ปชป. ยกทัพหาเสียงเลือกตั้งซ่อมระยอง “สาธิต” ชี้ พรรคต้องนิ่ง-เดินหน้าให้เร็ว

พรรคประชาธิปัตย์ ยกทัพช่วย “หมอบัญญัติ” หาเสียงเลือกตั้งซ่อมระยอง เขต 3 การันตีด้วยการเป็นผู้แทน 3 สมัย ซ้ำ ไม่มีประวัติด่างพร้อย ย้ำพรรคต้องนิ่งเพื่อเดินหน้าต่อให้เร็ว ส่วนกับก้าวไกล ต่างคนต่างทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

วันที่ 27 สิงหาคม 2566 นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่ภาคกลาง และ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช พร้อมด้วย นายสมบัติ ยะสินธุ์ สส.แม่ฮ่องสอน นายศุภชัย ศรีหล้า อดีต สส.อุบลราชธานี นายประกอบ รัตนพันธ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต สส.กทม. และ นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค มาช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมร่วมกับ นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ผู้สมัคร สส.ระยอง เขตเลือกตั้งที่ 3 พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ตลาดสามย่าน และแหลมแม่พิมพ์ อ.แกลง จ.ระยอง

คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า วันนี้เป็นการแสดงพลังรวมใจกันของพรรคประชาธิปัตย์จากทุกภาค มาช่วยกันขอคะแนนชาวระยองด้วยความมั่นใจเกินร้อย เพราะไปเดินลงพื้นที่ไหนก็จะมีพี่น้องประชาชนเข้ามาทักทายก่อนตลอด และให้การต้อนรับเป็นอย่างดี

ทางด้าน นายสาธิต ระบุว่า การเลือกตั้งซ่อมแตกต่างจากการเลือกตั้งใหญ่ที่จบไปแล้ว ครั้งนี้เป็นการเลือกคน เราวัดคุณสมบัติกันตัวต่อตัว นพ.บัญญัติ ไม่มีคุณสมบัติด่างพร้อย ทำงานเป็นผู้แทนราษฎรมาแล้ว 3 สมัย มีผลงานชัดเจน ดังนั้น เราจึงมีแคมเปญเน้นเลือกคนบ้านเราที่มีคุณภาพ มั่นใจว่า นพ.บัญญัติ จะทำหน้าที่ให้ชาวแกลงและเขาชะเมาได้อย่างดี

...

ส่วนคำถามถึงการทำงานร่วมกันกับพรรคก้าวไกล นายสาธิต เผยว่า เราจะเป็นฝ่ายค้านที่ต่างคนต่างทำหน้าที่ และมีบางเรื่องที่ทำงานร่วมกันได้ การที่พรรคก้าวไกลมีคะแนนเพิ่ม 1 เสียง อาจจะไม่ต่างอะไรมาก เพราะพรรคมีกว่า 150 เสียงแล้ว แต่สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ที่มีแค่ 25 เสียง ถ้าได้เพิ่มมา 1 เสียง ถือว่าสำคัญและมีค่ามาก โดยเฉพาะคนในพื้นที่ ที่จะได้คนทำงานจริงมารับใช้

ขณะที่ภาพลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์จะมีผลต่อการหาเสียงหรือไม่ นายสาธิต ตอบว่า ภาพลักษณ์พรรคย่อมมีผลต่อคนในพื้นที่อยู่แล้ว แต่วันนี้บัตรใบเดียว เลือก สส.คนเดียว ต้องเป็นผู้แทนของเขตพื้นที่ที่เข้าถึง เข้าใจทุกปัญหา เช่น เรื่องน้ำท่วม ปัญหาเรื่องช้างป่า การเกษตร หรือสาธารณสุข ไม่มีใครรู้ดีเท่าคนในพื้นที่อย่าง นพ.บัญญัติ

นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์

“การเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค ในพรรคต้องพูดคุยกัน และจำเป็นที่ต้องให้พรรคปรับตัวให้นิ่ง เพื่อที่จะเดินหน้าต่อให้เร็วที่สุด เราควรจะหารือร่วมกันว่าจะเห็นต่างอย่างไร เราต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง ผมเชื่อว่าในทางการเมืองไม่มีอะไรที่คุยกันไม่ได้”

นายสาธิต ยังระบุในช่วงท้ายถึงเรื่องที่ยื่นหนังสือร้องเรียนไปถึงหัวหน้าพรรคให้ตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ สส. 16 คน ที่โหวตสวนมติพรรค เน้นไปที่ สส.ท่านหนึ่ง ที่มีพฤติกรรมเสื่อมเสียและเป็นปฏิปักษ์กับกรรมการบริหารพรรค แต่อีกหลายท่านก็เป็นแค่การโหวตตามเอกสิทธิ์ ขึ้นอยู่กับกรรมการที่ตั้งมาตรวจสอบ พร้อมย้ำว่า เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองก็ต้องคุยกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อถามต่อว่า จะจบสวยหรือไม่ นายสาธิต ตอบว่า “ไม่ทราบ ต้องคุยกัน”.

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...