"โรม" ย้ำ ปม "ตั๋วเพื่อไทย" ขอนายกฯ สะท้อนระบบอุปถัมภ์ ยัน ผิดกฎหมาย

"โรม" สส.บัญชีรายชื่อ ก้าวไกล ตอกย้ำ ปมตั๋วเพื่อไทย เชื่อ นายกฯ เศรษฐา เกี่ยวข้องแต่งตั้งโยกย้ายผู้กำกับ และมี สส.ฝากจริง อยู่ระหว่างตรวจสอบเพื่อเอาผิด บอก ขอหารือใน กมธ.ก่อน จะมีการตรวจสอบร่วมด้วยหรือไม่ 

วันที่ 22 พ.ย. 2566 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึง กรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง กล่าวในที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ในการขอตำแหน่งผู้กำกับเมื่อวานนี้ ว่า ชัดเจนในเรื่องตั๋วยังมีอยู่ และเรื่องนี้มีปัญหาจริง ปกติตั๋วจะไม่มีใบเสร็จหรือหลักฐานที่เป็นเอกสารราชการในการยืนยันสิ่งเหล่านี้ เพราะส่วนมากจะเป็นการโทรฝากกัน แต่คนที่เป็นระดับนายกฯ พูดในที่ประชุม สส. ไม่สามารถมองเป็นอย่างอื่นได้ว่า มี สส.ของพรรคเพื่อไทย มาขอ นายเศรษฐา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายแน่นอน และไม่ใช่ผิดกฎหมายอย่างเดียว แต่ยังสะท้อนถึงระบบอุปถัมภ์ที่อยู่ภายใต้รัฐบาล นายเศรษฐา ตอนหาเสียงประกาศว่าจะไม่ยอมรับ รวมถึงจัดการระบบเส้นสาย แต่กลับพูดออกมาได้อย่างหน้าชื่นตาบานว่า มีผู้กำกับบางคนที่ผิดหวัง บางคนก็สมหวัง ซึ่งฟังได้ว่ามี สส.ฝากมา สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เลวร้ายของตำรวจชั้นผู้น้อย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหากไม่มีเส้นสาย ก็จะไม่สามารถเติบโตได้ ซึ่งกังวลว่าในประเด็นดังกล่าว อาจจะขยายผลไปถึงการซื้อขายตำแหน่งข้าราชการในระดับอื่นๆ ด้วย

...

“จากการฟังคำพูดของนายกฯ ฟังเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ดังนั้นคำสัญญาที่นายตำรวจพูดกับผมตอนที่ไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งยืนยันว่าไม่มีตั๋ว แต่สิ่งที่นายกฯ พูดนั้นชัดเจน ไม่ต้องบิดเป็นคำพูดอื่น เพราะชัดเจนว่า นายเศรษฐา เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายจริง บางคนอาจถามว่า มีหลักฐานเพื่อเอาผิดนายกฯ ผมขอบอกว่า การฝากแต่งตั้งนายตำรวจไม่สามารถหาเอกสารทางราชการได้ เพราะใช้การสนทนาทางโทรศัพท์ต่อสายเพื่อฝากได้ ดังนั้น คำพูดของนายกฯ ที่ผมเชื่อว่าเป็นการแฉตัวเอง หรือการหลุด ชัดเจนว่าจะฟังได้ว่าการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจมีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้นในขณะนี้” นายรังสิมันต์ กล่าว...

เมื่อถามว่า มองหรือไม่ว่าการพูดของนายกฯ ไม่ได้มีเจตนา แต่พูดดักทางไว้ก่อน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่มองเช่นนั้น เพราะท่าทีของนายกฯ ไม่ต้องการห้ามปราบ และจากที่ฟังคำพูดของนายกฯ หลายรอบว่า มีการขอมาเยอะ ชัดเจนอย่างยิ่ง ว่าคือการขอมาโดย สส.เพื่อไทย เพราะพูดต่อที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณว่าต้องมีตั๋วเพื่อไทยหรือไม่ เพื่อได้เป็นตำรวจในระดับที่สูงขึ้น ได้ตำแหน่งการงานที่ดีขึ้น

ถามว่า จะมีการตรวจสอบเพื่อยื่นเอาผิดทางกฎหมายใดหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบในเชิงข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงประกอบด้วย เบื้องต้นพบว่า คำพูดของนายกฯ นั้นเข้าข่ายผิดจริยธรรม, พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ และรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 ซึ่งขณะนี้พยายามรวบรวมข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยมีผู้เชี่ยวชาญทุกส่วนช่วยตรวจสอบ และพยายามให้สายลับจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำข้อมูลความจริงเพื่อนำไปสู่การตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้ มองว่าเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับนายกฯ คนเดียว เพราะนายกฯ พูดเองว่าขอเยอะ ดังนั้นตามกระบวนการเชื่อว่ามี สส.เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ดี กรณีดังกล่าวยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะนำไปสู่ประเด็นที่จะนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่

เมื่อถามถึงกรณีที่กรรมาธิการการตำรวจของสภาฯ จะตรวจสอบเรื่องดังกล่าว จะร่วมเข้าไปตรวจสอบด้วยหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องหารือในที่ประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศอีกครั้ง ในวันที่ 23 พ.ย. เพราะการตรวจสอบใดๆ ต้องเป็นเรื่องที่ กมธ.ต้องพิจารณาร่วมกัน.

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘อีลอน มัสก์’ หนุน ‘ทรัมป์’ พนักงานบริจาคให้‘แฮร์ริส’

ข้อมูลจากโอเพนซีเคร็ตส์ องค์กรไม่หวังผลกำไรไม่แบ่งฝักฝ่าย ผู้ติดตามข้อมูลการบริจาคเงินหาเสียงและการล...

สหภาพแรงงาน Teamsters ไม่หนุน'ทรัมป์-แฮร์ริส'

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สหภาพแรงงานทีมสเตอร์สมีสมาชิกกว่า 1.3 ล้านคน เป็นตัวแทนของกลุ่มคนขับรถบร...

ครึ่งแรกปี67จีนครองแชมป์ซื้อคอนโดเมียนมาซิวเบอร์สองแซงรัสเซีย2ปีซ้อน

วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป...

อสังหาฯ แบกสต็อกอ่วม 1.57 ล้านล้าน เอ็นพีแอลพุ่ง ‘ทุกตลาดติดลบหนัก’

นายกสมาคมอาหารชุด หวังเร่งแก้นอมินีต่างชาติในตลาดบ้านมูลค่า 1 ล้านล้านบาท จัดเก็บภาษี หวังแบงก์ชาติล...