จี้ ยธ.หยุดเลือกปฏิบัติ ส่ง "ทักษิณ" นอน รพ.ตร.เป็นที่เคลือบแคลงของสังคม

แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ร้อง ก.ยุติธรรม หยุดเลือกปฏิบัติกับ "ทักษิณ" ส่งรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ระบุนักโทษสูงวัย-ป่วยมีในเรือนจำทั่วประเทศ อาจเกิดสองมาตรฐานและคำถาม "คุกมีไว้ขังคนจนหรือไม่" ด้านรองปลัดแจงดุลพินิจการส่งตัวผู้ป่วย เป็นไปตามเอ็มโอยูของ รพ.ราชทัณฑ์ และ รพ.ตำรวจ

ที่กระทรวงยุติธรรม เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 ส.ค. นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ยื่นหนังสือร้องเรียนกับ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาพฤตินิสัย ขอให้ยุติการเลือกปฏิบัติเป็นกรณีพิเศษกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนแตกต่างจากนักโทษในเรือนจำ 

นายพิชิต กล่าวว่า จากการที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ส่งตัว นายทักษิณ ไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ภายหลังเดินทางกลับมาประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา เป็นที่น่าเคลือบแคลงของสังคมทั่วไป ว่าสุขภาพของนายทักษิณที่ปรากฏเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์และสื่อสังคมออนไลน์ของบุตรสาว กลับพบว่ามีการสื่อสารอยู่หลายครั้งว่าสุขภาพของนายทักษิณอยู่ในเกณฑ์แข็งแรงดี แม้จะมีโรคหรืออาการของโรคบางชนิดก็ตาม ทั้งยังมีการสื่อสารว่ามีการออกกำลังกายเพื่อดูแลสุขภาพ มีภาพของนายทักษิณขณะออกกำลังกาย ด้วยการว่ายน้ำ เตะเป้า ยกดัมเบล ถูกเผยแพร่ในสื่อสาธารณะโดยทั่วไป 

แกนนำ คปท. กล่าวว่า นอกจากนี้ ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย นายทักษิณมีการเลื่อนการเดินทางอยู่หลายครั้ง ในทุกครั้งของการเลื่อนการเดินทาง ให้เหตุผลที่ไม่อาจรับฟังได้ว่า มีเหตุเพียงพอต่อการเดินทาง จึงถูกวิเคราะห์ล่วงหน้าไว้แล้วว่า นายทักษิณจะใช้เรื่องสุขภาพและอาการของโรค เพื่อเป็นข้ออ้างในการขอโอนตัวไปรักษาตัวในห้องพิเศษของโรงพยาบาลตำรวจ และสุดท้ายจะมีการโอนย้ายต่อไปโรงพยาบาลเอกชน ที่มีความสะดวกสบาย อย่างเช่นอยู่บ้านของตัวเอง และบุคคลต่างๆ สามารถเดินทางมาพบได้โดยสะดวก ก็ปรากฏว่าเกิดเหตุการณ์เป็นเช่นนั้นจริงๆ ทั้งที่ยังถูกควบคุมตัวไม่ครบ 24 ชั่วโมง ภายใต้ความรับผิดชอบของกรมราชทัณฑ์

...

นายพิชิต กล่าวอีกว่า เครือข่าย คปท.เห็นว่ากรณีดังกล่าว 1. อาการป่วยของนายทักษิณ อาจไม่ได้เกิดขึ้นจริง หรือมีอาการรุนแรงตามถ้อยแถลงของกรมราชทัณฑ์ 2. การจัดการให้นายทักษิณอยู่ห้องขังเดี่ยวนั้น มีเพียงห้วง 10 วันแรกที่ต้องกักโรค หรือจะมีอภิสิทธิ์อยู่ห้องขังเดี่ยวหรือในโรงพยาบาลตลอดไป โดยอ้างถึงการเจ็บป่วยและปัญหาสุขภาพ 3. นักโทษสูงวัยรายอื่นๆ กรมราชทัณฑ์จะจัดการดูแลอย่างเท่าเทียมกันทุกรายหรือไม่ หรือจะให้อภิสิทธิ์เยี่ยงนี้เกิดขึ้นเฉพาะราย จนเกิดคำกล่าวขานว่า "คุกมีไว้ขังเฉพาะคนจน" 

แกนนำ คปท. กล่าวอีกว่า ด้วยเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น คปท.จึงขอให้กระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ ดำเนินการดังต่อไปนี้ คือ 1. กรณีที่นายทักษิณต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ หรือโรงพยาบาลเอกชน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานและจริยธรรมทางการแพทย์ กรมราชทัณฑ์ควรเชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจร่างกายนักโทษชายทักษิณโดยละเอียดอีกครั้งว่า มีความจำเป็นต้องรับการรักษาโดยโรงพยาบาลภายนอกหรือไม่ เพื่อไม่ให้เป็นที่ครหาโดยสังคมทั่วไป 2. กรมราชทัณฑ์ต้องดำเนินการให้นายทักษิณยังอยู่ในฐานะผู้ต้องขัง ให้มีมาตรฐานเดียวกับผู้ต้องขังอื่น ปฏิบัติตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ 3. กระทรวงยุติธรรมต้องดำเนินการให้คุมขังนายทักษิณเป็นไปตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ทั้งการเลื่อนชั้นนักโทษ การดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย ให้เป็นไปตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ไม่ควรให้เกิดอภิสิทธิ์หรือข้อยกเว้นใดๆ จนเกิดเป็นสองมาตรฐานขึ้นภายในกระทรวงยุติธรรม 4. ผู้ต้องขังทุกคนมีสิทธิ์ขอพระราชทานอภัยโทษ และการพระราชทานอภัยโทษอันเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 179 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 259 แต่การขอพระราชทานอภัยโทษในคดีทุจริตนั้นไม่เคยมีมาก่อน จึงอาจจะสร้างบรรทัดฐานใหม่ ส่งผลให้นักการเมือง ข้าราชการ นักการเมืองท้องถิ่นจำนวนมาก ที่ต้องโทษจากการฉ้อราษฎร์บังหลวง ใช้เป็นช่องทางให้พ้นโทษจากเรือนจำ กระทรวงยุติธรรมควรระมัดระวังและพิจารณาในประเด็นดังกล่าวอย่างรอบคอบ 

นายพิชิต กล่าวว่า คปท.หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กระทรวงยุติธรรมจะบังคับใช้กฎหมายราชทัณฑ์กับนายทักษิณอย่างโปร่งใส เท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติเช่นเดียวกับที่บังคับใช้กับประชาชนทั่วไปโดยปกติวิสัย เพื่อให้การอำนวยความยุติธรรมไม่เกิดภาวะสองมาตรฐาน จนทำให้ประชาชนเกิดวิกฤติศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรมในสังคมไทย 

ภายหลัง นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาพฤตินิสัย เปิดเผยว่า กรณีมีกระแสการย้ายตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจาก รพ.ตำรวจ ไปรักษายัง รพ.เอกชน ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเข้ามา แต่ยืนยันยังไม่มีการส่งตัวออก และส่วนตัวมั่นใจว่า รพ.ตำรวจ มีศักยภาพในการดูแลรักษาได้ ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ติดตามดูแลอาการอย่างใกล้ชิด เพราะนายทักษิณยังอยู่ในการควบคุมของเรือนจำ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเผยแพร่ภาพของนายทักษิณขณะรับการรักษา เพราะมีกฎหมายคุ้มครอง ส่วนการรักษาความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 4 นาย คอยคุ้มกันอยู่นอกห้องพัก

ส่วนกรณีที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่า อาการป่วยของนายทักษิณทรุดลงหลังจากเข้าเรือนจำ ตนต้องชี้แจงว่า หากจินตนาการว่าต้องเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ถูกจำกัดสิทธิ จากที่กินอยู่สุขสบาย อาจส่งผลให้ร่างกายมีปัญหาได้ ขณะนี้ยังไม่ได้ส่งจิตแพทย์เข้าไปดูแลอาการนายทักษิณ แต่แพทย์ได้รักษาอาการเจ็บป่วยตามประวัติการรักษาจากต่างประเทศ

นายสหการณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับหลักเกณฑ์ในการเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาล ต้องเป็นไปตามที่เรือนจำกำหนด คือ ญาติที่สืบสายเลือดและครอบครัวเข้าเยี่ยมได้ไม่เกิน 10 คน โดยไม่ให้เข้าเยี่ยมใน 5 วันแรก และต้องแจ้งความจำนงมายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก่อนปฏิบัติตามกติกาโรงพยาบาล คือเข้าเยี่ยมระหว่างเวลา 11.00-13.00 น. และ 17.00-19.00 น.ในวันปกติ หากอยู่โรงพยาบาลเกิน 5 วัน และมีบุคคลสำคัญนอกเหนือจากญาติ เช่น นักการทูต ต้องสอบถามตัวผู้ป่วยเอง ว่าอยากให้บุคคลนั้นเข้าพบหรือไม่ ส่วนการติดต่อสื่อสารใดๆ นายทักษิณต้องดำเนินการผ่านเจ้าหน้าที่ และให้แจ้งผ่านญาติ ทั้งนี้ นับแต่วันคุมขัง นายทักษิณยังไม่แจ้งความประสงค์ใด โดยตนได้พบเห็นเจ้าตัวครั้งล่าสุดในวันรับตัวเข้าเรือนจำ สวมเสื้อเชิ้ตขาว กางเกงสแล็กสีกรมท่า และยังไม่ได้เปลี่ยนชุด

"ที่ผ่านมาเมื่อมีนักโทษที่เป็นผู้ป่วยอาการวิกฤติ เรือนจำทั่วประเทศได้ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลแม่ข่ายระดับอำเภอ จังหวัด หรือภูมิภาค รวมถึงโรงพยาบาลตำรวจที่มีศักยภาพการรักษามาโดยตลอด เพียงแต่ไม่ได้เป็นบุคคลมีชื่อเสียง จึงไม่ปรากฏข่าว เนื่องจากกรมราชทัณฑ์และ รพ.ตำรวจ มีบันทึกข้อตกลงร่วม (เอ็มโอยู) ที่ให้ส่งตัวผู้ป่วยเข้ารับการรักษา หาก รพ.ราชทัณฑ์ ไม่สามารถทำการรักษาได้ เพราะถือเป็นเรื่องปกติ ที่จะต้องยื้อชีวิตผู้ป่วยไว้ให้ได้ โดยจะมีแพทย์เป็นผู้วินิจฉัยการส่งตัวร่วมกับราชทัณฑ์ ญาติไม่สามารถร้องขอให้ไปรักษาที่ รพ.ใดเองก็ได้" รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าว.

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...