“เศรษฐา” ดึงทหารช่วยรัฐบาลแก้ปัญหา ย้ำลดช่องว่างปชช. “อิ๊ง” โต้ใช้งบสูงดันซอฟต์พาวเวอร์

นายกฯเรียก ผบ.ทหารสูงสุดเข้าทำเนียบฯ หารือตามงานหลายเรื่อง ทั้ง สถานการณ์ชายแดนใต้ ปราบปรามยาเสพติด แก้ปัญหาที่ดินทำกิน น้ำท่วม น้ำแล้งยันฝุ่น PM 2.5 เน้นย้ำดึงทหารร่วมคลายทุกข์ชาวบ้าน ลดช่องว่างระหว่างทหารกับประชาชน พท. จัดสัมมนา สส.ของพรรค ติวเข้มปั่นผลงานฝั่งสภาฯ และช่วยตีปี๊บโชว์ผลงานรัฐบาลเข้าถึงหูประชาชนในพื้นที่ “อุิ๊งอิ๊ง” ปิดปากไม่ตอบอาการป่วย “ทักษิณ” จ่อชี้แจงครหาใช้งบฯ กว่า 5 พันล้าน ดันซอฟต์พาวเวอร์ สูงลิ่ว “สรวงศ์” โอ่เปิดเวทีระดมสมองวางอนาคตพรรค “มนพร”กระตุ้น สส.บอกต่อผลงานตรงใจกองเชียร์ “พายัพ” จี้หน่วยงานรัฐเร่งลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ “เทพไท” อวย “อภิสิทธิ์” คือทางรอด ปชป. กู้คืนฐานเสียงเดิม

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เดินหน้าเร่งติดตามงานไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยได้เชิญ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) มาหารือที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตามงานในหลายประเด็น โดยดึงทหาร เข้ามาร่วมช่วยเหลือชาวบ้าน เพื่อช่วยลดช่องว่างระหว่างทหารกับประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย

...

นายกฯเข้าทำเนียบฯหารือ ผบ.ทสส.

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 5 ธ.ค. ที่ท้องสนามหลวง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง พร้อม พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา เป็นประธานพิธีเจริญ พระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรม ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถ บพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2566 โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เดินทางมาร่วมพิธีดังกล่าวด้วย พร้อมได้ถ่ายรูป ร่วมกับนายกรัฐมนตรีและภริยา ต่อมานายเศรษฐาเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เรียก พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เข้าหารือ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า คาดว่าเป็นการพูดคุยเพื่อติดตามงานในหลายประเด็น อาทิ สถานการณ์ความมั่นคงชายแดน การแก้ปัญหายาเสพติด ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 และการ ช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยในประเทศอิสราเอลที่เหลืออยู่ โดยใช้เวลาหารือนานประมาณ 20 นาที

ดึงทหารช่วยงานลดช่องว่างกับ ปชช.

จากนั้นนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์หลังการหารือว่า โดยปกติจะพบปะกับ ผบ.ทสส. เป็นประจำ อยู่แล้ว วันนี้ได้รับทราบข้อมูลแนวทางการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ แนวทางการทำงานกับรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงของมาเลเซีย รวมถึงปัญหายาเสพติดที่จะทะลักเข้ามาจากพม่าเป็นประเด็นที่ต้องเฝ้าระวัง ทหารจะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อปราบปรามยาเสพติดและสกัดการนำเข้าอย่างจริงจัง นอกจากนี้ยังมีปัญหาการเผาป่าในพื้นที่ภาคเหนือเป็นเรื่องสำคัญต้องพึ่งฝ่ายความมั่นคงค่อนข้างมาก อีกเรื่องที่คุยกันในภาพรวมคืออยากให้ทหารมาช่วยเหลือประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหายาเสพติด ปัญหาสิ่งแวดล้อม เรื่องที่ดินทำกิน ช่วยดูแลปัญหาน้ำไม่ให้ท่วม ไม่ให้แล้ง รวมทั้งดูแลทุกข์สุขของพี่น้อง ประชาชนนอกเหนือจากเรื่องความมั่นคงที่ท่านดูแลอยู่แล้ว จะช่วยลดช่องว่างระหว่างทหารกับประชาชนได้อีกทางหนึ่งด้วย กรณีฝุ่นพีเอ็ม 2.5 จะมีการเตรียม พร้อมรับมืออย่างไรเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ที่ผ่านมา ไปประชุมเรื่องนี้ที่ จ.เชียงใหม่ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ต้องมีการดูแลการเผาสิ่งต่างๆ รวมถึงการ เผาป่าด้วย ส่วนความคืบหน้าการแก้ปัญหาหมูเถื่อน ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วว่าเรื่องนี้จะต้องสาวไปถึงรายใหญ่ให้ได้

ไม่พลาดร่วมวงสัมมนา สส.เพื่อไทย

ผู้สื่อข่าวถามถึงการจัดงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่โรงแรม เดอะกรีนเนอรี่ รีสอร์ต เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 6-7 ธ.ค. นายเศรษฐากล่าวว่า จะต้องมีการชี้แจงหรือสรุปผลงานกับที่ประชุม อย่างไรบ้างยังไม่ทราบ แต่จะเดินทางไปตอนบ่าย หลังจากเสร็จภารกิจในช่วงเช้าแล้ว

“อุ๊งอิ๊ง” รอแจงใช้งบฯซอฟต์พาวเวอร์

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค เพื่อไทย (พท.) ปฏิเสธให้สัมภาษณ์กรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง ให้พิจารณาทบทวนงบประมาณ 5,164 ล้านของโครงการซอฟต์พาวเวอร์ หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้งบประมาณมากเกินไป โดย น.ส.แพทองธารกล่าวเพียงสั้นๆว่าจะให้สัมภาษณ์ ในวันสัมมนาของพรรคเพื่อไทยที่ จ.นครราชสีมาระหว่างวันที่ 6-7 ธ.ค. เมื่อถามถึงอาการป่วยของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ น.ส.แพทองธาร ได้แต่ยิ้มส่ายหน้า โบกมือส่ายนิ้วชี้ไปมา เป็นเชิงปฏิเสธ ไม่ขอตอบคำถามของสื่อมวลชน

“สรวงศ์” ระดมสมองวางอนาคตพรรค

นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ว่า การสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่จะมีขึ้นที่เขาใหญ่ ไม่มีประเด็นอะไรมาก เป็นการให้สมาชิกภายในพรรคได้พบปะกัน เพราะเราทิ้งช่วงห่างการสัมมนาพรรคมานานพอสมควร และพรรคเพิ่งมีกรรมการบริหาร (กก.บห.) ชุดใหม่เข้ามา คงจะมีกิจกรรมระดมความคิดสิ่งที่สมาชิกพรรคแสดงออกว่าอยากเห็นอนาคตของพรรคเป็นอย่างไร และขณะนี้พรรคเพื่อไทย มีสมาชิกที่แบ่งเป็นกลุ่มได้ 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ สส. รัฐมนตรีในสัดส่วนพรรค และข้าราชการการเมือง ทั้งกลุ่มจะได้ร่วมพูดคุยกัน เพื่อกำหนดอนาคตของพรรค แต่คงไม่ลงรายละเอียดอะไรมากเป็นพิเศษ

ก.ม.นิรโทษฯควรคุยให้ชัดใน กมธ.

เมื่อถามถึงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ระบุว่าพรรค พท. เตรียมเสนอประกบกับร่างของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง นายวรวงศ์กล่าวว่า ตอนนี้คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคกำลังร่างอยู่ ยังไม่เห็นรายละเอียด แต่เมื่อเราเสนอเข้าสภาฯแล้ว จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญขึ้นมาเพื่อพิจารณารายละเอียดของร่างกฎหมายดังกล่าว อยากให้รายละเอียดอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการมากกว่าการถกกันในห้องประชุมใหญ่ เพราะกลัวประเด็นจะแตกเกินไป อยากให้ตกผลึกในชั้น กมธ.วิสามัญก่อน และหากใครมีข้อเสนอแนะก็ให้เป็นข้อเสนอแนะใน กมธ.ไป เมื่อถามถึงกรณีที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ระบุว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันภายในพรรคเพื่อไทย นายสรวงศ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวทางพรรคมีการศึกษากันอยู่ ส่วนที่ นพ.ชลน่านระบุนั้น อาจหมายถึงการหารือของรัฐบาลหรือไม่ แต่เรื่องนี้สุดท้ายเราต้องหารือร่วมกันอย่างแน่นอน

ยังไม่ชงเข้าหารือวงสัมมนา สส.

เมื่อถามว่าบางพรรคการเมืองไม่เห็นด้วยหากนิรโทษฯจะมีคดีทุจริตรวมอยู่ในนั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่า จริงๆอยู่ในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว การร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมขึ้นมาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ โดยอะไรที่เป็นคดีทางการเมืองที่เป็นเรื่องของความคิด เราเห็นด้วยแน่นอน แต่หากเป็นเรื่องการทำผิดกฎหมายอื่นๆนั้น ต้องดูในรายละเอียด เมื่อถามว่าจะมีการนำเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าพูดคุยในวันสัมมนาพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ไม่มีแน่นอน เรื่องนี้อาจจะเป็นการประชุมของทีมผู้บริหารพรรค จากนั้นจะนำเสนอต่อที่ประชุมพรรคต่อไป

“มนพร” เล็งติวเข้มปั่นงานตรงใจ ปชช.

นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ว่า การจัดสัมมนาพรรค พท. หลังจากรัฐบาลเดินหน้าทำงานมา 2 เดือนกว่าแล้ว ระหว่างนี้เป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภา พรรคจึงจัดสัมมนาพรรคขึ้นเพื่อให้ฝ่ายบริหารที่มาจากพรรค พท. ทั้งนายกฯ รัฐมนตรีของ พรรค ได้พบปะพูดคุยกับ สส.ตัวแทนประชาชนในฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อบอกกล่าวสิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการตามนโยบายที่หาเสียงไว้ ไม่ว่าจะลดราคาค่าไฟฟ้า ราคาน้ำมัน พักหนี้เกษตรกร เพิ่มเงินเดือนปริญญาตรีที่ประกาศจะเพิ่มเป็น 25,000 บาท ในปี 70 ตอนนี้เราปรับฐานให้เป็น 18,000 บาท การปราบปรามยาเสพติดที่บูรณาการฝ่ายปกครองและทหารมามีส่วนร่วม ราคายางพาราเพิ่มขึ้นจากเดิม ขี้ยางกิโลกรัมละ 13-14 บาท วันนี้เพิ่มเป็น 28-29 บาทต่อกิโลกรัม รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายที่เริ่มแล้วในสายสีแดงและสีม่วง เพื่อให้ สส.ไปบอกต่อยังประชาชนและรับฟังเสียงสะท้อนกลับมาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล

กระชับสัมพันธ์ สส.ก่อนลุยงานสภาฯ

นางมนพรกล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ยังเป็นการเตรียมความพร้อมของ สส.ก่อนเปิดสมัยประชุมหน้าวันที่ 12 ธ.ค. เพราะจะมีการผลักดันกฎหมายเข้าสภาฯหลายเรื่อง อาทิ พ.ร.บ.ประมง พ.ร.บ.ราง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมที่จะใช้ขับเคลื่อนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย การเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ รวมถึงการผลักดันนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ที่รัฐบาลกำลังเดินหน้าและจะเสนอต่อสภาฯในการเปิดประชุมสมัยหน้า โดยการสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของสมาชิกพรรค ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติให้การดำเนินงานของพรรคเพื่อไทยตรงกับความต้องการของประชาชนมากที่สุด

“พายัพ” จี้เร่งลงทะเบียนหนี้นอกระบบ

นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษาของรองนายกฯกล่าวว่า รัฐบาลห่วงใยประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบเพราะมีความทุกข์ ถูกกดขี่เอารัดเอาเปรียบจากนายทุนหน้าเลือด จึงเร่งดำเนินการลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ ที่ผ่านมา 3 วันมีประชาชนลงทะเบียน 44,264 คน จากผู้เป็นหนี้ทั้งหมดประมาณ 3.5 ล้านคน การจะแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้ได้ผลจะต้องมีการลงทะเบียนเพื่อแก้ปัญหาให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการลงทะเบียนด้วย เพื่อให้รัฐบาลจะได้หาทางแก้ไขได้ทั้งในส่วนของผู้กู้และนายทุนปล่อยเงินกู้ให้ได้รับความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย โดยจะต้องมีการนำเอาหนี้นอกระบบมาเข้าระบบ จากนั้นรัฐบาลก็จะช่วยเหลือประชาชนให้มีการจับจ่ายผ่านเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพื่อให้พี่น้องพยุงตัวเองลุกขึ้นยืนได้ มีเงินหมุนเวียนช่วยเสริมสภาพคล่อง ซึ่งเชื่อว่าเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จะถูกหมุนเวียนในตลาดได้สองสามรอบ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการเติบโตของจีดีพีประเทศได้อีกด้วย

“เจ๊แจ๋น” ย้ำคนเลยเอากระเช้าภูกระดึง

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพิจารณาโครงการออกแบบก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้า ภูกระดึง ว่า ในการประชุม ครม.สัญจรที่ จ.หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.วาระการประชุมมีการนำเสนอโครงการของแต่ละจังหวัดเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณา จังหวัดเลยเสนอโครงการสร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นภูกระดึงด้วย และที่ประชุมอนุมัติในหลักการ เพื่อนำไปเรียงลำดับพิจารณาความสำคัญในการจัดสรรงบประมาณ และในรายละเอียดโครงการมีการเสนอให้ออกแบบการก่อสร้างที่ใช้งบประมาณ 28 ล้านบาท นำไปประกอบการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ ให้กับกระทรวงทรัพยากรณ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ต้องการให้มีการสร้างโครงการกระเช้าลอยฟ้าที่สร้างรายได้ในพื้นที่และสร้างรายได้เข้าจังหวัด ขณะเดียวกันก็มีการทำอีไอเอมาแล้วหลายครั้ง ภูกระดึงเป็นอุทยานแห่งชาติ เพราะฉะนั้นเวลาที่จะทำอะไรก็จะต้องระมัดระวัง เรื่องสิ่งแวดล้อมและขยะ ส่วนการดำเนินการจะแล้วเสร็จในรัฐบาลนี้หรือไม่นั้นก็อยู่ที่การดำเนินงาน งบประมาณและจังหวัด ซึ่งการออกแบบการก่อสร้างจะใช้ระยะเวลา 3 เดือน ส่วนทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อไหร่นั้น ไม่ได้มีกำหนดไว้

“เทพไท” ยก “มาร์ค” คือทางรอด ปชป.

วันเดียวกัน นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “อภิสิทธิ์คือทางรอดของประชาธิปัตย์” ว่า การเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ปชป. ครั้งที่ 3 ในวันที่ 9 ธ.ค. เชื่อว่าจะได้ตัวหัวหน้าพรรค ปชป.คนใหม่แน่นอน จะไม่มีองค์ประชุมล่มครั้งที่ 3 อีกแล้ว นอกจากนี้ นายเทพไท ยังยกเหตุผล 7 ข้อ สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ อาทิ นายอภิสิทธิ์มีจุดยืนการเมืองชัดเจนตรงกับอุดมการณ์พรรคต่อสู้กับเผด็จการทุกรูปแบบ ปชป.ซื่อสัตย์ มืออาชีพ มีสัจจะวาจาคำไหนคำนั้น เชื่อมต่อ เติมเต็มช่องว่างทุกกลุ่มในพรรค ฐานเสียงใน กทม.และภาคใต้ นายอภิสิทธิ์ยังเป็นที่นิยม ดึงฐานเสียงเหล่านี้กลับมาสู่พรรคได้ และฐานเสียงเดิมที่เคยเลือก ปชป. 11 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชนชั้นกลางและกลุ่มอนุรักษ์นิยม ครั้งที่ผ่านมาจะกลับมาสนับสนุนพรรคเหมือนเดิม ไม่มีข้อสงสัยในภาวะผู้นำของนายอภิสิทธิ์ว่าสามารถเป็นนายกฯ ได้หรือไม่ นำเสนอประเด็นทางการเมืองได้แหลมคมมากกว่านักการเมืองทุกคนในยุคนี้ พรรคจะเติบโตเรียกศรัทธาได้ด้วยบทบาทการเป็นพรรคฝ่ายค้าน ตรวจสอบฝ่ายบริหารอย่างเข้มแข็ง เชื่อว่านายอภิสิทธิ์สามารถนำพาพรรคค่อยๆเติบโต เพิ่มจำนวน สส.ได้มากขึ้นเรื่อยๆจนเป็นพรรคหลักหรือขั้วการเมืองได้อีกในอนาคต

“พิธา” ไปเกาหลีขอบคุณแรงงานไทย

วันเดียวกัน ฝ่ายประชาสัมพันธ์พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เผยเเพร่ภาพและเนื้อหาที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ก.ก. เดินทางไปยังเมืองฮวาซอง จังหวัดคยองกีโด ประเทศเกาหลีใต้ ช่วงเย็นวันที่ 4 ธ.ค. เพื่อเยี่ยมเยียนร้านชำของคนไทย ร่วมรับประทานอาหารเย็นกับแรงงานไทย โดยหนึ่งในเมนูเด็ด ที่นายพิธาร่วมรับประทานกับเเรงงานไทยคือ “ซอยจุ๊” อาหารพื้นเมืองของชาวอีสาน

ขณะเดียวกัน ได้แลกเปลี่ยนและรับฟังปัญหาเรื่องสวัสดิการการทำงาน นายพิธาขอบคุณชาวไทยในเกาหลี ที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ในการเลือกตั้งทั่วไปที่ผ่าwนมาเกาหลีใต้เป็นประเทศ 1 ใน 10 อันดับที่ชาวไทยออกมาเลือกตั้งมากที่สุด จึงถือโอกาสนี้เดินทางมาขอบคุณด้วยตัวเอง ในโอกาสที่เดินทางมานี้ แม้จะถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ตั้งใจมาเพื่อรับฟังปัญหาของพี่น้องแรงงานไทย เพื่อเสนอต่อพรรค และ สส.คนอื่นต่อไป ทั้งนี้ สำหรับนายพิธา จะบรรยายสาธารณะที่ห้อง 506 อาคารรัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกาหลี (Korea University) เวลา 18.00 น.วันที่ 6 ธ.ค.ในหัวข้อ “Towards a Brighter Horizon: Thai Democracy and the Future of Thai-Korea Relations”

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่