“ชัยธวัช ตุลาธน” นำพรรคร่วมฝ่ายค้านแถลงร่วมกัน ยันมีมติไม่รับหลักการ พ.ร.บ.งบฯ 67 ยันฝ่ายค้านไม่มีเสียงแตก รับอภิปรายไม่ดุเดือด เพราะเป็นเรื่องงบฯ ต้องเน้นข้อมูล ด้าน ปชป.ยัน 25 เสียงไม่มีแตกแถว อาจขาดไป 1 เสียง เหตุ สส.ป่วย “ชัยธวัช” แซวทันที ป่วยนอนอยู่ชั้นไหน
วันที่ 5 มกราคม 2567 ที่อาคารรัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวสรุปภาพรวมการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 พร้อมด้วย สส.จากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์, พรรคไทยสร้างไทย, พรรคเป็นธรรม, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และพรรคใหม่ ที่จะมีการลงคะแนนในช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. วันนี้
โดยนายชัยธวัช กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ประชุมหารือกันถึงความเห็นร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฉบับนี้ เพราะฝ่ายค้านเห็นว่าไม่ได้สะท้อนว่ารัฐบาลกำลังแก้ปัญหาสำคัญที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติเศรษฐกิจที่ทางรัฐบาลพร่ำพูด หรือจะเป็นวิกฤติที่ทุกคนยอมรับว่าสังคมไทยกำลังเผชิญอยู่ อย่างวิกฤติสิ่งแวดล้อม PM 2.5 หรือปัญหามลพิษที่รั่วไหล, วิกฤติเด็กเกิดน้อย และวิกฤติผู้สูงวัยเพิ่มขึ้น เป็นต้น
พร้อมย้ำว่า รัฐบาลทำร่างงบประมาณที่ไม่ได้แตกต่างจากรัฐบาลที่ผ่านมาอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนอกจากจัดตั้งงบประมาณไม่ได้สัดส่วนกับความรุนแรงของปัญหาแล้ว ยังพบการสอดไส้งบไม่ตรงปก ไม่ตรงแผน โดยงบประมาณที่ควรจะบรรจุไว้กลับไม่มี และงบฯ ที่ควรจะมีกลับมี และยังมีการจัดสรรงบฯ ไว้ไม่เพียงพอในยามที่จำเป็น
ขณะเดียวกันยังประมาณการรายได้เกินจริง มุ่งแต่จะใช้กลไกนอกงบประมาณ โดยไม่คำนึงถึงภาระทางการคลังในอนาคต
...
นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ตลอด 3 วันที่ผ่านมาในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณผู้แทนราษฎร พรรคร่วมฝ่ายค้านได้อภิปรายวิพากษ์วิจารณ์ ตั้งคำถาม และข้อเสนอแนะกับรัฐบาลมากมาย แต่สิ่งที่คณะรัฐมนตรีชี้แจงหลายครั้งกลับเป็นคำตอบที่ไม่ตรงกับคำถาม บางคำถามก็ไม่มีคำตอบจากรัฐมนตรี บางคำชี้แจงก็แสดงให้เห็นถึงการขาดวุฒิภาวะ หรือแม้กระทั่งให้ข้อมูลที่บิดเบือน สุดท้ายก็ตอบคำถามที่ชงกันเองในพรรคเดียวกัน
ย้ำว่ารัฐมนตรีบางกระทรวงไม่แม้แต่จะให้เกียรติเงินภาษีของพี่น้องประชาชนด้วยการลุกขึ้นมาชี้แจงให้คำตอบแก่สภาผู้แทนราษฎรด้วยซ้ำ ด้วยเหตุดังกล่าวพรรคร่วมฝ่ายค้านจึงมีมติว่าจะลงมติไม่เห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายฉบับนี้
จากนั้น นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตามร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 นี้สะท้อนให้เห็นว่าไม่สามารถแก้ปัญหาวิกฤติของประเทศชาติได้ เหตุหลักๆ หลากหลายเรื่อง เช่น เอลนีโญ มีบ้างหรือไม่ที่จะดูแลใส่ใจสถานการณ์ระหว่างประเทศของโลก งบประมาณฝนหลวงมีเพียง 300 กว่าล้านบาท แล้วจะแก้ปัญาหวิกฤติได้อย่างไร นักบริหารต้องมองไกล งบแข่งขันก็เช่นกัน หากยังเป็นแบบนี้ไม่สามารถดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน เพิ่มคุณภาพชีวิต ทั้งภาคเกษตร และภาคอุตสาหกรรมก็ตกต่ำ แรงงานต่างด้าวเข้ามาเยอะ เกือบทุกหย่อมหญ้า
ดังนั้นความยั่งยืนของประชาชนต้องบูรณาการ ยาเสพติดที่มีอยู่ทุกกระทรวงทุกกลุ่ม แต่ไม่สามารถแก้ได้ ดังนั้นไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล ต้องบูรณาการทั้งผู้เสพ และผู้ขาย ให้ชัดเจน เชื่อว่าสื่อมวลชนมองออกว่าวิกฤติของประเทศนี้เกิดจากอะไรบ้าง นักการเมืองก็มองออกว่าสามารถแก้ได้อย่างไร ในฐานะฝ่ายค้านสิ่งใดเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเห็นด้วย และสนับสนุน แต่สิ่งไหนทำแล้วประชาชนไม่มีความสุข หรือชีวิตความเป็นอยู่ไม่ดีขึ้น ก็ไม่สนับสนุน เมื่อวานนี้พรรคประชาธิปัตย์ได้ประชุม สส. และเห็นพ้องว่าไม่สามารถรับหลักการได้ หลายคนได้อภิปรายและฝากได้ที่คณะกรรมาธิการ 72 คนว่า ขอให้ไปแก้ไขและดูแล แต่ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ สส.เข้ามาดูแลได้ยาก ดังนั้นวันนี้ขอขอบคุณพรรคฝ่ายค้านทุกพรรค และสื่อมวลชนเสนอข่าวอย่างเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนฝ่ายค้านก็ช่วยกันอย่างเต็มที่
ด้านนายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ยืนยันอีกครั้งว่า การตัดสินใจของพรรคฝ่ายค้านคือเสียงสะท้อนของประชาชนหลังการเลือกตั้งที่ผ่านมา ครั้งนี้ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงจากการบริหาร 9 ปีที่ผ่านมา โดยจะไม่รับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เพราะยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างตั้งใจจริงของรัฐบาลชุดนี้ ที่นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่จะเปลี่ยนประเทศชาติไปในทางที่ดีขึ้น รวมถึงประสิทธิภาพในการจัดการงบประมาณ
ส่วนจะมีบทลงโทษอย่างไร หากโหวตสวนมติพรรคร่วมฝ่ายค้าน ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ไม่มีบทลงโทษ เพราะว่าแต่ละพรรคมีการพูดคุยหารือกันแล้ว
ส่วนทุกพรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีเอกภาพ ไม่มีการแตกแถวใช่หรือไม่ นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 2 ซึ่งมติของพรรคก็คือไม่รับหลักการ และเมื่อวานก็มีการประชุมอีกครั้งหนึ่ง ยืนยันว่า สส.25 คนของพรรคจะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน แต่ขอเรียนว่าขณะนี้มี สส.ของพรรคป่วยอยู่ 1 คน เพราะอาจจะทำให้เสียงโหวตไม่ครบ 25 เสียง จึงขอแจ้งสื่อมวลชนไว้ก่อน เกรงว่าจะเข้าใจผิด ทำให้ นายชัยธวัช ถึงขั้นแซวว่า ป่วยรักษาตัวอยู่ที่ชั้นไหน
จากนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปกังวลล่วงหน้า เพราะพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกัน พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคแรกที่มีมติออกมา เพราะฉะนั้นเชื่อว่าเป็นเอกภาพแน่นอน
หากมีเสียงแตกในพรรคร่วมฝ่ายค้านจะทำอย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปกังวล เพราะแต่ละพรรคพูดคุยกันแล้ว ยืนยันว่าไม่มีเสียงแตก เพราะอภิปรายกันถึงขนาดนี้แล้ว แต่ก็ต้องขอบอกว่าแนวโน้มร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 คงจะผ่าน เพราะฝ่ายค้านมีเสียงในสภาน้อยกว่าฝ่ายรัฐบาล แต่ขอย้ำว่าเป็นการแสดงออกถึงจุดยืน และท่าทีของฝ่ายค้านว่ามีความคิดเห็นอย่างไรต่อร่าง พ.ร.บ.งบฯ ฉบับนี้ เพราะเราอยากเห็นร่าง พ.ร.บ.มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญจริงๆ ซึ่งก็หวังว่าร่าง พ.ร.บ.แบบนี้จะเป็นฉบับสุดท้าย และกลางปีก็จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 68 อีก หวังว่ารัฐบาลชุดนี้จะไม่มีข้ออ้างใดๆ ทั้งสิ้นที่จะจัดทำร่างงบประมาณออกมาที่ไม่สะท้อนกับเป้าหมายรัฐบาลเช่นนี้อีก
ส่วนเรื่องมองการทำงานร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้านครั้งแรกอย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า เมื่อเช้านี้ได้ประสานงานไปที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า จะมีการนัดหมายประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการ ช่วงกลางสัปดาห์นี้ เพื่อวางแผนงาน และเป้าหมายร่วมกัน เพื่อให้พรรคฝ่ายค้านเป็นเอกภาพ และทำงานตามความคาดหวังของประชาชน
เมื่อถามว่าได้ประเมินภาพรวมการอภิปรายของฝ่ายค้านไว้อย่างไรบ้างนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ก็มีความเห็นหลากหลาย หลายส่วนก็มีคำชื่นชมว่าในการอภิปรายที่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง และเป็นข้อมูลเชิงสร้างสรรค์ มีทั้งข้อวิพากษ์วิจารณ์ และข้อเสนอแนะ แน่นอนว่าหลายคนคงรู้สึกว่าการอภิปรายครั้งนี้ของฝ่ายค้านไม่ได้ดุเดือด ก็ต้องขอบอกว่าเป็นการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ซึ่งต้องเป็นการอภิปรายที่เน้นข้อมูล ไว้รอดูการอภิปรายที่ดุเดือดกว่านี้ในอนาคต.
ภาพ : ศรันย์ พงษ์สวัสดิ์