รองนายกฯ "สมศักดิ์ เทพสุทิน" ชี้ "อิ๊งค์" แพทองธาร ลงพื้นที่ ไม่มีอะไรมากกว่าพบประชาชน เผย นายกฯ เตรียมลง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 27 พ.ย.นี้ บอก เงื่อนไขหากพูดคุยจบ ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ยาก
วันที่ 21 พ.ย. เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ กล่าวถึงการลงพื้นที่ภาคเหนือของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่มีการพบปะกับบ้านใหญ่ ที่ถูกมองว่าอาจเป็นการเตรียมตัวเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า น.ส.แพทองธาร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต้องรู้จักพื้นที่ในทุกจังหวัด ประกอบกับการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ลงพื้นที่หาเสียง ก็อยากที่จะไปเยี่ยมเยียนพื้นที่ตรงนั้นด้วยในฐานะรับตำแหน่งใหม่ ขณะที่จังหวัดอุตรดิตถ์ มีการเปิดสาขาพรรคเพื่อไทย ก็ถือว่าเหมาะสมที่จะพบปะประชาชน และเป็นงานที่หัวหน้าพรรครับผิดชอบซอฟต์พาวเวอร์ด้วย ก็ต้องไปรับทราบข้อมูล ยืนยันว่า การลงพื้นที่ของ น.ส.แพทองธาร ไม่มีอะไรมากกว่าการพบปะประชาชนและการสร้างงาน เมื่อถามว่าเป็นการปูทางเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่วันนี้ ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งพอสมควร เพราะวันนี้เรามี นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ทำงานดีอยู่แล้ว และต้องทำงานต่อไปอีกยาวๆ ไม่ใช่แค่วันนี้หรือพรุ่งนี้ ขออย่าไปแซว ไปพูดหรือไปคุยในเรื่องเหล่านี้ คิดว่าไม่ใช่เรื่องสร้างสรรค์
...
นายสมศักดิ์ ยังให้สัมภาษณ์ กรณีที่ทางคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพ เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถามหารองนายกรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบฝ่ายความมั่นคง ว่า ตนไม่เห็นว่ามีใครพูดว่าต้องเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง แต่การแบ่งงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ออกมา ตนก็นั่งในคณะกรรมการหลายชุด ทำงานสอดประสานกับรองนายกฯ ท่านอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไร ส่วนการพูดคุยสันติสุขชายแดนภาคใต้ เป็นกรอบของรัฐบาลเดิมที่ทำไว้และยังไม่สำเร็จ ตนเห็นว่า การแก้ปัญหาในภาพรวม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากได้พูดคุยก็จะเป็นแนวทางที่ถูกต้อง ถูกใจทุกฝ่าย ตนมั่นใจว่าแนวทางที่ได้ศึกษามาในระยะสั้นๆ ได้เห็นแนวทางที่จะทำให้ 3 จังหวัดชายแดนใต้เดินไปสู่สันติภาพได้อย่างไร และในวันที่ 27 พ.ย.นี้ นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ภาคใต้ และลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อไปดูเรื่องสายสัมพันธ์การบ้านการเมืองกับประเทศมาเลเซีย จะเป็นที่ทำให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความใส่ใจในเรื่องการแก้ไขปัญหา
เมื่อถามถึงแนวโน้มที่จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งหมด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าคุยกันจบเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ใช่เรื่องที่ซีเรียส การที่ยังคงเอาไว้เพราะการพูดคุยยังไม่จบ จึงต้องเอาเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาปะทะไว้ แต่ถ้าเขาคุยกันลงตัวทุกอย่างจบ และการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งหมดจะเป็นลำดับสุดท้าย ซึ่งตนอยากใช้แนวทางนี้มากกว่าการยกเลิกเพียง 1-2 อำเภอ เมื่อถามว่า คำสั่ง คสช.ที่ยังค้างอยู่ มีอุปสรรคต่อการทำงานอะไรเกี่ยวกับ ศอ.บต. ที่นายสมศักดิ์กำกับในการแก้ปัญหาภาคใต้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรมากมาย เพียงแต่ความเป็นประชาธิปไตย จะต้องมีอะไรมาเป็นเงื่อนไขที่เป็นข้อกังขาต่อประชาชน เพราะเรามาจากการเลือกตั้ง ก็ควรทำให้มันสมบูรณ์ ซึ่งตนคงไม่ยอมให้ใครมาทำให้ผิดทำนองครองธรรมในการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เบื้องต้นรับผิดชอบในส่วนนี้ หากทำไม่ดีก็จะเกิดความไม่ปลอดภัยในพื้นที่ หากเราสามารถพูดคุยทำให้เกิดความปลอดภัยประชาชนก็รับได้ ก็เชื่อว่าจะนำไปสู่หนทางความสำเร็จหากทุกฝ่ายช่วยกัน
