เปิดประวัติและภารกิจท้าทายว่าที่ประธานาธิบดี 'ไล่ ชิงเต๋อ' แห่งไต้หวัน

ไล่ ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดีไต้หวัน ตัวแทนพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า(ดีพีพี) พรรครัฐบาล ซึ่งคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันเมื่อวันเสาร์(13 ม.ค.) และเตรียมขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศในเดือนพ.ค.นี้  

หลังปธน.คนปัจจุบันหมดวาระดำรงตำแหน่ง มีภารกิจเร่งด่วนและท้าทายที่ต้องทำหลายด้านทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องประชาชน ไปจนถึงแรงกดดันและการเผชิญหน้ากับจีนแผ่นดินใหญ่ 

ชัยชนะจากการเลือกตั้งครั้งนี้ ทำให้เขาเป็นประธานาธิบดีคนแรกของไต้หวัน ที่กวาดคะแนนเสียงจากการเลือกตั้งเกิน 5 ล้านเสียง ด้วยคะแนนโหวต 40.2% ขณะที่คู่แข่ง คือ โหว โหย่วอี๋ จากพรรคชาตินิยมไต้หวัน หรือ พรรคก๊กมินตั๋ง (เคเอ็มที) ที่มาเป็นอันดับ 2 ได้คะแนนโหวต 33.4% และเคอ เหวินเจ๋อ จากพรรคประชาชนไต้หวัน (ทีพีพี) ได้คะแนน 26.4%

การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีผลต่ออนาคตความสัมพันธ์ในอีก 4 ปีข้างหน้าของไต้หวันที่ปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย กับจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งความสัมพันธ์ที่ว่านี้ รวมถึงประเด็นความมั่นคงและสันติภาพในบริเวณ ช่องแคบไต้หวัน

ส่วนความท้าทาย ที่เป็นประเด็นภายในประเทศที่ประธานาธิบดีคนใหม่จะเร่งแก้ไขเพราะสำคัญไม่แพ้กันคือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจไต้หวันที่กำลังซบเซา และราคาที่อยู่อาศัยที่แพงขึ้นอย่างมากในไต้หวัน

ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวัน กล่าวภายหลังชนะเลือกตั้งว่า เขามุ่งมั่นที่จะรักษาสันติภาพทั่วช่องแคบไต้หวัน และจะยังคงส่งเสริมการป้องกันเกาะไต้หวันต่อไป ซึ่งคำประกาศนี้ถือเป็นคำประกาศที่ท้าทายรัฐบาลปักกิ่งอย่างมาก 

ประวัติ ไล่ ชิงเต๋อ เกิดเมื่อวันที่ 6 ต.ค.ปี2502 ในเขตว่านหลี่ เมืองนิวไทเป เติบโตมาในครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยว เนื่องจากบิดาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เหมืองแร่ขณะเขามีอายุแค่ 2 ขวบ 

เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟู จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน จากนั้น ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติเฉิงกง สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์

ก่อนที่จะเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สาขาสาธารณสุขศาสตร์ ทำให้เขากลายเป็นเจ้าหน้าที่การแพทย์เพียงไม่กี่คนในไต้หวัน ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู การดูแลทางคลินิก และความเชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข

การเบนเข็มทิศชีวิตสู่ เส้นทางการเมือง เกิดขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไต้หวันยกเลิกการใช้กฎอัยการศึกและเดินหน้าเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย ในช่วงเวลานั้น ไล่ ชิงเต๋อ หวังเพียงว่าการมาเป็นนักการเมืองจะทำให้สามารถมีบทบาทในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

ไล่ ชิงเต๋อ ซึ่งเริ่มเส้นทางการเมืองด้วยการสังกัดพรรคดีพีพี  ชนะการเลือกตั้งได้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ ตั้งแต่ปี 2542 ถึง 2553 เป็นนายกเทศมนตรีเมืองไถหนาน ตั้งแต่ปี 2553 ถึง 2560  เป็นนายกรัฐมนตรีของไต้หวัน ตั้งแต่ปี 2560 ถึง 2563

ตำแหน่งล่าสุดของเขา คือเป็นรองประธานาธิบดีภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน โดยดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่เดือนพ.ค. ปี 2563
 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...