“ภคมน หนุนอนันต์” ชี้ งบประมาณลงใต้ ส่วนใหญ่กลายเป็นเบี้ยหัวแตก เจรจาต่อรองเค้กแห่งอำนาจ เผย คนใต้ต้องการการเมืองที่ดี ถามนอกจากราคายาง-ปาล์ม จะเห็นอะไรใหม่ในอนาคต
วันที่ 11 ธ.ค. 2566 นางสาวภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กถึงการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ในสัดส่วนงบประมาณที่จะลงมาในพื้นที่ภาคใต้ ว่า “อนาคต ของการเมืองภาคใต้”
เมื่อวานนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่น้องในจังหวัดนครศรีธรรมราช และโยนโจทย์ถามประชาชนในการพูดคุยว่า “ประชาชนอยากเห็นงบประมาณรายจ่าย ถูกนำไปใช้แบบไหนเพื่อการพัฒนาภาคใต้”
ความคิดเห็นที่ได้รับฟังไม่ใช่เรื่องใหม่ของสังคมไทย แต่ค่อนข้างตื่นเต้นที่ได้ยินจากพี่น้องในพื้นที่ภาคใต้พวกเราเห็นไปทางเดียวกันว่า
“อยากเห็นทุกพรรคการเมืองกล้าหาญและจริงใจต่อการพัฒนาภาคใต้จริง ต้องผลักดันให้เกิด กระจายอำนาจ”
หากจะพัฒนาอย่างยั่งยืนให้เน้นงบประมาณในการ ‘สร้างคน’ โดยเฉพาะงบประมาณด้านสวัสดิการและการศึกษาในโรงเรียนขนาดกลาง-เล็กให้กระจายทั่วทุกพื้นที่ที่ห่างไกล
อยากเห็นงบประมาณที่ไม่ได้มุ่งแต่การเอางบลงมาเพื่อ ‘ทำลาย’ แต่ต้องมีงบประมาณลงมาเพื่อการอนุรักษ์รักษาทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ภาคใต้เอาไว้ให้คงอยู่
ที่ผ่านมามีงบประมาณจำนวนไม่น้อยที่ลงมาในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ แต่ลงมาแบบ “เบี้ยหัวแตก” งบประมาณกระจายลงมาตามกระทรวงที่นักการเมืองเข้าไปนั่ง บางสมัยได้นั่งในบางกรม งบประมาณที่ลงมาพัฒนาภาคใต้ก็ไปหนักอยู่กับส่วนนั้นโดยไม่ได้คิดถึงว่า
ประชาชนตั้งคำถามว่าเราจะส่งเสริมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว Soft Power ได้อย่างไร ถ้ายังไม่มีระบบขนส่งสาธารณะที่ทำให้พวกเขาเดินทางจากในเมืองไปถึงชุมชน ธรรมชาติ หรือพื้นที่ที่เราต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์
...
ประชาชนตั้งคำถามว่านอกจากการตั้งความหวังไว้ที่ราคายางกับปาล์มแล้ว ภาคใต้จะมองเห็นอนาคตอะไรใหม่ๆ ที่รักษาสมดุลระหว่างการพัฒนาและคุณภาพชีวิตให้เติบโตไปด้วยกัน
ภาคใต้สามารถมีงานดีๆ มีเศรษฐกิจดีๆ มีประชาชนรายได้สูง ไปพร้อมๆ กับการมีสวัสดิการที่ดี การกระจายอำนาจที่ดี การศึกษาที่ดี ระบบขนส่งมวลชนที่ดี และสิ่งแวดล้อมที่ดีได้ ถ้ารัฐบาลเชื่อในศักยภาพของประชาชน
“คนใต้ต้องการการเมืองที่ดี
คนใต้ต้องการการทำงานการเมืองแบบที่เชื่อในอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน
การขยับยุทธศาสตร์ทางการเมืองในพื้นที่ภาคใต้ของทุกพรรค รวมทั้งพรรคก้าวไกลหลังจากนี้ เชื่อว่าถ้าเรารับฟังและจริงจังกับเสียงประชาชน เราจะเห็นอนาคตภาคใต้กลับมาเป็นกำลังหลักในการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ และไม่เป็นภาคที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังในการเจรจาต่อรองเค้กแห่งอำนาจและการพัฒนาอย่างแน่นอนค่ะ”.
