“ชวน” สวน “เดชอิศม์” ยัน มีมติพรรค แจงยิบ อย่าบิดเบือน ไม่มีวอล์กเอาต์ ชม “จุรินทร์” แจงดี ปชป. ไม่ใช่พรรคอะไหล่ สอบ 16 งูเห่า ขึ้นอยู่ กก.บห. ยัน ไร้ขั้ว สู้โกงทั้งโคตร แทงใจดำ “เดชอิศม์” ไม่ขอทรยศคนใต้ เชื่อ ปชป.ไม่แตก
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 24 ส.ค. 2566 นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รักษาการรองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงกรณี 16 สส.พรรค ปชป.โหวตสวนมติพรรคให้ความเห็นชอบ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา มีการประชุม สส.พรรค ปชป. ตนตีรถขึ้นมาจากจังหวัดตรังตั้งแต่ตีสี่ เพื่อให้ทันการประชุม เพราะไม่อยากลงมติขัดต่อมติพรรค ตามที่ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ใครที่ขัดมติพรรคจะต้องลาออก ซึ่งตนไม่อยากลาออก โดยบรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี โดย พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ บอกกับที่ประชุมว่า ปชป.ไม่ได้ร่วมรัฐบาล จึงต้องลงมติไม่รับ นายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งมีบางคนพูดในที่ประชุมว่าอยากเป็นรัฐบาล แต่ไม่เป็นประเด็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค จึงพูดกับที่ประชุมว่า เมื่อมีรัฐบาลต้องมีฝ่ายค้าน ดังนั้นเมื่อเราไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน
...
“ผมจึงขออนุญาตที่ประชุม ส่วนตัวคนเดียวขอลงมติไม่รับ โดยให้เหตุผลว่า ตนสู้กับพรรคการเมืองเหล่านี้ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย จนมาพรรคเพื่อไทย จากปัญหาการเลือกปฏิบัติของภาคใต้ และจังหวัดที่ไม่เลือกพรรคเขาเหมือนที่เคยได้ยินว่า จะพัฒนาจังหวัดที่เลือกพรรคไทยรักไทยก่อน จังหวัดอื่นไว้ที่หลัง ซึ่งเป็นผลกระทบมาก ผมต่อสู้เรื่องนี้ พร้อมทั้งขอร้องพี่น้องประชาชน อย่าเลือกพรรคที่แกล้งเรา และชาวบ้านก็ปฏิบัติตามที่ตนแนะนำ คือ ไม่เลือกพรรคเพื่อไทยมาหลายสมัย จะเห็นได้ว่า ไม่ได้ สส.ใต้เลย 3 สมัย ซึ่งเป็นผลมาจากการหาเสียงของเรา ดังนั้น หากเราทำสิ่งใดที่เป็นการสนับสนุนพรรคนี้ ก็เหมือนกับเราทรยศคนใต้ พร้อมยืนยันว่าในวันประชุมพรรคมีมติให้งดออกเสียง และไม่มีคนวอล์กเอาต์ แต่ที่ตนออกจากที่ประชุมก่อน เพราะต้องไปร่วมงานศพของ นายเพชร โอสถานุเคราะห์ เนื่องจากคุณพ่อของนายเพชร เป็น สส.ร่วมรุ่นปี 2512 รุ่นเดียวกับตน การที่ นายเดชอิศม์ ระบุว่า มีผู้ใหญ่วอล์กเอาต์นั้นไม่ใช่ นี่คือข้อเท็จจริงทั้งหมด อย่าบิดเบือน” นายชวน กล่าว
ส่วนข้อกล่าวหาว่า เป็นพรรคอะไหล่ให้กับพรรครัฐบาล กระทบเกียรติและศักดิ์ศรีของพรรค ปชป. ที่สั่งสมมา นายชวน กล่าวว่า หัวหน้าพรรคได้ออกมาชี้แจงดีแล้วว่า เราไม่ใช่พรรคอะไหล่ แต่สำหรับพฤติกรรมคนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต้องยอมรับว่า ปชป.เป็นทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านมาแล้ว ส่วนที่ถูกมองว่า หาผลประโยชน์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งปชป.เป็นพรรคที่ประชาชนหวังพึ่ง แม้ว่าในระยะหลังจะได้คะแนนเสียงน้อยมาก เคยแพ้มากที่สุดครั้งหนึ่ง ก็ต้องยอมรับว่าไม่เคยได้อย่างนี้ 25 เสียง ซึ่งเราไม่โทษกัน กก.บห.พรรคชุดนี้ก็เป็นชุดที่เราเลือกมา ต้องมาทบทวนว่า เราจะฟื้นพรรคได้อย่างไร และเป็นความหวังดีของพรรคที่เห็นว่าเราไม่ควรไปร่วมรัฐบาล ตนไม่อยากให้พรรคของเราได้รับผลกระทบทั้งเกียรติภูมิและชื่อเสียง
“เป็นพรรคอะไหล่นี่มัน อืม คิดดูแล้วกัน คนในพรรคที่เป็นกำลังสำคัญทั่วประเทศจะรู้สึกอย่างไร ตนต้องขอบคุณหัวหน้าพรรคที่ออกมาชี้แจงดีแล้ว ประกาศให้รู้ว่าไม่ได้เป็นพรรคอะไหล่ ส่วนพฤติกรรมของคนจะเป็นอย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งมีกฎเกณฑ์กติกาของพรรคอยู่” นายชวน กล่าว
ส่วนข้อเสนอให้ขับ 16 สส.เสียงส่วนใหญ่ออกจากพรรคหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า มองว่าเป็นเรื่องของ กก.บห.พรรคที่จะต้องตรวจสอบต่อไป ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบชี้แจงเรื่องนี้ และต้องรอดูต่อไปว่า ผู้ที่ลงมติจะชี้แจงอย่างไร ส่วนรอยร้าวระหว่างพรรคปชป. 2 กลุ่ม 2 ขั้วนั้น นายชวน กล่าวย้ำว่า ตนไม่มีขั้ว เพราะตนก็เลือกกรรมการชุดนี้มา ซึ่งเป็นเรื่องของแนวทางที่เราอยากให้เดินการเมืองอย่างสุจริต การที่พรรคอยู่มาได้ 77 ปี ไม่ได้อยู่เพราะโกงเก่ง ที่ผู้คนศรัทธาเพราะเรามีความซื่อตรง ไม่โคตรโกงและไม่โกงทั้งโคตร ยึดหลักความถูกต้องชอบธรรมก็อยู่มาได้ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของพรรค ปชป.ที่อยากให้รักษาไว้ต่อไป สำหรับสิ่งที่จะฝากถึง สส.ที่เป็นรัฐบาล ตนบอกว่า ความอยากเป็นรัฐบาลไม่ผิดอะไร เพียงแต่กระบวนการไปร่วมรัฐบาลต้องผ่านการประชุม สส.และ กก.บห.พรรค ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีผ่านเข้ามา ตนได้ถามหัวหน้าพรรคว่า มีใครไปเจรจาขอร่วมรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่าไม่มี
ทั้งนี้ นายชวน ยังชี้แจงว่า ตอนที่พรรค ปชป.งดออกเสียงในการโหวตให้พรรคก้าวไกล เพราะพรรคแกนนำไม่เคยประกาศว่า ไม่เอาพรรค ปชป. แต่ตอนนี้ นายเศรษฐา ประกาศด้วยตนเองว่า ไม่มี ปชป. เราคิดว่าเขาเองก็ไม่ได้อยากได้ ปชป. และเรามีเสียงแค่นี้ 25 เสียง ควรมาตั้งหลักและฟื้นฟูพรรค ต้องยอมรับว่าตอนที่เราสู้กับพรรคเพื่อไทย และ นายทักษิณ ชินวัตร นายเดชอิศม์ อยู่ในพรรคนั้น ตอนที่เราเรียกร้องความเป็นธรรมว่าคนภาคใต้ถูกกลั่นแกล้ง ฉะนั้นความคิดจึงต่างกันตั้งแต่ต้น เราสู้เพื่อขอความเป็นธรรมให้คนในภาคใต้ที่ถูกเลือกปฏิบัติ ตนจึงขอทำหน้าที่ ไม่ทรยศต่อคนภาคใต้ ส่วน ปชป.จะมีโอกาสร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น นายชวน กล่าวว่า ในอนาคตไม่แน่ ตนไม่ทราบ แต่ปัจจุบันไม่มี หากมติ กก.บห.พรรคและ สส.อยากไปร่วมในตอนนั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ขณะนี้คงไม่มี
นอกจากนี้ นายชวน ยังเปิดเผยว่า ตนได้ถามในที่ประชุมถึงกรณีกระแสข่าวที่ นายเดชอิศม์ เดินทางไปพบกับ นายทักษิณ ที่ฮ่องกง ว่าจริงหรือไม่ ซึ่ง นายเดชอิศม์ ยอมรับว่า ไปฮ่องกงจริง แต่ไม่ได้เดินทางไปพบ นายทักษิณ แต่เมื่อ นายทักษิณ ทราบว่า นายเดชอิศม์ ไปฮ่องกง จึงเรียกไปพบ ซึ่ง นายอิศม์ ยืนยันว่า ไม่ได้ไปเพื่อเจรจาร่วมรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคยังไม่แตกใช่หรือไม่ นายชวน ตอบกลับว่า มันเหลือเท่าไรก็ไม่รู้ ไม่เป็นไร มีกี่คน ตนก็อยู่ เว้นแต่ตนถูกขับ เพราะอยู่มา 17 สมัย ไม่ใช่ใครก็ทำได้ทุกคน คือไม่ได้ใช้เงิน ไม่ซื้อเสียง ไม่โกงเลือกตั้ง นี่คือหัวใจของประชาธิปไตยที่แท้จริง ตนก็อยากเห็นการเมืองรูปแบบนี้ แต่ช่วงหลังต้องยอมรับว่าเราแพ้ อาจจะใช้คำว่าแพ้มากที่สุดครั้งหนึ่ง อย่างที่ไม่เคยได้อย่างนี้ แค่ 25 เสียง อย่างดีก็ 30 เสียง ซึ่งตนบอกหัวหน้าพรรคว่าไม่โทษใคร เพราะพวกเราเป็นคนเลือกหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และ กก.บห.พรรคชุดนี้เอง แต่ต้องมาทบทวนว่าจะฟื้นพรรคได้อย่างไร นี่คือความหวังดีของคนในพรรค ที่ว่าไม่ควรจะไปร่วมรัฐบาล ควรจะหันมาทบทวนความพ่ายแพ้และฟื้นพรรคมาใหม่ให้แข็งแกร่งขึ้น เหมือนกับที่มีปัญหาในอดีต จนกระทั่งมีคนออกไปตั้งพรรคใหม่ แต่ในที่สุดประชาธิปัตย์ก็กลับมาได้.
