใช่ข้อเท็จจริง การเช่ากำไลอีเอ็มเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด ไม่มีการวิ่งเต้น เพราะกรมคุมประพฤติเข้าชี้แจง กมธ.ติดตามงบฯเรียบร้อยแล้ว รัฐมนตรีไม่สามารถล็อกสเปกช่วยใครได้ เพราะสเปกถูกกำหนดโดยกรรมการและนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ การทำงานของอุปกรณ์ที่กล่าวอ้างว่าทำงานผิดพลาดหลายครั้ง จริงๆแล้วอุปกรณ์ปกติ แต่การทำงานมีการแจ้งเตือนจำนวนมาก และเครื่องยังต้องส่งสัญญาณเพื่อแจ้งเตือนตลอด 24 ชั่วโมง หากตรวจพบการชำรุดเสียหาย เจ้าหน้าที่จะเร่งแจ้งไปยังบริษัทนำเครื่องใหม่มาเปลี่ยนให้ทันที มาร้องอีกครั้งทั้งที่ชี้แจงไปหมดแล้วทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งข้อสังเกตว่ามีอะไรแอบแฝงหรือไม่ อุปกรณ์คล้ายของศาล แต่มีพุ่งเป้าร้องหน่วยงานเดียว ข้อกล่าวหาเลื่อนลอย เน้นใช้วาทกรรมเพื่อให้ดูน่าสนใจ ข้อเท็จจริงยืนยันว่าเป็นไปตามข้อกฎหมายทั้งหมด จากนี้ต้องขอใช้สิทธิตามกฎหมาย มอบให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการต่อไป

“อ้วน” รอ สปน.สรุปรายงานประชามติ

ที่โรงแรมรามา การ์เด้นส์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญให้สัมภาษณ์ถึงการนำผลการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 16 ม.ค. หรือไม่ว่า อยู่ที่สำนักปลัดสำนักนายกฯกำลังร่างข้อสรุปอยู่ ได้แจ้งให้นำข้อเห็นต่างใส่เพิ่มไปด้วย เพราะ ครม.จะได้พิจารณาอย่างทั่วถึง เพื่อให้เกิดร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ยกเว้น หมวด 1 และ 2 แต่ยังมีความเห็นต่างที่ต้องการให้แก้ไขทั้งฉบับ แต่เสียงส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วย จะนำเข้าไปเพื่อให้ ครม.พิจารณา เมื่อถามย้ำว่าจะนำข้อเสนอประชามติเข้าสู่ที่ประชุม ครม. วันที่ 16 ม.ค.หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า สำนักปลัดสำนักนายกฯยังไม่ได้ส่งเรื่องมา ใจจริงอยากนำเข้า ครม.เลย นั่งเป็นประธานการประชุม แต่ต้องรอตามขั้นตอน

โฉมใหม่ กห.มี ขรก.พลเรือน

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย มีการประชุมสภากลาโหมสัญจรครั้งแรก นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม มี ผบ.เหล่าทัพเข้าร่วมประชุม โดยนายสุทินให้สัมภาษณ์หลังประชุมว่า ที่ประชุมหารือเรื่องระเบียบ การกำหนดตำแหน่ง คุณสมบัติตำแหน่งข้าราชการพลเรือน กระทรวงกลาโหม ต่อไปกระทรวงกลาโหมจะมีข้าราชการหลายตำแหน่งที่ไม่มียศ อยู่ในระเบียบแท่งเดียวกับทหาร เป็นข้าราชการพลเรือน จะเริ่มต้นที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ส่วนเหล่าทัพอื่นอยู่ระหว่างเตรียมการ ข้าราชการเหล่านี้ ต้นทุนผลิตต่ำกว่าข้าราชการทหาร ทำให้ประหยัดงบประมาณ ส่วนสวัสดิการใกล้เคียงกับทหารที่มียศ เชื่อว่าปีงบประมาณ 2568 จะเริ่มเห็นตัวเลขงบฯด้านกำลังพล เช่น เงินเดือนสวัสดิการลดลง

เตรียมโยน ครม.ชี้ขาดเรือดำน้ำ

นายสุทินกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเรือดำน้ำ หลังอัยการสูงสุดส่งคำตอบมาให้กองทัพเรือว่า ได้อ่านข้อมูลแล้วจะหารือในเร็วๆนี้ จะเชิญผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกองทัพเรือมาหารือฝ่ายนโยบาย ฝ่ายกฎหมายเพื่อหาข้อสรุป เท่าที่อ่านดูสุดท้ายต้องจบที่ ครม. ขณะนี้ ผบ.ทร.ไปราชการต่างประเทศ กลับวันที่ 16 ม.ค. จะรีบหารืออยากให้จบเร็วสุด แต่หากจบเร็วแล้วเสียหายก็จำเป็นต้องใช้เวลา ส่วนจุดยืนรัฐบาลจะเปลี่ยนเป็นเรือฟริเกตหรือเดินหน้าเรือดำน้ำ แต่ติดเครื่องยนต์จีนแทนนั้นยังไปไม่ถึงขั้นนั้น แต่ยึด 3 หลักคือ 1.ความต้องการกองทัพเรือ 2.ผลประโยชน์ประเทศไม่เสียหาย 3.ถ้าไม่จำเป็น ไม่อยากให้กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

สุทิน คลังแสง

จีบ มท.-กห.จัดตีกอล์ฟประเพณี

นายสุทินกล่าวอีกว่า ส่วนกรณี ผบ.เหล่าทัพออกรอบเล่นกอล์ฟกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ทำงานเหนื่อยๆก็ชวนกันตีกอล์ฟ สนุกมาก ต้นคิดมาจากตนหารือกับนายอนุทินคิดการใหญ่ เลยมาชวนทีมคณะทำงานกระทรวงกลาโหมและ ผบ.เหล่าทัพ ส่วนจะเป็นกอล์ฟประเพณีกระทรวงมหาดไทยและกลาโหมหรือไม่ น่าคิดอยู่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการตีกอล์ฟกับนายสุทินและผู้นำเหล่าทัพว่า “ตกทรายด้วยกันทั้งคู่ ก่อนถ่ายรูปทำงานมาก ตีกอล์ฟไม่เป็นแล้ว”

“จิตภัสร์” ปรับลุค ปชป.ประกวดแบบเสื้อ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร รองหัวหน้าพรรค ปชป.แถลงข่าวการจัดประกวดออกแบบ เสื้อแจ็คเก็ต เสื้อกั๊ก และเสื้อโปโลรูปแบบใหม่ให้พรรค ปชป. เพื่อชิงเงินรางวัลกว่า 150,000 บาท น.ส.จิตภัสร์กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป.ในการสื่อสารให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนา ฟื้นฟูและกลับมาสนับสนุนพรรคอีกครั้ง เริ่มต้นจากกิจกรรมเปิดโอกาสให้นักเรียนนักศึกษาและบุคคลทั่วไปส่งผลงานการออกแบบเครื่องแต่งกายของพรรค ปชป. อาทิ แจ็กเก็ต เสื้อกั๊ก เสื้อโปโล เพื่อเข้าร่วมประกวดในกิจกรรม “ประชาธิปัตย์ FASHION CONTEST” ชิงเงินรางวัลกว่า 150,000 บาท ผลงานการออกแบบที่ส่งเข้าประกวด ต้องอยู่ภายใต้แนวคิดสร้างความโดดเด่น ความแตกต่าง เข้าถึงง่าย เหมาะสมแก่คนทุกวัย ทันสมัย ประยุกต์ใช้ตามสภาพภูมิอากาศและความเหมาะสม ผลงานที่ผ่านการคัดเลือกจะนำไปผลิตจริง ใช้สวมใส่ทำกิจกรรมของพรรค ไม่ว่าจะลงพื้นที่หาเสียงและอื่นๆ สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ผู้สนใจส่งผลงานเข้าประกวด ติดตามรายละเอียด กติกา และส่งผลงานได้ที่ democrat.or.th/fashioncontest ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.ถึงวันที่ 15 ก.พ.

สว.เห็นชอบ 5 ตุลาการศาล ปค.

ช่วงบ่ายที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภาที่มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด จำนวน 5 คน 1.นายบุญเสริม นาคสาร 2.นางพรทิภา ไสวสุวรรณวงศ์ 3.นายวรวิทย์ สุขบุญ 4.นายสมฤทธิ์ ไชยวงค์ และ 5.นายเชิดชู รักตะบุตร หลังจากที่คณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) ได้พิจารณามาแล้วส่งให้คณะ กมธ. สามัญ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม วุฒิสภาดำเนินการจัดทำรายงานเสนอต่อที่ประชุมวุฒิสภา โดยที่ประชุมใช้วิธีประชุมลับและลงคะแนนเป็นการลับ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงหลังนับคะแนนเสร็จสิ้น นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานที่ประชุม ได้แจ้งผลว่า ที่ประชุมให้ความเห็นชอบผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด ดังนี้ คือ 1.นางพรทิภา เห็นชอบ 182 คะแนน ไม่เห็นชอบ 4 คะแนน ไม่ออกเสียง 3 คะแนน 2.นายวรวิทย์ 158 คะแนน ไม่เห็นชอบ 22 คะแนน ไม่ออกเสียง 9 คะแนน 3.นายเชิดชู เห็นชอบ 173 คะแนน ไม่เห็นชอบ 11 คะแนน ไม่ออกเสียง 5 คะแนน 4.นายบุญเสริม เห็นชอบ 169 คะแนน ไม่เห็นชอบ 14 คะแนน ไม่ออกเสียง 6 คะแนน และ 5.นายสมฤทธิ์ เห็นชอบ 172 คะแนน ไม่เห็นชอบ 10 คะแนน ไม่ออกเสียง 7 คะแนน ถือว่าได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด

นัดตัดสินคดีนักร้องดัง 26 มี.ค.

ที่ศาลอาญา ศาลนัดสืบพยานและฟังคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญในคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้องนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธ์ หรือ “แอมมี่ เดอะ บอตทอมบลูส์” กับนายธนพัฒน์ กาเพ็ง ฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ ต่อมาจำเลยยื่นต่อศาลอาญาให้ส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ขัดต่อการใช้สิทธิเสรีภาพหรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า การกระทำดังกล่าวใช้สิทธิเกินขอบเขต ศาลอาญาจึงมีอำนาจพิจารณาคดีต่อไป นัดฟังคําพิพากษาวันที่ 26 มี.ค.

จำคุก 1 เดือน “อานนท์-ไมค์-ไผ่”

ส่วนที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่อัยการยื่นฟ้องนายอานนท์ นำภา “ไมค์” นายภาณุพงศ์ จาดนอก “ไผ่” นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา และ “ครูใหญ่” นายอรรถพล บัวพัฒน์ เป็นจำเลยที่ 1-4 กรณีชุมนุมวันที่ 18 พ.ย.63 ในความผิด ฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้สั่งการปาสีใส่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศาลเห็นว่าการกระทำจำเลยทั้ง 4 ทำผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยเป็นผู้สั่งการ มั่วสุมให้เกิดความวุ่นวาย จำคุกจำเลยที่ 1, 2 และ 4 คนละ 1 เดือนปรับ 20,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 4 เคยต้องโทษจำคุกมาก่อนให้บวกโทษ 1 ใน 3 จำคุก 1 เดือนเศษและปรับ 26,000 บาท แต่เห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาบุกเข้าไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นการชุมนุมปราศจากอาวุธ มีการปาสี 20 นาที ก็ยุติการชุมนุม เป็นการแสดงออกทางสัญลักษณ์ ให้รอการลงโทษจำเลยที่ 1, 2 และ 4 ส่วนจำเลยที่ 3 ไม่อาจรอการลงโทษได้ ให้ยกโทษจำคุกแทน

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...