นายกฯลุย จ.สงขลา ตั้งโต๊ะที่ด่านสะเดา นำทีม รมต.ถก “อันวาร์ อิบราฮิม” จับมือ เพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนไทย-มาเลย์ ร่วมยกระดับพัฒนาพื้นที่ชายแดนสองประเทศ ตั้งคณะทำงานต่อยอดการค้า-ท่องเที่ยว-เกษตรและความมั่นคง ตั้งเป้าดันยอดการค้าทะลุ 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2025 “โรม” โต้ ก.ก.ไม่มีเลือกปฏิบัติ ชงกฎหมายนิรโทษฯช่วยพวกพ้อง เหน็บคนชั้น 14 รพ.ตำรวจมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น “อนุสรณ์” แขวะพรรคสีส้มพฤติกรรมสวนทางคำพูด มองคนเห็นต่างเป็นศัตรู จะขอเสียงหนุนหรือจะสุมไฟขัดแย้งรอบใหม่ “องอาจ” ขย่มเงินดิจิทัลฯล่าช้า เพราะรัฐบาลไร้ความพร้อม ไม่เกี่ยวข้ออ้าง เปิดใจรับฟังทุกฝ่าย
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ยังคงโหมทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้งติดตามงาน ในประเทศและต่างประเทศ เพื่อต่อยอดเพิ่มความ ร่วมมือและสร้างมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ ล่าสุด นายกฯนำคณะไปเจรจากับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซีย เพื่อร่วมกันพัฒนาพื้นที่ ชายแดนไทย-มาเลเซีย
“เศรษฐา” ควง รมต.ถกนายกฯมาเลย์
...
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 27 พ.ย. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เดินทางไปยัง ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ต.คลองหลา อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา เพื่อลงพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่ด่านสะเดา จ.สงขลา มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจ โกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศ ร่วมคณะ โดยเวลา 11.00 น. ที่หน้า อาคารสำนักงานด่านศุลกากรสะเดา (แห่งใหม่) อ.สะเดา จ.สงขลา นายเศรษฐาได้ให้การต้อนรับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซีย ในโอกาสเยือนไทยเพื่อเจรจาทำงานต่อยอดผลการเยือนมาเลเซียของนายเศรษฐา เมื่อวันที่ 11 ต.ค. โดยหารือ ทวิภาคีเต็มคณะร่วมกัน จากนั้นนายชัย วัชรงค์ โฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯชื่นชมการหารือความร่วมมือที่ต้องขับเคลื่อนให้เกิดผลทางการค้า เพื่อพัฒนาชายแดนและยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนตามชายแดนทั้ง 2 ประเทศ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้จัดตั้งคณะทำงาน ไทยจัดตั้งคณะทำงาน 4 ด้าน คือ การค้าและการค้าชายแดน การท่องเที่ยว การเกษตร และความมั่นคง
ดันตั้งกรมฮาลาล-เพิ่มมูลค่าการค้า
นายชัยกล่าวอีกว่า นายกฯ เสนอแนวทางเพิ่มพูน การค้าและการลงทุน ขอให้มาเลเซียเป็นเจ้าภาพประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า ระดับรัฐมนตรีพาณิชย์ เป็นเวทีหารือความคืบหน้าและแก้ไขปัญหาที่คั่งค้างระหว่างกัน ขอให้เร่งรัดบันทึกความเข้าใจว่า ด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างไทย-มาเลเซีย ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหอการค้าระดับท้องถิ่น ให้วางแผนร่วมกันเพิ่มมูลค่าการค้า การท่องเที่ยวและการพัฒนาบริเวณชายแดน ด้านการท่องเที่ยว ขอให้มาเลเซียช่วยอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวไทย ด้านการเกษตร รัฐบาลไทยมีแผนจัดตั้ง “กรมฮาลาล” อยู่ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม จะประสานความร่วมมือกับหน่วยงานของมาเลเซีย เพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านอาหารฮาลาล ด้านความมั่นคงชายแดน และมุ่งมั่นร่วมกันแก้ไขปัญหาการค้าสัตว์ป่าเถื่อนข้ามชายแดน ด้านโครงการก่อสร้างเชื่อมโยงชายแดน มุ่งหวังให้มีโครงการเชื่อมโยงตามแนวชายแดน ส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยว ต่อมานายกฯไทยและมาเลเซียเดินทางไปสำรวจจุดเชื่อมถนน เพื่อเชื่อม ด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย ต่อมานายกฯเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันแก่นายกฯมาเลเซียที่โรงแรม Vista จากนั้นช่วงบ่าย ได้ไปสำรวจด่านบูกิตกายูฮิตัมในฝั่งมาเลเซีย
ดันปี 2025 การค้าพุ่ง 30 ล้านเหรียญฯ
เมื่อเวลา 15.10 น. นายเศรษฐาทวีตข้อความผ่าน X ถึงการพบกับนายกฯมาเลเซียว่า “การเยือนมาเลเซียเป็นทางการครั้งที่ผ่านมา ผมและนายกฯ มาเลเซียเห็นตรงกันว่าทั้ง 2 ประเทศ มีศักยภาพการค้าขายระหว่างกันมากกว่าที่เป็นอยู่ ตั้งใจผลักดัน ให้ตัวเลขการค้าระหว่างกันสูงขึ้น เพื่อไปให้ถึงเป้าที่ 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่งมูลค่าการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย รัฐบาลได้ Launch โครงการ One Stop Service CIQ ที่ด่านสะเดา จ.สงขลา เป็นจุดแรก พร้อมขอให้ฝ่ายมาเลเซียเร่งรัดโครงการความเชื่อมโยงชายแดนให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวบริเวณ ชายแดน โดยถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่ จ.สงขลา-ด่านบูกิตกายูฮิตัม รัฐเคดาห์ ให้เสร็จในปี 2568 หากสร้างเสร็จจะผันรถสินค้าจากมาเลเซียจากด่านเก่า ไปยังด่านสะเดาใหม่ได้ทันที จะลดการจราจรแออัดหน้าด่านลงได้ และสะพานสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส-รันเตาปันยัง แห่งที่ 2 รัฐกลันตัน ให้เสร็จในปี 2569”
เซ็นตั้งทีมพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 27 พ.ย.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง ลงนามในคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 344/2566 แต่งตั้งนายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะรักษาการเลขาธิการ สมช. เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ และตั้งคณะพูดคุยสันติสุขฯ ประกอบด้วย เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม ขณะที่ผู้แทน สมช.และผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 เป็นคณะพูดคุยและเลขานุการร่วม
“ฉัตรชัย” รับสานต่องานเจรจา
นายฉัตรชัย บางชวด รักษาการเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงกรณีได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า งานที่ได้รับมอบหมายเป็นงานท้าทาย จะสานต่อการทำงานของชุดที่ผ่านๆมา นำไปสู่แผนสันติภาพ ถือว่าเป็นจุดที่ยาก ที่ผ่านมาเป็นการสร้างความไว้วางใจและทำได้ค่อนข้างดี บรรยากาศดีขึ้น หลังจากนี้ไปจะเป็นการลงในสารัตถะ ว่าต้องการอะไร หรือมีอะไรแลกเปลี่ยน ถือว่ายากขึ้นกว่าเดิม ขณะเดียวกันต้องพูดคุยกับกลุ่มผู้ก่อเหตุทุกกลุ่ม ทั้งปีกทหารที่คุมกำลังก่อเหตุและปีกการเมือง
ไปสุโขทัยตรวจน้ำรับมือน้ำท่วม
ต่อมาเวลา 16.15 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กทม. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง พร้อม พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา เดินทางไปยังท่าอากาศยานสุโขทัย ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย เพื่อร่วมพิธีเผาเทียน ชมการแสดง แสง เสียงและร่วมพิธีลอยพระประทีปพระราชทาน มี น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช ที่ปรึกษา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมคณะ โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ ก่อนร่วมพิธีเผาเทียนฯ นายกฯนั่งรถตู้โฟล์ค ทะเบียน ฮอ 7743 กรุงเทพ มหานคร ไปลงพื้นที่ตรวจราชการโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งและการซ่อมบำรุงจากอุทกภัย ที่สะพานข้ามแม่น้ำยม ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง แล้วไปยังสวนสาธารณะสำนักงานเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี สะพานพระร่วง ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย รับฟังบรรยายสรุปการขอรับความช่วยเหลือโครงการป้องกันอุทกภัย จ.สุโขทัย และทักทายประชาชนที่มาต้อนรับ
แวะบ้านใหญ่รับเสื้อบอลเบอร์ 30
นายกฯกล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพี่น้องชาวสุโขทัย ได้ไปกับนายสมศักดิ์หลายที่ ส่วนมากดูปัญหาเรื่องน้ำ นายสมศักดิ์ดูแลกำกับเรื่องน้ำ น้ำท่วมถือเป็นเรื่องสำคัญ ท่านได้รับการสั่งการจากตนให้ดูแลเรื่องนี้ให้ดี เพราะปัญหาน้ำท่วมมีทุกปี และเรามีโบราณสถานที่ สำคัญไม่อยากให้เกิดความเสียหายจึงฝากนายสมศักดิ์ไว้อย่างดีแล้ว
จากนั้นนายกฯเดินทางมายังบ้านพักนายสมศักดิ์ โดยมี พญ.พักตร์พิไล นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ภริยานายสมศักดิ์ พร้อมนักฟุตบอลจากสโมสรสุโขทัยเอฟซีต้อนรับ โดยหัวหน้าทีมได้มอบเสื้อของทีมหมายเลข 30 ให้นายกฯเป็นที่ระลึกพร้อมถ่ายภาพร่วมกัน
“สมศักดิ์” มอง ก.ก.แค่ตีปี๊บนิรโทษฯ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เดินสายขอเสียงสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า เรื่องร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นเรื่องของ สส.ในสภาฯ นายชัยธวัชคงไม่ได้ไปขอการสนับสนุนหรอก เพียงแต่ไปตีฆ้องร้องป่าวว่ากระทำสิ่งโน้นสิ่งนี้ แต่ทุกพรรคการเมืองก็ทำเหมือนกัน เพราะทำอะไรต้องบอกประชาชน แต่เรื่องของ พ.ร.บ.และเรื่องของ พ.ร.ก.ต้องเกี่ยวกับสภาฯเท่านั้น แต่ในส่วนอื่นๆที่ไปประกาศบอก เป็นเรื่องของการเมืองจะเป็นอย่างนี้แหละ เมื่อถามว่าจะนำไปสู่การปรองดองได้จริงหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่ได้รับผิดชอบโดยตรง เมื่อถามย้ำว่าอาจมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการพ่วงมาตรา 112 นายสมศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ ไม่ได้รับผิดชอบ
“อนุสรณ์” ติงอย่ามองคนเห็นต่างคือศัตรู
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกลตอบโต้ว่ากล่าวหาให้ร้ายพรรค ก.ก.เลือกปฏิบัติ เอื้อพวกพ้องกรณีขอเสียงสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า ไม่มีเนื้อหาใดตอนใดที่ไปกล่าวหาพรรค ก.ก.ประเด็นนี้ เพียงแต่บอกว่ามีประชาชน สื่อมวลชน ตั้งคำถาม พร้อมแนะนำว่า การคืนความยุติธรรมต้องทำอย่างเสมอภาคเท่าเทียมไม่เลือกปฏิบัติ และต้องไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่หรือทำตัวเป็นคู่ขัดแย้งเสียเอง ถ้าทำได้เป็นสิ่งที่ดีมิใช่หรือ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค ก.ก. ไปนั่งฟังพุทธะอิสระได้ตั้งนานสองนาน ไม่เกิดปัญหาอะไร ตอนออกเดินสายขอเสียงสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมบอกว่าพร้อมรับฟังทุกฝ่าย แต่พอมีข้อเสนอแนะบางประเด็นที่ไม่ถูกใจ กลับเปิดใจรับฟังไม่ได้ แบบนี้มันย้อนแย้งสวนทางหรือไม่ เหมือนกรณีการโหวตนายกฯที่นักวิชาการตั้งข้อสังเกตว่าพรรค ก.ก. จะไปขอเสียงสนับสนุนจาก สว.ได้อย่างไร ในเมื่อมีทัศนคติทางลบต่อ สว.มาตั้งแต่ต้น การทำงาน การเมืองบางครั้งต้องแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง ไม่มองคนคิดไม่เหมือนตัวเองว่าเป็นศัตรูไปเสียหมด
แซะจะขอเสียงหนุนหรือจุดไฟขัดแย้ง
“เรื่องบางเรื่องอาจจะสะใจ ที่ได้เหน็บแนมประชดประชัน แต่ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร ไหนบอกว่าจะมาแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ทำไมไม่ไปแก้ ถ้าทำได้แค่นี้ การกระทำสวนทางกับคำพูดหรือไม่ ตกลงจะมาขอเสียงสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือจะมาแสวงหาความขัดแย้งรอบใหม่เอาให้ชัด อันนี้ถาม ไม่ได้กล่าวหา” นายอนุสรณ์กล่าว
“โรม” โต้ไม่เลือกปฏิบัตินิรโทษกรรม
ที่พรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก.กล่าวตอบโต้นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.วิจารณ์หัวหน้าพรรค ก.ก.เดินสายคุยแนวทางนิรโทษกรรมกับอดีตพระพุทธะอิสระ ไม่ควรมีผลประโยชน์แอบแฝงเพื่อพวกพ้องว่า ร่างพรรค ก.ก.ไม่มีเลือกปฏิบัติ ทุกคนที่เข้าเงื่อนไขล้วนรับสิทธินิรโทษกรรม แม้แต่คนของพรรค พท.เอง หลายคนไม่ได้รับสิทธิพิเศษเหมือนคนชั้น 14 หลายคนถูกดำเนินคดี กลั่นแกล้งทางการเมือง น่าเสียดายที่ไม่เคยได้เห็นพรรค พท.ออกมาเคลื่อนไหว ปกป้อง เรียกร้องความเป็นธรรมให้คนเหล่านี้
เหน็บคนชั้น 14 อภิสิทธิ์เหนือใคร
“มีคนเดียวที่เหมือนจะได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด คือคนที่อยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ การนิรโทษกรรมของพรรค ก.ก.คือการคืนความเป็นธรรมให้คนรุ่นใหม่ คนเสื้อแดง ผู้เรียกร้องประชาธิปไตยทั้งหมด ไม่เหมือนการเลือกปฏิบัติให้อดีตนายกฯ หรือเป็นเครื่องต่อรองทางการเมือง เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง การกล่าวหาว่าพรรค ก.ก.เลือกปฏิบัติไม่เป็นความจริง ใส่ร้ายทางการเมือง ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง นายอนุสรณ์เป็น สส.ควรไปดูเนื้อหาสาระร่างกฎหมายก่อน ถ้าไม่รู้ไม่ควรพูด” นายรังสิมันต์กล่าว
“องอาจ” ขยี้เงินดิจิทัลฯไม่พร้อมถึงช้า
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการยื่นร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาล่าช้า เพราะรัฐบาลรับฟังความเห็นทุกฝ่ายว่า ความล่าช้าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการรับฟังความเห็นทุกฝ่าย เพราะรัฐบาลไม่ได้เตรียมความพร้อมศึกษามาอย่างละเอียดรอบคอบ ตั้งแต่ประกาศเป็นนโยบายสำคัญใช้หาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา พอมาเป็นรัฐบาลจึงไม่สามารถลงมือทำทันที ยังมะงุมมะงาหรา ไม่รู้จะเดินหน้าอย่างไร ทั้งแหล่งที่มาของเงิน ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะกู้เงินหรือใช้งบฯปกติ หรือใช้เงินธนาคารออมสิน วิธีการไม่ชัดเจนว่าจะใช้แบบไหน การแจกเงินดิจิทัลจะผิดกฎหมายหรือไม่
ฉะลูกหาบ พท.ดิ้นดังถูกน้ำร้อนลวก
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. กล่าวถึงกรณีนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.กล่าวพาดพิงนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. กรณีให้สัมภาษณ์เตือนนายกฯว่า การรับฟังความเห็นต่างด้วยเหตุผลเป็นสิ่งควรทำ หลายเรื่องที่นายกฯทำหน้าที่ไม่ถูกต้อง คำท้วงติงจากทุกฝ่ายรวมถึงฝ่ายค้านคือเสียงที่ต้องรับฟัง สมาชิกพรรค พท.อย่าดิ้นเหมือนโดนน้ำร้อนลวก การแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจหลักฐานชัดเจนที่เกิดจากคำพูดของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯเอง เมื่อเกิดผิดพลาดควรยอมรับการตรวจสอบ ประชาชนเข้าใจสาระในคำพูดทั้งหมดว่านายกฯพูดหมายความว่าอย่างไร มีแต่สมุนนายกฯเท่านั้นที่แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ เรื่องนี้จะมีการตรวจสอบกันต่อไป ถ้านายเศรษฐาบอกว่าไม่อยากเป็นนายกฯ ควรลาออก อย่าให้ใครมาคอยสั่งการอยู่ข้างหลัง ขณะนี้ไม่มีใครมองว่านายเศรษฐาเป็นนายกฯตัวจริงอยู่แล้ว นายชวนเป็นนายกฯมา 2 สมัย ประธานสภาฯ 2 สมัย มีประสบการณ์ให้ความคิดความเห็นอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ดำรงตนทางการเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่เคยทุจริต ไม่เคยหนีคดี ฉะนั้นควรรับฟัง
อัด รบ.เพื่อไทยเอื้อประโยชน์ “ทักษิณ”
นายราเมศกล่าวว่า “พรรค ปชป.ไม่มีใครสั่งซ้ายหันขวาหัน หรือจะมาสั่งให้ใครมาเป็นหัวหน้าได้ ควรแยกให้ออก คิดให้เป็น ปชป.ไม่มีใครเป็นเจ้าของ การแข่งขันเป็นปกติตามระบบประชาธิปไตยในพรรค ไม่มีหัวหน้าโจรคอยสั่งการ นักการเมืองที่ดีจะมีมารยาท ไม่ไปก้าวก่ายกิจการภายในของพรรคอื่น พรรค พท. เลือกหัวหน้าพรรคได้ลูกสาวนายทักษิณ ชินวัตร มาเป็นหัวหน้าพรรค ถือว่าเป็นเรื่องภายในไม่วิพากษ์วิจารณ์ ท้ายที่สุดทางการเมืองบทพิสูจน์คือภาคปฏิบัติในการทำหน้าที่ วันหนึ่งถ้าหัวหน้าพรรค พท. เป็นผู้บริหารบ้านเมือง สังคมจะเฝ้าดูว่าจะมีคดีทุจริตเหมือนคุณพ่อ ต้องหนีคดีเหมือนอายิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่ ถ้าทำดีถือว่าเป็นข้อแตกต่างจากตระกูล ต้องใช้เวลาพิสูจน์ นายอนุสรณ์เป็น สส. ประชาชนฝากการบ้านให้ช่วยตั้งกระทู้ถามสดในสภาฯถามนายกฯให้ตอบว่าการควบคุมตัวนายทักษิณ ชินวัตร ยังใช้กฎหมายระเบียบเดียวกับนักโทษคนอื่นหรือไม่ เลือกปฏิบัติหรือไม่”
“วันชัย” ดักคอ รบ.เตะถ่วงแก้ รธน.
ที่รัฐสภา นายวันชัย สอนศิริ สว.ในฐานะรองประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์และประธานกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นต่างเรื่องรัฐธรรมนูญ ปี 2560 เตรียมเสนอให้สภาฯส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 การให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความประเด็นดังกล่าว เพราะมีประเด็นเคยส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความโดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความมาแล้ว คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า หากจะแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับโดย ส.ส.ร. ต้องถามประชาชนก่อนว่าเห็นด้วยหรือไม่ ที่รัฐบาลจะสอบถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าควรทำประชามติกี่ครั้ง อย่างน้อย 2 ครั้งไม่ควรเกิน 3 ครั้ง คือครั้งแรกก่อนแก้รัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 2 เมื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญกระทบต่อเงื่อนไขมาตรา 256 เป็นก่อนการลงมติว่าจะเห็นชอบหรือไม่ในวาระสาม และครั้งที่ 3 หลังได้รับความเห็นชอบทั้งฉบับโดยรัฐสภาแล้ว ที่รัฐบาลพยายามเพิ่มประเด็นทั้งการแก้ พ.ร.บ.ประชามติ การส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ มองว่ารัฐบาลมีเหตุผลทางการเมืองที่ไม่จำเป็นต้องรีบแก้รัฐธรรมนูญ
ให้เช็กเบี้ยชรา-พิการผ่านแอป “ทางรัฐ”
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โถงหน้าห้องประชุมราชบพิธ อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานเปิดบริการตรวจสอบเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยความพิการ บนระบบพอร์ทัลกลางเพื่อประชาชนหรือแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” มีนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ และนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย เข้าร่วม นายอนุทินกล่าวตอนหนึ่งว่า แอป “ทางรัฐ” เป็นความตั้งใจตามนโยบายรัฐบาลที่ปรับเปลี่ยนการบริหารประเทศให้เข้าสู่ยุคดิจิทัล นำข้อมูลเข้าสู่ระบบออนไลน์ เพื่อความโปร่งใส สะดวกสบายแก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่นางพวงเพ็ชรกล่าวว่า บริการเช็กเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการในแอป “ทางรัฐ” สะท้อนถึงการก้าวสู่องค์กรดิจิทัลที่รัฐบาลผลักดันให้เป็น “ซุปเปอร์แอปของภาครัฐ” ทำให้ชีวิตคนไทยง่ายขึ้นมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
กกต.เปิดสถิติคดีเลือกตั้งลบครหา
วันเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกเอกสารเผยแพร่สถิติคำร้องสำนวน การวินิจฉัย และการดำเนินคดีการเลือกตั้ง สส.ปี 2562 กับปี 2566 พบการเลือกตั้ง สส.ปี 2562 มีคำร้องความปรากฏข้อมูลเบาะแส 592 เรื่อง ขณะที่การเลือกตั้ง สส.เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2566 พบมีคำร้องความปรากฏ ข้อมูลเบาะแส 365 เรื่อง แบ่งเป็นคำร้อง 283 เรื่อง ความปรากฏ 41 เรื่อง ข้อมูลเบาะแส 41 เรื่อง ดำเนินการเสร็จแล้ว 288 เรื่อง แยกเป็นการพิจารณาคำร้อง 240 เรื่อง สั่งไม่รับ 159 เรื่อง สั่งยุติเรื่อง 81 เรื่อง ยังไม่มีเรื่องส่งดำเนินคดีอาญา ส่วนการวินิจฉัยชี้ขาด 48 สำนวน ยกคำร้อง 43 สำนวน ดำเนินคดีอาญา 3 สำนวน ยื่นคำร้องต่อศาล 2 สำนวน อยู่ระหว่างดำเนินการ 77 เรื่อง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่ กกต.พยายามออกเอกสารชี้แจงดังกล่าวเนื่องจากถูกกดดันว่าพิจารณาคดีเลือกตั้งล่าช้า และแจกใบเหลืองใบแดงให้กับผู้สมัคร สส.เท่านั้น
เด็กเก่าค่ายส้มยื่นฟ้อง “แจ้” หมิ่น
ที่ศาลจังหวัดปราจีนบุรี อ.เมืองปราจีนบุรี นายสุเมธ เหรียญพงษ์นาม อดีตสมาชิกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วยนายชำนัญ ศิริรักษ์ ทนายความ เข้ายื่นฟ้องนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา หรือแจ้ สส.ปราจีนบุรี อดีตสมาชิกพรรค ก.ก. ฐานหมิ่นประมาทกรณีที่นายวุฒิพงศ์กล่าวหานายสุเมธทุจริตซื้อขายที่ดินในโครงการบ่อขยะ โดยนายชำนัญ ศิริรักษ์ ทนายความ เผยว่า ยื่นฟ้องนายวุฒิพงศ์ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เบื้องต้นรวบรวมหลักฐานกระทำความผิดได้ 4 ครั้ง มีเทปบันทึกการสนทนาใส่ร้ายหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
