"สนธิญา" ให้กำลังใจ แพทย์ รพ.ตร. รับ "ทักษิณ" รักษาตัว เชื่อ เป็นความจริง

"สนธิญา สวัสดี" เดินทางมา รพ.ตำรวจ ให้กำลังใจนายแพทย์ใหญ่ หลังโดนสังคมกดดัน กรณี รับตัวทักษิณ ชินวัตร เข้ารักษาตัว เชื่อ ในหลักจรรยาบรรณแพทย์ และตัวนายทักษิณ อยู่ในการดูแล รพ.จริง แต่หากพบว่าโกหก ก็พร้อมฟ้องร้อง  

วันที่ 25 ส.ค. 2566 เมื่อเวลา 11.15 น. ที่ รพ.ตำรวจ นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน เดินทางมาที่โรงพยาบาลตำรวจเพื่อให้กำลังใจ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ หลังมีกระแสกดดันการดำเนินการรับตัว นายทักษิณ เข้ารับการรักษาในความรับผิดชอบของโรงพยาบาลตำรวจ

โดยนายสนธิญา ระบุว่า ตนเองมองว่า การปฎิบัติหน้าที่ของทางแพทย์ใหญ่และทางโรงพยาบาลตำรวจ เป็นการปฎิบัติหน้าที่ตามหลักจรรยาบรรณของแพทย์ และขั้นตอนการดำเนินการรับตัวเป็นไปตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ส่วนตัวเชื่อว่า ตัวนายทักษิณอยู่ในการดูแลของโรงพยาบาลตำรวจจริง ไม่ได้เป็นไปตามข้อสันนิษฐานของบางกลุ่ม

ในวันนี้จึงอยากมาให้กำลังใจต่อ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลนายทักษิณในครั้งนี้

นายสนธิญา ยังระบุอีกว่า ตนเองยืนยันว่า ตนเองยังเดินหน้าร้องเรียนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางไปเยี่ยมตัวนายทักษิณก่อนหน้านี้มาโดยตลอด ซึ่งคดียังคงอยู่ในชั้นศาลที่ยังอยู่ระหว่างการดำเนินคดี แต่ในวันนี้ที่เดินทางมาให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์เพราะตนเองเชื่อมั่นในจรรยาบรรณทางการแพทย์ของหมอที่ต้องดูแลคนป่วยตามหลักสิทธิมนุษยชน ไม่ได้มีนัยใด

เพราะสังคมต้องเข้าใจว่า ขั้นตอนการรับตัวนายทักษิณถือว่าเสร็จสิ้นเป็นนักโทษชายเป็นที่เรียบร้อย และหากนักโทษมีอาการเจ็บป่วยก็ต้องได้รับการรักษา

ส่วนการที่นายทักษิณป่วยกะทันหัน ตนเองมองว่า เป็นเรื่องปกติของคนสูงอายุ ที่มีฐานะร่ำรวยโดยปกติจะพักอาศัยอยู่ในสถานที่สุขสบายแต่เมื่อต้องไปอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย อย่างเช่นในคุก ก็อาจจะเป็นการทำให้เกิดภาวะเครียดจนนำไปสู่การเจ็บป่วยฉุกเฉินได้ ซึ่งในเรื่องนี้ตนเองยังคิดถึงแม่ของตนเองที่ ก็เป็นผู้สูงอายุที่ก็ดูเหมือนจะปกติแต่อยู่ๆ ก็ต้องเข้าห้องไอซียู รับการรักษาเช่นกัน

ส่วนที่สังคมมีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลแบบสองมาตรฐานหรือไม่ ตนเองมองว่า เป็นเรื่องความพร้อมทางฐานะของครอบครัวผู้ต้องขัง เพราะถ้าครอบครัวผู้ต้องขัง มีความสามารถ ในการดูแล หรือ จัดหา สถานที่ในการรักษาได้ก็ถือเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ สังคมต้องยอมรับในประเด็น ความแตกต่างทางฐานะนี้ให้ได้ เพราะจากเท่าที่เห็นคนสูงอายุในเรือนจำ ถ้าครอบครัวมีฐานะก็จะรับการปฏิบัติเช่นนี้เหมือนกัน แต่หากใครไม่พร้อมก็รักษาไปตามระบบของกรมราชทัณฑ์

ส่วนประเด็นที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการป่วยการเมืองหรือไม่ ตนเองมองว่าก็อาจจะเป็นการป่วยการเมืองได้ แต่ตนเองเชื่อมั่นในจรรยาบรรณทางการแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจ

ยืนยันว่า ตนเองไม่เคยเปลี่ยนแปลงท่าทีในการดำเนินการใดๆ กับพรรคเพื่อไทย และบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตนเองยืนยันว่า หากต่อไปพบว่า การเจ็บป่วยหรือการรับการรักษาในครั้งนี้เป็นเรื่องโกหกก็พร้อมที่จะเดินหน้าฟ้องร้อง และร้องเรียนบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการโกหกในครั้งนี้ทั้งหมด

ส่วนประเด็นเกี่ยวกับการเมืองยืนยันว่า ตนเองไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใดๆ ทั้งสิ้นยังคงทำหน้าที่ในการร้องเรียนความไม่ถูกต้อง

ส่วนที่นายศรีสุวรรณ เดินหน้าร้องเรียนในประเด็นที่ทิศทางตรงกันข้ามกับตนเองเมื่อวานนี้ ส่วนตัวไม่เคยพูดคุยกับนายศรีสุวรรณ และไม่ได้เกี่ยวข้องกัน ซึ่งการร้องเรียนของนายศรีสุวรรณก็ถือว่า เป็นสิทธิ์ที่นายศรีสุวรรณสามารถทำได้

...

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...