ดัชนี “ความเชื่อมั่นครูไทย” จุดเด่น “มนุษยสัมพันธ์ดี” จุดด้อย “หนี้สิน”

สวนดุสิตโพล ชี้ ดัชนี “ความเชื่อมั่นครูไทย” ได้ 7.90 เพิ่มจาก ปี 65 ตัวชี้วัดคะแนนสูงสุด “มนุษยสัมพันธ์ดี เข้ากับผู้อื่นได้” ตัวชี้วัดต่ำสุด ประหยัด ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่เป็นหนี้สิน

วันที่ 15 ม.ค. 2567 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จัดทำดัชนี “ความเชื่อมั่นครูไทย” เป็นประจำทุกปี โดยปีนี้เป็นปีที่ 19 สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 3,676 คน ระหว่างวันที่ 16-26 ธันวาคม 2566 พบว่าประชาชนให้คะแนนความเชื่อมั่น “ดัชนีครูไทย” ปี 2566 เต็ม 10 ได้ 7.90 คะแนน (เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 65 ได้ 7.52 คะแนน)

โดยตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุด คือ มนุษยสัมพันธ์ดี เข้ากับผู้อื่นได้ เฉลี่ย 8.20 คะแนน รองลงมา คือ บุคลิกภาพดี แต่งกายเหมาะสมกับอาชีพ เฉลี่ย 8.19 คะแนน ส่วนตัวชี้วัดที่ได้คะแนนต่ำสุด คือ การประหยัด ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่เป็นหนี้สิน เฉลี่ย 6.78 คะแนน (ได้คะแนนต่ำสุด 4 ปีติดต่อกัน)

จุดเด่นของครูไทยในปี 2566 คือ ใช้เทคโนโลยีในการสอน ร้อยละ 58.29 จุดด้อยของครูไทย คือ มีปัญหาหนี้สิน ร้อยละ 66.56 จากนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” กลุ่มตัวอย่างมองว่ามีความสำคัญต่อครูและนักเรียนในแง่ของการทำให้บรรยากาศการเรียนเต็มไปด้วยความสุข สนุกสนาน ร้อยละ 69.61 ทั้งนี้ ตลอดปี 2566 ครูเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในด้านการทำงาน โดยสามารถทำงานได้หลายอย่างมากขึ้น ร้อยละ 64.22

จากผลสำรวจดัชนีครูไทย ปี 2566 จะเห็นได้ว่าครูไทยมีความโดดเด่นด้านมนุษยสัมพันธ์และบุคลิกภาพ ส่วนด้านที่ได้คะแนนไม่มากนัก คือ ปัญหาหนี้สิน การควบคุมอารมณ์ การคิดตัดสินใจ กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ทางกระทรวงศึกษาธิการจึงมีนโยบายลดภาระครู แก้ปัญหาหนี้สิน ปรับการประเมินให้ครูมีเวลาพัฒนาตนเองและห้องเรียนมากขึ้น เพื่อให้เกิด “เรียนดี มีความสุข” แต่สุดท้ายแล้วจะเป็นไปตามนโยบายที่ให้ไว้หรือไม่ ก็เป็นโจทย์ที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับครูไทยในปี 2567

...

ดัชนี “ความเชื่อมั่นครูไทย” เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากประชาชนหรือผู้ปกครองมีโอกาสเข้าถึงการจัดการเรียนการสอนของครูผ่านห้องเรียนออนไลน์พร้อมกับนักเรียน จึงได้สัมผัสถึงความเมตตาและความโอบอ้อมอารีของครูที่มีต่อศิษย์ รวมถึงความอดทนและทุ่มเทในการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ ตลอดจนความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ที่ทันสมัยและทันต่อเหตุการณ์

จากมุมมองดังกล่าวจะเห็นได้ว่าหน้าที่หลักของครู คือ การสร้างองค์ความรู้และหล่อหลอมให้นักเรียนเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม ผ่านการจัดประสบการณ์อันเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของนักเรียน แต่สถานการณ์การปฏิบัติงานในสถานศึกษาปัจจุบัน ครูมีภาระงานอื่นนอกเหนือจากการพัฒนาการเรียนการสอนและการพัฒนาตนเองมากเกินไป กอปรกับการมีงบประมาณสนับสุนนที่ไม่เพียงพอ จนทำให้ครูเกิดภาวะเครียดจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจ ฐานะ จึงส่งผลกระทบต่อคุณภาพการศึกษาไทยอย่างมีนัยสำคัญ เพราะ “ครู” เป็นหัวใจของระบบการศึกษา

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘อีลอน มัสก์’ หนุน ‘ทรัมป์’ พนักงานบริจาคให้‘แฮร์ริส’

ข้อมูลจากโอเพนซีเคร็ตส์ องค์กรไม่หวังผลกำไรไม่แบ่งฝักฝ่าย ผู้ติดตามข้อมูลการบริจาคเงินหาเสียงและการล...

สหภาพแรงงาน Teamsters ไม่หนุน'ทรัมป์-แฮร์ริส'

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สหภาพแรงงานทีมสเตอร์สมีสมาชิกกว่า 1.3 ล้านคน เป็นตัวแทนของกลุ่มคนขับรถบร...

ครึ่งแรกปี67จีนครองแชมป์ซื้อคอนโดเมียนมาซิวเบอร์สองแซงรัสเซีย2ปีซ้อน

วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป...

อสังหาฯ แบกสต็อกอ่วม 1.57 ล้านล้าน เอ็นพีแอลพุ่ง ‘ทุกตลาดติดลบหนัก’

นายกสมาคมอาหารชุด หวังเร่งแก้นอมินีต่างชาติในตลาดบ้านมูลค่า 1 ล้านล้านบาท จัดเก็บภาษี หวังแบงก์ชาติล...