"เศรษฐา" ลุยงาน "อุตรดิตถ์" อ้อนชาวบ้าน แม้ตอนเลือกตั้งไม่ได้มา แต่วันนี้มาหาเพราะมีศักยภาพ จะทำให้ไม่เป็นเมืองรองอีกต่อไป ย้ำ "แก้หนี้นอกระบบ-แจกโฉนดที่ดิน 25 ล้านไร่" ทำให้ทุกคนมีเกียรติ หลุดพ้นจากการเป็น "ทาสยุคใหม่"
วันที่ 30 พ.ย. 66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตรวจเยี่ยมชมโครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก และติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในจังหวัดอุตรดิตถ์โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก รวมไปถึงโครงการแก้มลิง บึงมาย บึงกะโล่ บึงช่อ บึงหล่ม และโครงการอื่นๆ พร้อมกับ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
...
โดยทันทีที่เดินทางมาถึงนายกรัฐมนตรีได้ทักทายสวัสดีชาวบ้านชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ และรับช่อดอกไม้ ซึ่งเป็นดอกกุหลาบสีแดง
จากนั้น นายกรัฐมนตรี เดินไปรับฟังรายงานสถานการณ์น้ำในจังหวัดอุตรดิตถ์จากเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน บริเวณบูธจัดแสดง ขณะที่ นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดฯ กล่าวให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรี และคณะ
โดย นายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้ดีใจที่ได้มาพบปะประชาชน เพราะตอนหาเสียงไม่ได้มา วันนี้มาเป็นรัฐบาลแล้วก็ต้องมา ซึ่งอุตรดิตถ์เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงมากในเรื่องของการเกษตร เรื่องของการเชื่อมต่อของประเทศเพื่อนบ้านที่สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้
เรื่องแรก คือเรื่องของสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษยชน ก็คือเรื่องของอากาศสะอาด เมื่อวานได้พูดไปครึ่งวันที่จังหวัดเชียงใหม่ เกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งรัฐบาลตระหนักดี และเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่พี่น้องควรจะได้ ซึ่งรัฐบาลจะต้องทำ มาดูแลกำกับให้ดีขึ้น เช่นเดียวกับเรื่องการเผาป่าต้องไม่มี
เรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เข้าใจว่าพี่น้องหลายคนเป็นหนี้นอกระบบเยอะ จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่ดี ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ และต้องการให้ดีขึ้น โดยเรื่องดังกล่าวรัฐบาลให้ความสำคัญ คิดว่าหากใช้คำที่รุนแรง ก็คือ พี่น้องประชาชนกลายเป็นทาสยุคใหม่ เป็นทาสของเจ้าหนี้นอกระบบ ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องต้อง รัฐบาลก็ต้องมากำกับดูแลและแก้ไข โดยวันที่ 8 ธันวาคมนี้ได้ทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้มากำกับดูแลในสัญญาการกู้เงินที่ไม่เป็นธรรม และดอกเบี้ยที่ต้องถูกกฎหมาย มาทำให้ถูกต้อง
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เรื่องเดียวไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ต้องยกระดับทั้งหมด ต้องทำให้พี่น้องสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ หนี้ในระบบ ซึ่งอาจจะเกิดจากที่พวกท่านไม่มีเอกสารสิทธิที่จะสามารถกู้เงินในระบบได้ ในอัตราดอกเบี้ยที่สามารถทำมาหากินได้ เพราะฉะนั้นเรื่องของการมอบโฉนดที่ดินจำนวน 25 ล้านไร่ เป็นนโยบายของรัฐบาลนี้ ซึ่งรัฐบาลจะเริ่มต้นแจกภายในสิ้นปีนี้ และทยอยแจกไปตามจังหวัดต่างๆ เพื่อให้เกิดขึ้นได้
เรื่องต่อมาคือ เรื่องของพืชผลการเกษตร ก็ต้องเริ่มต้นจากสถานการณ์น้ำต้องไม่ท่วม ไม่แล้ง ต้องบริหารจัดการสถานการณ์น้ำให้ได้
เรื่องของด่านชายแดน ที่จะข้ามไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่ปัจจุบันยังไม่มีศุลกากร ในฐานะที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการการคลังก็จะมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ว่าต้องมีด่านศุลกากร ที่จะสามารถส่งพืชผลไปขายที่ประเทศจีนได้ โดยส่งผ่าน สปป.ลาว
โดยรัฐบาลจะทำให้จังหวัดอุตรดิตถ์ไม่ใช่จังหวัดทางผ่าน หรือจังหวัดเมืองรองอีกต่อไป ต้องมีการสร้างถนนที่ดีในการเชื่อมต่อไปยังจังหวัดต่างๆ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ รวมถึงอีกหลายหลายเรื่องที่รัฐบาลจะต้องทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น.