รีวิว ‘HUAWEI MatePad Air’ พิสูจน์จุดเด่น จริงไหมที่ว่าเบาและแรง?

ใครกำลังมองหาแท็บเล็ตคู่ใจ ที่หวังว่าจะได้ประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ไม่ว่าจะทำงานหรือความบันเทิง HUAWEI MatePad Air ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทุกการใช้งานที่ว่า ด้วยจุดเด่นแบบที่แท็บเล็ตเรือธงควรมี

KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที จะพาทุกคนพิสูจน์ประสิทธิภาพทุกด้านผ่าน รีวิว HUAWEI MatePad Air หลังจากลองใช้งานจริง

บางเบา สบายมือ

HUAWEI บอกกับเราว่า "HUAWEI MatePad Air" เป็นแท็บเล็ตน้ำหนักเบาประสิทธิภาพสูง มีการออกแบบที่หรูหรา ได้รับการปรับแต่งมาสำหรับทั้งนักธุรกิจมืออาชีพและผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการผลิตภัณฑ์น้ำหนักเบาและเหนือกว่า และแท็บเล็ตรุ่นนี้สืบทอดการออกแบบทางอุตสาหกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่เห็นในผลิตภัณฑ์ HUAWEI MatePad รุ่นก่อนหน้า ด้วยพื้นผิวของ MatePad Air ทำจากวัสดุกระจก ultra-thin glass fibre มีความหนาเพียง 6.4 มม. และน้ำหนัก 508กรัม

ด้วยขนาดและน้ำหนักเท่านี้ทำให้เรารู้สึกได้เลยว่าเป็นแท็บเล็ตที่พกพาสะดวก เมื่อบวกกับดีไซน์ขอบโค้งมนรอบตัวเครื่อง ยิ่งทำให้มิติเครื่องพอเหมาะต่อการจับถือมาก แม้จะใช้มือเดียวถือแท็บเล็ตขนาด 11.5 นิ้ว ทว่ากลับไม่รู้สึกว่าหนักเลย

จอสวยจัด

คุณภาพหน้าจอคืออีกหนึ่งจุดชี้ขาดสำหรับแท็บเล็ตยุคนี้ก็ว่าได้ เพราะท่ามกลางแท็บเล็ตที่มีทั้งราคาถูกราคาแพง ก็มีระดับของคุณภาพที่แตกต่างหลากหลายด้วย สำหรับกลุ่มแท็บเล็ตเรือธง อย่างน้อยๆ ต้องได้สเปกที่คุ้มค่า แต่กับ "HUAWEI MatePad Air" คือให้มากกว่าหลายแบรนด์

"MatePad Air" มีหน้าจอ HUAWEI FullView Display ขนาด 11.5 นิ้ว ที่มีความละเอียด 2800 x 1840 พิกเซล เรียกได้ว่าเป็นมากกว่า 2K ไปแล้ว และมีอัตราส่วนหน้าจอ 3:2 ที่เรียกกันว่าเป็นอัตราส่วนทองคำเพราะได้พื้นที่แสดงผลที่ใหญ่กว่าปกติที่เห็นบนหน้าจอ 16:10 เหมาะสำหรับการทำงานแบบมัลติฟังก์ชัน ซึ่งการแบ่งจอใช้งานหลายหน้าต่างถือว่าแบ่งสัดส่วนได้ค่อนข้างดี ในขณะที่ยังมองได้ชัด เต็มตา

เรื่องต่อมาที่ทำให้ HUAWEI MatePad Air เป็นแท็บเล็ตที่เราชอบมาก คือการที่ให้รีเฟรชเรทหน้าจอสูงสุด 144Hz และเป็นแบบ Adaptive 30Hz – 144HZ ปรับเปลี่ยนอัตโนมัติตามการใช้งาน โดยเป็นรุ่นแรกของหัวเว่ยที่ให้สเปกนี้มาด้วย ทำให้การใช้งานลื่นไหลมากๆ

ส่วนเรื่องสีสันของจอถือว่า HUAWEI ให้ไม่มีกั๊ก ด้วยขอบเขตสีระดับภาพยนตร์ P3 ช่วยให้การรับชมคอนเทนต์มีรายละเอียดชัดเจนสมจริง

เร็ว แรง แบตอึด

ด้วยความที่ "HUAWEI MatePad Air" ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 888 ระดับ 5 นาโนเมตร จึงมั่นใจได้เรื่องความแรงและประสิทธิภาพในการใช้งาน แน่นอนว่าการทำงานพื้นฐานทั่วไปสบายมากๆ ส่วนการใช้แท็บเล็ตเครื่องนี้เพื่อความบันเทิง ดูคอนเทนต์, เล่นโซเชียลมีเดีย, เข้าเว็บไซต์ ฯลฯ ทำได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด

ส่วนการเล่นเกม เกือบทุกเกมเปิดค่าต่างๆได้ในระดับสูงสุด โดยที่ยังเล่นได้ราบรื่นดี นี่คือข้อพิสูจน์หนึ่งว่า MatePad Air เป็นแท็บเล็ตเรือธงที่สมกับคำว่าเรือธงจริงๆ

ด้านการรับสัญญาณและการเชื่อมต่อ HUAWEI MatePad Air มีเสาอากาศแบบ base station-level รับสัญญาณได้แรง ประกอบกับแท็บเล็ตเครื่องนี้รองรับ Wi-Fi 6 จึงได้ความเร็วสูงสุดถึง 3.6 Gbps จึงเข้าอินเทอร์เน็ตได้เร็วสุดๆ ไปเลย

ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมได้อย่างไร้รอยต่อ

ถ้าคิดว่าแท็บเล็ตมีข้อจำกัดหรือสู้แล็ปท็อปไม่ได้ ต้องบอกเลยว่า "HUAWEI MatePad Air" เสมือนแล็ปท็อปเครื่องเล็กน้ำหนักเบาที่พกพาไปได้ทุกที่เลยทีเดียว ทั้งยังเหนือชั้นกว่าด้วยการทำงานได้อย่างราบรื่นกับอุปกรณ์เสริม อาทิ HUAWEI M-Pencil (รุ่นที่ 2) ซึ่งลดความหน่วงลงเกือบ 0 สำหรับจดโน้ตและวาดเขียนบนแอปพลิเคชันอย่างสมูธ เสมือนการเขียนด้วยดินสอจริง

รวมถึง HUAWEI Smart Keyboard ที่มีปุ่มลัดมากกว่า 40 ปุ่ม ถอดออกได้ง่าย ทำให้เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่หลากหลายตั้งแต่การทำงานและความคิดสร้างสรรค์ไปจนถึงความบันเทิง

ยกระดับการใช้งานด้วย HUAWEI Notes

นอกจากตัวแท็บเล็ต "HUAWEI MatePad Air" เองที่อัปเกรดมาอย่างดี แอปพลิเคชัน HUAWEI Notes ก็เป็นหนึ่งในแอปที่จะมาช่วยยกระดับการใช้งานแท็บเล็ตเครื่องนี้ให้ยอดเยี่ยมขึ้นอีก ซึ่ง HUAWEI Notes เป็นแอปจดบันทึกระดับมืออาชีพ มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ได้รับการพัฒนามากมาย ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับ HUAWEI M-Pencil (รุ่นที่ 2) ในการเขียนข้อความ, ตัดภาพเฉพาะส่วน, เพิ่มสีสันของโน้ตได้อย่างไร้ขีดจำกัดด้วยความสามารถในการดูดสีได้จากทั้งภาพถ่ายจริงและดูดสีข้ามแอปพลิเคชันได้ด้วยฟีเจอร์ Cross-app Colour, เอฟเฟกต์หัวแปรงและฟีเจอร์ไฮไลท์ที่หลากหลาย, ซูมเข้าบนข้อมูลได้สูงสุด 15ครั้งเพื่อจดไอเดียได้อย่างละเอียด และยังรองรับการดูแบบแยกหน้าจอด้วย

ข้อสังเกต

• มุมมองของหน้าจอขณะใช้ร่วมกับ HUAWEI Smart Keyboard จะค่อนข้างชัน มีองศาเกือบจะตั้งฉาก ซึ่งปรับระดับองศาไม่ได้ จึงต้องวางในตำแหน่งระยะและความสูงให้มองได้สบายตาและสบายมือของแต่ละคน
• กล้องหลังของ HUAWEI MatePad Air อยู่ในระดับพอใช้งานได้ ส่วนกล้องหน้าเป็นเลนส์มุมกว้างความละเอียด 8 ล้านพิกเซล อาจไม่ใช้กล้องหน้าที่เหมาะแก่การเซลฟี่ แต่เพียงพอต่อการใช้งานวิดีโอคอล
• ยังคงไม่มี GMS แต่มี GBox ให้ได้เข้าถึงแอปพลิเคชันของ Google และแอปพลิเคชันอื่นๆ เช่นกัน

ราคาและการวางจำหน่าย

HUAWEI MatePad Air (8+256GB LTE) วางจำหน่ายในราคา 22,990 บาท พรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 – 12 มกราคม 2567 รับทันที HUAWEI Smart Keyboard มูลค่า 4,990 บาท HUAWEI M-Pencil (รุ่นที่ 2) มูลค่า 4,490 บาท HUAWEI Bluetooth Mouse มูลค่า 1,490บาท HUAWEI FreeBuds Pro 2 มูลค่า 6,499 บาท และ WeTV VIP 3 เดือน มูลค่า 429 บาท (100 สิทธิ์แรก) ช่องทางการสั่งซื้อ Lazada: https://bitly.ws/37bsK

เหมาะกับใคร

เมื่อเทียบราคากับสิ่งที่ได้ใน "HUAWEI MatePad Air" ต้องบอกเลยว่าเป็นแท็บเล็ตเรือธงสเปกแรงที่คุ้มค่าที่สุด ณ ตอนนี้ หากคิดง่ายๆ ว่า ถ้าหักลบค่าอุปกรณ์เสริมที่ให้มาในโปรโมชันพรีออเดอร์ จะเท่ากับว่าตัวเครื่องราคาเพียงแค่ 5,092 บาทเท่านั้น ซึ่งอุปกรณ์เสริมทั้งหมดก็ล้วนเป็นของจำเป็นหากต้องการใช้งาน "MatePad Air" เต็มประสิทธิภาพ นั่นหมายความว่าถึงอย่างไรก็ต้องซื้ออยู่ดี เมื่อได้ราคานี้จึงนับว่าคุ้มมาก

ถามว่าใครคือคนที่ควรใช้แท็บเล็ตรุ่นนี้ ตอบได้ง่ายมากว่า “ทุกคน” เพราะด้วยประสิทธิภาพที่ทำได้ทุกอย่างทั้งงานหนักงานเบา เรื่องเล่นเรื่องจริงจัง คนที่ต้องใช้งานแท็บเล็ตทำงานที่หวังผลก็จะไม่ผิดหวัง ส่วนคนที่อยากได้มาดูหนังฟังเพลงเล่นเกมก็ตอบโจทย์เช่นกัน ที่สำคัญคือน้ำหนักเบา ตัวเครื่องบาง จึงพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกสบาย ใครก็ใช้ได้

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ