'โรม' ซัด 'เศรษฐา' ไฉนฝาก ตร.ทำเหมือนเรื่องปกติ บี้ใครได้ 'ตั๋ว สร.1' บ้าง

เมื่อช่วงดึกคืนวันที่ 21 พ.ย. 2566 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชั่น X (ทวิตเตอร์) ถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงหนึ่งในการประชุม สส.เพื่อไทย เมื่อวันที่ 21 พ.ย. สรุปใจความได้ว่ามีการขอตำแหน่งผู้กำกับการสถานีตำรวจ ว่า เรื่องตั๋วตำรวจที่นายกฯ เศรษฐาพูดออกมาในทำนองว่ามี สส.พรรคเพื่อไทยฝากกันมาเยอะ เป็นเรื่องที่ผิดทั้งรัฐธรรมนูญ  ผิดจริยธรรมนักการเมือง และมีความผิดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ เหตุใดเป็นถึงนายกฯ กลับทำเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ ทั้งๆ ที่เป็นการใช้เส้นสายและผิดกฎหมาย ยังไม่นับว่าตำรวจอีกมากที่ไม่ใช้เส้นสาย จะช้ำใจและเสียใจมากขนาดไหน ครอบครัวของเขาอีกหลายคนที่ได้รับผลกระทบ 

“รัฐบาลนี้เริ่มต้นไม่ทันไร ก็ทำให้ระบบเส้นสายเติบโตเสียแล้ว ไม่แปลกที่เราถึงได้เห็นองค์กรตำรวจเป็นแบบนี้ นี่ใช่มั้ยถึงไม่อยากใช้คำว่าปฏิรูป นี่ใช่มั้ยถึงไม่กล้ามาตอบกระทู้ในสภา น่าผิดหวังมาก ผิดหวังแทนตำรวจชั้นผู้น้อยที่ไม่มีเส้นสาย” นายรังสิมันต์ ระบุ

นายรังสิมันต์ ระบุอีกว่า เรื่องนี้จะต้องตรวจสอบกันอย่างแน่นอน นายกฯ เศรษฐาอย่าได้หนีการตรวจสอบ และเอาความจริงมาพูดว่าตกลงฝากใครไปบ้าง ผู้กำกับคนไหนได้ตั๋ว สร.1 หรือตั๋วนายกฯ หรือตั๋วเพื่อไทย และตนขอเรียกร้องไปยังพี่น้องตำรวจช่วยกันส่งเรื่องนี้มาให้ ยืนยันจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้นิ่งเงียบเด็ดขาด

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ช่วงปลายเดือนกันยายน ซึ่งกำลังมีการคัดเลือก ผบ.ตร. คนใหม่ เกิดข่าวคราวความไม่โปร่งใสในวงการตำรวจจำนวนมาก มีเสียงสะท้อนจากประชาชนต้องการให้เกิดการสังคายนาตำรวจอย่างจริงจัง แต่ ณ เวลานั้น นายกฯ เศรษฐา กลับบอกว่าไม่ควรใช้คำว่าสังคายนา เพราะตำรวจเป็นองค์กรที่มีเกียรติ 

นายรังสิมันต์ ระบุด้วยว่า การสังคายนาตำรวจมีความจำเป็นมาก ไม่ใช่การลดเกียรติตำรวจ แต่เป็นการทำให้ตำรวจที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา สามารถทำหน้าที่อย่างมีศักดิ์ศรีได้ มีที่อยู่ที่ยืนในองค์กรตำรวจได้ ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อองค์กรตำรวจ การปล่อยสถานการณ์ไว้เป็นแบบปัจจุบัน มีแต่ทำให้องค์กรตำรวจถูกกลืนกินด้วยอำนาจมืด ผู้ที่เป็นนายกฯ จะไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบใดๆ ต่อความล้มเหลวในการปฏิรูปตำรวจได้เลย 

จึงเรียกร้องต่อนายกฯ เศรษฐา ให้เร่งปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจัง และในอนาคตเมื่อมีการเลือก ผบ.ตร. อีกครั้ง ก็ควรใช้วิธีดังต่อไปนี้ โดยอาศัย พ.ร.บ. ตำรวจปัจจุบันเพื่อประกอบการใช้ดุลพินิจของนายกฯ 

  1. รอง ผบ.ตร. ที่ประสงค์จะเป็น ผบ.ตร. ให้ยื่นความจำนงต่อกรรมการที่นายกฯ ตั้งขึ้น พร้อมพอร์ตโฟลิโอผลงานต่างๆ
  2. ให้มีการแสดงวิสัยทัศน์สาธารณะ ให้ประชาชนได้เห็นว่าคุณมีวิสัยทัศน์อะไร ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ที่จะเป็น ผบ.ตร. มีแผนพัฒนาตำรวจอย่างไร โดยเฉพาะภายใต้กรอบระยะเวลาที่ตนเองเหลืออยู่
  3. ทำแพลตฟอร์มออนไลน์ให้พี่น้องตำรวจสามารถลงทะเบียนเพื่อโหวตเลือก ผบ.ตร. ได้ เพื่อให้นายกฯ ทราบว่าตำรวจส่วนใหญ่อยากให้ใครเป็น ผบ.ตร. โดยแพลตฟอร์มจะไม่สามารถระบุตัวตนตำรวจที่โหวต รู้แค่ว่าเป็นตำรวจ ซึ่งสามารถทำได้ในปัจจุบัน 


ทั้ง 3 ข้อนี้จะนำไปสู่การติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกต้อง ให้ ผบ.ตร. รวมถึงตำรวจทุกตำแหน่ง ไม่ได้มาจากเส้นสาย ไม่ได้มาจากตั๋ว ไม่ได้มาจากการซื้อ เพื่อปูทางสู่การสร้างตำรวจที่จะต่อสู้กับอำนาจมืดทุกรูปแบบ

ข้อมูลจากทวิตเตอร์: รังสิมันต์ โรม

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...