“พิธา” ซัด ตลอด 3 เดือนหลังเลือกตั้ง 2566 ทุกองคาพยพการเมืองพร้อมใจปิดสวิตช์ก้าวไกล เย้ย ไม่มีวันที่รัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามขั้ว จะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ พร้อมชวนร่วมเดินทางไกลอีกครั้ง ลั่น ไม่มีวันทรยศหักหลังประชาชนที่ไว้วางใจ
เมื่อเวลา 17.56 น. วันที่ 22 สิงหาคม 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีความเคลื่อนไหวผ่านทางโซเชียลมีเดีย รวมถึงทวิตเตอร์ ภายหลังที่ประชุมรัฐสภา มีมติเห็นชอบให้ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ว่า ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่เราเริ่มทำงานการเมืองในสมัยพรรคอนาคตใหม่ มาจนถึงพรรคก้าวไกลที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค จนถึงการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 พวกเราทำงานอย่างหนัก เดินหน้าเคาะทุกประตูบ้าน คุยกับทุกคน เดินทางไปทั่วประเทศ ขึ้นเวทีประชันวิสัยทัศน์ ออกสัมภาษณ์สื่อ ออกแบบนโยบาย
ทั้งนี้ การทำงานหนักของพวกเรา และความชัดเจน จริงใจ ตรงไปตรงมา ทำให้พรรคก้าวไกลได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากที่สุดถึง 14 ล้านเสียง เป็นพรรคที่มีจำนวนผู้แทนราษฎรเป็นอันดับหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎร แต่ก้าวไกลก็ไม่มีใครนอกจากประชาชน
“ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ทุกองคาพยพทางการเมืองพร้อมใจกันปิดสวิตช์ก้าวไกล จนได้รัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามขั้ว ขัดความรู้สึกพี่น้องประชาชน เมื่อติดกระดุมเม็ดแรกผิด ก็ไม่มีวันที่รัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามขั้วนี้จะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี หรือมีเกียรติมีศักดิ์ศรีใดๆ ได้”
...
นายพิธา ระบุต่อไปว่า ท่ามกลางความสิ้นหวัง ความเสื่อมศรัทธาของประชาชนต่อการเมืองการปกครองที่เป็นอยู่ ก้าวไกลภายใต้การนำของตน จะเป็นตัวแทนพลังใหม่ เป็นความหวัง เป็นที่หนึ่งในดวงใจของพี่น้องประชาชน ด้วยการทำงานทันสมัย มีประสิทธิภาพ ทั้งตรวจสอบการทำงานของผู้มีอำนาจ และทั้งเสนอแนะทางออกของประเทศในประเด็นต่างๆ รวมทั้งการผลักดันกฎหมายที่ก้าวหน้า อภิปรายวาระที่สร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมไทย
“เราจะเป็นสถาบันการเมืองที่พี่น้องประชาชนฝากความไว้วางใจเอาไว้ได้ ว่าเราจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน และจะไม่มีวันทรยศหักหลังต่อความไว้วางใจที่พี่น้องให้มาอย่างแน่นอน การทำงานการเมืองแบบก้าวไกล ไม่ใช่การเมืองวิเศษวิโสอะไร เราแค่อยากทำให้ความจริงใจ ตรงไปตรงมา รักษาคำพูด เป็นเรื่องปกติในการเมืองไทย”
ก่อนที่ นายพิธา จะระบุในตอนท้ายว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอเชิญเพื่อนพี่น้องทุกคน ร่วมเดินทางไกลอีกครั้งกับพรรคก้าวไกล ช่วยกันรณรงค์ ช่วยกันทำงาน ช่วยกันสร้างความเปลี่ยนแปลง
ช่วยกันยืนยันว่าการเมืองวิถีก้าวไกล คือสิ่งที่ทุกคนถวิลหา
ช่วยกันยืนยันว่าการเมืองวิถีก้าวไกล เป็นไปได้
ช่วยกันยืนยันว่าการเมืองวิถีก้าวไกล จะลงหลักปักฐานอย่างมั่นคงในประเทศไทย
ช่วยกันยืนยันว่าอำนาจสูงสุดของประเทศนี้ เป็นของประชาชน