“เศรษฐา” ตื่นตาตื่นใจ “ไซเบอร์ทรัค” ชง 3 ทำเลทองหวังดึงเทสลาลงทุนไทย ชวน HP-ADI ยักษ์ใหญ่ ด้านไอทีร่วมวงแลนด์บริดจ์ ย้ำข้ามโลกไทยวิกฤติต้องอัดฉีดดิจิทัลวอลเล็ต “ภูมิธรรม” อ้างต้องทำตามเจตนารมณ์ประชาชนที่เทเสียงให้ ยันพรรคร่วม รบ.เห็นพ้องต้องกันหมด “หมอมิ้ง” ชี้เงินหมุน 3.33 รอบ ขู่ถ้าไม่ทำ ศก.ปีหน้าเฉาตายแน่ “จุลพันธ์” โอ่ถ้าไม่มั่นใจไม่เสนอเป็น พ.ร.บ. เลขากฤษฎีการับนายกฯโทร.สายตรงสั่งดูข้อกฎหมายให้รอบคอบที่สุด ไม่หนักใจ ว่ากันตรงไปตรงมา “ชัยธวัช” ห่วงร่าง พ.ร.บ.แท้งตั้งแต่ชั้นกฤษฎีกา แนะ รบ.คิดแผนสำรองรอเลย กมธ.การเงินฯเรียก รมช.คลังเค้นปมกู้เงิน แฉสุดท้ายเงินหมุนไปห้างเจ้าสัวหมด “คำนูณ” ชี้ส่อขัดกฎหมายวินัยการเงินการคลัง หนังเรื่องยาวติดตามกันต่อไป
แม้จะมีเสียงทักท้วงจากหลายฝ่ายว่าการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทอาจไม่ผ่านการพิจารณาของรัฐสภา แต่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ยังยืนยันอย่างมั่นใจว่าผ่านแน่ ล่าสุดนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เผยนายกฯโทรศัพท์สายตรงสั่งให้ดูทุกแง่มุมกฎหมายอย่างรอบคอบที่สุด
นายกฯ เยี่ยมชมบริษัทเทสลา
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 พ.ย. ที่นครซาน ฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา (ตามเวลาท้องถิ่นนครซานฟรานซิสโกช้ากว่าไทย 15 ชั่วโมง) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ปฏิบัติภารกิจระหว่างเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 30 ช่วงวันที่ 12-19 พ.ย. นำคณะเยี่ยมชมและหารือกับผู้บริหารบริษัท Tesla ณ Tesla Fremont Factory ที่ดำเนินธุรกิจด้านรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานชั้นนำของโลก มีโรงงานตั้งอยู่ที่เมืองเฟรมอนต์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เยี่ยมชมโรงงานผลิต พร้อมทดลองนั่งและขึ้นยืนบนหลังคาตัวถังรถเพื่อทดสอบความแข็งแรงตามคำเชิญของผู้บริหาร Tesla นายกฯกล่าวว่า ยินดีที่ได้มาที่บ้านของเทสลา หวังว่าความร่วมมือในวันนี้จะตอกย้ำถึงความเป็นศูนย์กลาง EV และพลังงานทดแทนของไทยในอนาคต หวังว่าบริษัท Tesla จะเข้ามาร่วมลงทุนในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
...
เสนอ 3 ทำเลทองลงทุนในไทย
นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงบรรยากาศการเยี่ยมชมบริษัท Tesla ว่า ได้เยี่ยมชมกระบวนการผลิต และร่วมทดสอบรถไซเบอร์ทรัค Cyber Truck รถบรรทุกที่จะเปิดตัวสิ้นเดือน พ.ย.นี้ เฉพาะที่สหรัฐอเมริกา ถือเป็นรถยนต์รุ่นเรือธงของ “อีลอน มัสก์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท Tesla ทำจากอะลูมิเนียม ใช้ค้อนทุบไม่เป็นรอย ถูกชนไม่เป็นรอย ยืนบนหลังคาที่มีความแข็งแรง ตนที่เป็นคนตัวใหญ่กับเจ้าหน้าที่อีกคนยืนพร้อมกันยังไม่มีรอยบุบ สมรรถนะอัตราเร่ง ความเร็ว 0-100 กิโลเมตรภายใน 2-3 วินาที เร็วกว่ารถยนต์ Ferrari เรียกได้ว่าน่าตื่นตาตื่นใจ เข้าโค้งเกาะถนน ได้ข่าวว่า มีบริษัทในอเมริกาสั่งซื้อแล้ว 1 ล้านคัน ผู้บริหาร Tesla สนใจจะเข้ามาลงทุนในไทย คงตัดสินใจได้ในไตรมาสแรกของปี 2567 และเจ้าหน้าที่ Tesla จะเดินทางมาไทยเพื่อไปดูที่ตั้งโรงงาน มีเอกชนไทยเสนอ 3 แห่ง โอกาสนี้ได้ชวนชมซอฟต์พาวเวอร์ของไทยที่ จ.เชียงใหม่ และร่วมเทศกาลยี่เป็งถือเป็นนิมิตหมายที่ดี และมั่นใจว่าจะสรุปได้ในเร็ววันนี้
ดึงยักษ์ใหญ่ไอทีร่วมแลนด์บริดจ์
ต่อมาที่โรงแรมเดอะริทซ์ คาร์ลตัน นายเศรษฐาและคณะพบปะหารือผู้บริหารภาคเอกชนชั้นนำของสหรัฐฯ ได้แก่บริษัท HP กลุ่มธุรกิจด้านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและแล็ปท็อป (PC & Laptop) กลุ่มเครื่องพิมพ์และอุปกรณ์ขนาดใหญ่ของโลก ผู้บริหารบริษัท Analog Devices, Inc. หรือ ADI ผู้ผลิตวงจรรวมรายใหญ่ระดับโลก รวมถึงผลิตฮาร์ดแวร์และพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยนายกฯเชิญชวนเข้ามาขยายการลงทุนโดยใช้ไทยเป็นฐานการผลิตและที่ตั้งสำนักงานภูมิภาค พร้อมเชิญชวนร่วมโครงการแลนด์บริดจ์ที่จะทำให้ไทยเป็นฐานการส่งออกที่เหมาะสม รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการลงทุนอย่างเต็มที่ โดยสถาบันการศึกษาในไทยพร้อมพัฒนาหลักสูตรที่เหมาะกับทักษะความสามารถในการออกแบบวงจรผลิตแผ่นเวเฟอร์ที่ ADI ต้องการ จากนั้นนายกฯ ร่วมงานและกล่าวเปิดสัมมนาโครงการ “Thailand Landbridge Roadshow” และร่วมพบหารือภาคเอกชนไทย
ย้ำวิกฤติต้องอัดฉีดดิจิทัลวอลเล็ต
นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทว่า ไม่ได้เถียงกับใครเรื่องประเทศวิกฤติหรือไม่วิกฤติ ทุกคนมีความประสงค์ดีกับชาติ แต่ตนมองเห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็น เป็นวิกฤติก็แค่นั้น ประชาชนเป็นคนตัดสิน เมื่อถามว่ามีข่าวว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาจะเตือนเรื่องการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนบ้านบาทเป็นพิเศษ นายกฯ ตอบว่า ยังไม่ได้คุย คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่มีคำว่าอาจจะเตือน มีแค่คำว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่รัฐบาลยืนยันเรื่องนี้จำเป็นและเร่งด่วน เมื่อถามว่าได้ปรึกษากับนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการกฤษฎีกาหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ไม่มี ตนต้องระมัดระวังไม่อยากให้เป็นการล็อบบี้หรือไปพูดคุย เราพูดถึงข้อมูลกันชัดเจนที่สุดแล้ว
“ภูมิธรรม” อ้างเจตนารมณ์ ปชช.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ เป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายกฯฝากให้เร่งดำเนินการในเรื่องที่ยังค้างทั้งหมด ส่วนความคืบหน้าการจัดทำ พ.ร.บ.เงินกู้วงเงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อไปใช้ในโครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตว่า จะพยายามทำให้เร็วที่สุด ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการกู้เงินอาจผิดวินัยการเงินการคลังนั้น มีความคิดเห็นทั้งสนับสนุน และไม่เห็นด้วย แต่พรรคเพื่อไทยเสนอเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนหาเสียงเลือกตั้ง ถือเป็นสัญญาประชาคม เมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลก็ต้องยอมรับสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องและตัดสินใจ พรรคเพื่อไทยกำลังทำตามเจตนารมณ์ประชาชน ส่วนความเห็นต่างเราไม่ได้นิ่งนอนใจ อยากให้คำนึงถึงสองเรื่อง คือ กระบวนการประชาธิปไตยที่ต้องเดินหน้า และต้องมองว่ากำลังวิกฤติเราจึงต้องเดินหน้า
ยันพรรคร่วมเห็นพ้องต้องกัน
นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่า ยืนยันว่าเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชาชนมีส่วนร่วม หวังว่ากระบวนการต่างๆจะคืบหน้า ถ้าดูข้อมูลเศรษฐกิจมันไม่ได้ดีอย่างที่หลายคนพูด เราก็คำนึงถึงสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้น อยากให้คนที่คัดค้านหรือพรรคที่คัดค้านเคารพในระบอบประชาธิปไตย ส่วนถ้าทำแล้วล้มเหลวหรือมีปัญหา อันนั้นค่อยว่ากันตามกระบวนการประชาธิปไตย เมื่อถามว่ามั่นใจการโหวตของสภาหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า เรื่องนี้พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดเห็นพ้องต้องกัน ส่วนข้อแตกต่างหากจะมีบ้างไม่เป็นไร ถือว่ารับฟังมาแล้วก็จะปรับปรุงทั้งหมด ให้ถูกต้องและสบายใจกับทุกฝ่าย เมื่อถามว่ากลัวด่าน สว.หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า เป็นหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลต้องชี้แจงให้ชัดเจน และตอบคำถามทุกประเด็น เพื่อให้ สส. และ สว.ใช้พิจารณาตัดสินใจ เมื่อถามว่าหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทราบหรือไม่ว่าเงินที่จะนำมาใช้มาจากการกู้เงิน นายภูมิธรรม ตอบว่า พูดคุยกันมาตลอด เป็นนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภา เป็นการแถลงร่วมกันของคณะรัฐมนตรี ไม่น่ามีปัญหาอะไร
“มิ้ง” ชี้เม็ดเงินหมุน 3.33 รอบ
นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพราะเป็นช่องทางที่สะอาดที่สุด ไม่มีแผนสองรองรับเพราะมั่นใจว่าสภาจะโหวตให้ผ่าน เนื่องจากรัฐบาลเป็นเสียงข้างมากในสภา ไม่คิดว่าจะถูกคว่ำ เรายืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้องเสียงประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน สิ่งที่ประชาชนคาดหวังคือการทำตามที่ได้หาเสียงไว้ สมัยรัฐบาลก่อนหน้านี้ออกเป็น พ.ร.ก.กู้เงิน 1.5 ล้านล้านบาท ไม่ถูกตั้งคำถาม แต่พอรัฐบาลนี้จะออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท กลับถูกจับตามองและตั้งคำถามมากมาย สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท หากไม่ถูกเบรกไว้ก่อนถนนคงไม่เป็นลูกรังอยู่แบบนี้ ดังนั้น โครงการดิจิทัลวอลเล็ตไหนๆ ใช้เงินเยอะแล้ว ก็ทำให้สะอาดไปเลย โครงการนี้จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 3.33 รอบ หนุนให้เศรษฐกิจในปี 2567 โตได้ 1-1.5% หรือคิดเป็น 1.7 ล้านล้านบาท หากจีดีพีโตตามที่คาดการณ์ไว้ จะทำให้ตลอดการบริหารงานของรัฐบาลกรอบหนี้สาธารณะกลับมาอยู่ที่ 61% ตามเดิม
ถ้าไม่ทำ ศก.ปีหน้าเฉาตายแน่
นพ.พรหมินทร์กล่าวถึงการตั้งข้อสังเกตว่าการออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน เป็นการหาทางลงของรัฐบาล นพ.พรหมินทร์ตอบว่า เป็นวิธีคิดของคนที่ปรารถนาความพ่ายแพ้ แต่คนที่อยากเอาชนะจะใช้ทัศนคติของผู้ชนะ ทุกปัญหามีทางออกรัฐบาลพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดและต้องการทำให้โครงการนี้สำเร็จ เพราะเชื่อมั่นว่า ประชาชนกำลังรอโครงการนี้อยู่กว่า 60-70% ความตั้งใจทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเพื่อเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หากปล่อยไว้ไม่ทำอะไรในปี 2567 เศรษฐกิจมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดวิกฤติได้ เพราะไทยฟื้นตัวจากโควิด-19 ได้ช้าที่สุดในภูมิภาค เศรษฐกิจในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาขยายตัวต่ำมากเฉลี่ยปีละ 1.9% หนี้ครัวเรือนสูงถึง 91.6% เป็นอันดับ 7 ของโลก ประชาชนไม่มีกำลังซื้อ ขณะที่การบริโภคภาคเอกชน การใช้จ่ายภาครัฐ การเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้า การลงทุนของ รัฐวิสาหกิจชะลอตัว หากปล่อยไปแบบนี้เศรษฐกิจไทยจะไม่โตและอยู่ในภาวะเฉาตายในที่สุด
“จุลพันธ์” ย้ำ รบ.ฟังเสียงเห็นต่าง
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึงความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทว่า ยังไม่มีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติม ยังอยู่ในขั้นตอนปรึกษากฎหมายให้เรียบร้อย เมื่อถามว่าดูเหมือนกระแสสังคมคัดค้านเยอะ นายจุลพันธ์ตอบว่า เท่าที่รับฟังมีทั้งเสียงเห็นด้วยและเห็นต่าง เป็นเรื่องปกติ เรามีหน้าที่ทำตามขั้นตอนกฎหมายให้ครบถ้วน และรับฟังเสียงสะท้อนทุกรูปแบบ มีการปรับรูปแบบบางส่วนให้เป็นไปตามเสียงที่ได้รับฟังมา พยายามทำให้โครงการนี้เป็นประโยชน์ที่สุดและเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย เมื่อถามว่ามีเสียงเรียกร้องให้เปิดเผยความเห็นของแต่ละคนในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต นายจุลพันธ์ตอบว่า ถ้าถามมาก็ตอบได้ไม่ใช่เรื่องลึกลับ แม้มีบางคนเห็นแตกต่างในแต่ละประเด็น ถ้าต้องการทราบก็ตอบได้ ส่วนจะให้เปิดเผยบันทึกการประชุม เป็นอีกเรื่อง ไม่มั่นใจในข้อกฎหมาย
ลั่นไม่มั่นใจไม่เสนอเป็น พ.ร.บ.
ผู้สื่อข่าวถามว่า น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล ระบุว่าอ้างเรื่องเศรษฐกิจไม่โตไม่ได้ใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ตอบว่า มุมมิติมันต่างกัน น.ส.ศิริกัญญาอาจเห็นถึงความจำเป็นและหนักหน่วงของสถานการณ์ที่แตกต่างจากรัฐบาล เรามีมิติว่าความเดือดร้อนของประชาชนมาถึงจุดแล้ว และเรายังเห็นทิศทางการเจริญเติบโตของประเทศเป็นปัญหา ถือเป็นมุมมองของแต่ละคน แน่นอนว่าสุดท้ายมีขั้นตอนตามกฎหมายที่คนวินิจฉัยสุดท้ายต้องมีความเห็นออกมา เห็นต่างกันได้หารือร่วมกันได้ เมื่อถามว่าเมื่อ พ.ร.บ.ฯ เข้าสภามั่นใจว่าจะผ่านแน่นอนใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ตอบว่า ต้องมีความมั่นใจ ไม่เช่นนั้นไม่ออก เมื่อถามย้ำว่าพรรคร่วมรัฐบาลให้ความมั่นใจแล้วใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ตอบว่า ไม่ได้เป็นผู้หารือ แต่เท่าที่รับฟังทุกคนเห็นถึงความเดือดร้อนประชาชน ความจำเป็นโครงการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และเชื่อว่า สว.ไม่น่าเป็นอุปสรรคทุกคนคงเห็นถึงปัญหา
ซัดหยุดทำลายโอกาสคนไทย
น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา ประจำสำนักเลขานายก รัฐมนตรี กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยใช้เวลาพอสมควรกลั่นกรองรอบด้านจนมีความชัดเจนในนโยบาย จนนายกฯแถลงความชัดเจนไป แต่กลับมีผู้แสดงความเห็นขัดขวางอยากให้นโยบายนี้ล้มเหลว ทั้งนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายพิสิฐ ลี้อาธรรม อดีต รมช.คลัง น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แต่ละคนหยิบเรื่องปลีกย่อยมาทักท้วง แต่รัฐบาลรับฟังเสียงสะท้อน และแลกเปลี่ยนความเห็นกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประชาชนรอเงิน 1 หมื่นบาท รัฐบาลกำลังจัดทำร่าง พ.ร.บ.เงินกู้เสนอต่อสภาฯ เมื่อผ่านสภา 3 วาระจะเสนอต่อวุฒิสภาต่อไป ทำให้เกิดความถี่ถ้วนรอบคอบ ขอให้ผู้ขัดขวางแบบไม่ลดราวาศอกยับยั้งชั่งใจ อดทนอดกลั้นบ้าง โครงการใหญ่ระดับประเทศมักถูกวิจารณ์ แต่ต้องวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ ปราศจากอคติ อย่าทำให้ประชาชนเสียโอกาสพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ให้โอกาสรัฐบาลแก้ปัญหา อย่าปล่อยให้โอกาสนี้สูญเสียไปอีก
“ท็อป” รอฟังความเห็นกฤษฎีกา
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า คิดว่าทางที่ดีที่สุดให้รอความเห็นจากกฤษฎีกาก่อน เป็นความเห็นจากฝ่ายกฎหมายโดยตรง หลังจากนั้นจะเป็นไปตามขั้นตอนของสภา เปิดโอกาสให้ สส.ร่วมพิจารณา แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนที่รัฐบาลวางไว้ เมื่อถามว่าในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลจะยกมือสนับสนุน นายวราวุธตอบว่า เท่าที่ฟังจากหลายฝ่าย มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ฝ่ายที่เห็นด้วยยังยืนยันว่าทำได้ ดำเนินการได้ตามแนวทางที่วางไว้ แต่ต้องผ่านกฤษฎีกาก่อน คิดว่าให้เกียรติกฤษฎีกาแล้วค่อยมาตีความแบบนี้จะเป็นประโยชน์
“ปกรณ์” ขอไปดู ก.ม.ให้รอบคอบ
นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า นายกฯสั่งการโดยตรงให้ดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลจะใช้ทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแจกเงิน 1 หมื่นบาท ให้ละเอียดรอบคอบที่สุด นายกฯโทรศัพท์มาหาเองสั่งการว่าให้ดูเรื่องนี้โดยละเอียด ให้ใช้เวลาได้เต็มที่ ให้ดูดีๆ ท่านไม่อยากทำผิดกฎหมาย กฎหมายว่าอย่างไรให้ว่าอย่างนั้น ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลานานต้องมีการปรับแผนงาน ถือว่าเป็นการทำงานตามขั้นตอนปกติ แต่ยังไม่ถึงขนาดต้องตั้งคณะกรรมการพิเศษของกฤษฎีกาขึ้นมาพิจารณา แม้ตามแผนงานของรัฐบาลจะให้กฎหมายเข้าสู่สภาฯได้ภายในเดือน ม.ค.2567 แต่ต้องดูให้รอบคอบ คาดว่าคณะทำงานจะปรับกรอบการทำงานได้ คณะกรรมการกฤษฎีกาต้องดูตั้งแต่รัฐธรรมนูญ กฎหมายวินัยการเงินการคลัง กรอบหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี (ครม.) กฎหมายหนี้สาธารณะ กฎหมายเงินตรา รวมทั้งข้อกำหนดที่เกี่ยวกับกฎหมาย พ.ร.บ.การเงิน เมื่อกฤษฎีกาตรวจสอบข้อกฎหมายทั้งหมดแล้วว่าทำได้หรือไม่ได้ จะมีการนำความเห็นเข้าสู่บอร์ดของคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่อีกครั้ง เพื่อให้บอร์ดตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อในช่องทางไหน
ไม่หนักใจว่ากันตรงไปตรงมา
นายปกรณ์กล่าวต่อว่า ยอมรับก่อนการประชุม คณะกรรมการดิจิทัลชุดใหญ่ ไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีมติให้ออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงินฯ ไม่ได้มีความเห็นอะไรเป็นพิเศษ การใช้เงินแต่ละแบบมีเงื่อนไขแตกต่างกัน ที่ประชุมบอกว่าทางเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุดคือการกู้เงิน โดยออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เป็นแนวทางใหม่ที่ไม่เคยพูดถึงกันมาก่อน ให้สภาฯช่วยพิจารณา ก่อนหน้านี้มีการพิจารณาทางเลือกหลายแนวทาง เช่น การใช้งบประมาณปกติ แนวทางนี้ไม่ต้องทำอะไร การออกเป็น พ.ร.บ.เงินกู้ต้องพิจารณาหลายอย่าง จึงบอกที่ประชุมว่าขอรับเรื่องนี้ไปดูเพื่อความรอบคอบว่าเป็นไปตามเงื่อนไข หลักเกณฑ์ และวิธีการที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ ส่วนที่มีผู้ไปร้องกับผู้ตรวจการแผ่นดินว่าการออก พ.ร.บ.กู้เงิน อาจขัดต่อ พ.ร.บ.การเงินการคลังมาตรา 53 เรื่องนี้ไม่สามารถตอบได้ แต่ไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร “กฎหมายก็คือกฎหมาย เพียงแต่ว่านโยบายมีแบบนี้ คำถามคือแล้วมันทำได้ตามกฎหมายนี้หรือไม่ แค่นั้นเอง เราก็ว่ากันตรงไปตรงมา ไม่ได้หนักใจอะไร”
ก.ก.ห่วงแท้งตั้งแต่ชั้นกฤษฎีกา
นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า กังวลว่าการดำเนินนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตอาจไม่สำเร็จ เพราะวิธีการออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5
แสนล้านบาทอาจสะดุดขาตัวเอง พรรคยังไม่ถึงขั้นวางตัวคนอภิปรายในสภาฯ เพราะก่อน ครม.จะเสนอ ต้องฟังความคิดเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อน เป็นความกังวลของพรรคเหมือนกันว่าร่าง พ.ร.บ.จะถูกล้มในชั้นกฤษฎีกาเลยด้วยซ้ำ หากรัฐบาลจะผลักดันนโยบายนี้ต่อต้องคิดแผนสำรองไว้ ถ้าฟังเนื้อหาสาระของพรรค ก.ก. หรือของ น.ส.ศิริกัญญาโดยวางอคติ ความเห็นทั้งหมดไม่ได้ขัดขวางนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เพียงแต่เราวิพากษ์วิจารณ์ท้วงติงด้วยความเป็นห่วง ไม่สามารถตอบโจทย์เป้าหมายในทางนโยบายได้จริง ส่วนหากผ่านคณะกรรมการกฤษฎีกา พรรค ก.ก.พร้อมสนับสนุนหรือไม่ ขอให้ถึงตอนนั้นก่อน
กมธ.เรียก “จุลพันธ์” เค้นปมกู้เงิน
ด้านนายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล รองประธานคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทน ราษฎร กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมาธิการฯ วันที่ 15 พ.ย. ได้เชิญนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง มาให้ข้อมูลนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต มีประเด็นที่ กมธ.ต้องขอคำชี้แจง อาทิ การออกร่าง พ.ร.บ.กู้เงินฯทำได้หรือไม่ เพราะมีรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังกำกับอยู่ โดยเฉพาะเงื่อนไขว่าการกู้เงินต้องเป็นเหตุจำเป็นเร่งด่วน ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่จะใช้ช่องทางศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.บ.กู้เงินว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ต้องการให้ฝ่ายการเมืองรับผิดชอบทางการเมืองมากกว่า หากติดเงื่อนไขกฎหมาย วินัยการเงินการคลัง รัฐบาลควรแก้กฎหมายก่อน เพราะรัฐบาลคุมเสียงข้างมากมีช่องทางให้ทำได้
แฉสุดท้ายเงินหมุนไปห้างเจ้าสัว
นายวรภพกล่าวต่อว่า ส่วนเงื่อนไขที่เป็นข้อกังวลผู้ค้ารายย่อยว่า เมื่อประชาชนจ่ายเงินดิจิทัลแล้วไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้ ต้องนำไปซื้อสินค้าต่อนั้น มีเรื่องที่น่ากังวลคือไม่สามารถนำไปซื้อวัตถุดิบในร้านค้ารายย่อยที่ไม่อยู่ในระบบภาษีได้ มีข้อจำกัดให้ซื้อวัตถุดิบในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ที่อยู่ในระบบภาษีเท่านั้น หากเป็นเช่นนั้นอาจไม่ตอบโจทย์การกระตุ้นเศรษฐกิจ ถือว่ากีดกันผู้ค้ารายเล็กไม่ให้เข้าร่วม เช่น คนขายข้าวมันไก่ เมื่อได้รับเงินจากประชาชน ต้องนำเงินดิจิทัลซื้อไก่ ซื้อข้าวต่อ แต่ไม่สามารถซื้อจากตลาดทั่วไปได้ ต้องนำไปซื้อในร้านค้าปลีกขนาดใหญ่เพราะอยู่ในระบบภาษี เท่ากับบีบร้านค้ารายย่อย มีเพียงร้านค้าปลีกขนาดใหญ่เท่านั้นที่เงินจะหมุนบรรจบเป็นร้านของเจ้าสัว ทำแบบนั้นไม่ตอบโจทย์กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
สว.ห่วงขัดวินัยการเงินการคลัง
นายคำนูณ สิทธิสมาน สว. กล่าวว่า เป็นห่วงว่าการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท จะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ การกู้เงินตามรัฐธรรมนูญมาตรา 140 และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังมาตรา 53 ระบุว่า ทำได้เฉพาะกรณี 1.มีความจำเป็นเร่งด่วน 2.ต้องใช้ต่อเนื่อง 3.แก้วิกฤติประเทศ 4.ไม่สามารถตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ทัน หากเข้า 4 เงื่อนไข จึงออกกฎหมายกู้เงินได้ แต่ขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่จะเข้าสภาฯเดือน ธ.ค.นี้ ดังนั้น การใช้เงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ควรอยู่ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯจะปลอดภัยกว่า อยู่ในวิสัยที่ทำได้ทัน แต่การที่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯยังอยู่ระหว่างการพิจารณา แล้วมาออก พ.ร.บ.กู้เงินอีก 5 แสนล้านบาท เสี่ยงขัด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังมาตรา 53 และโครงการดังกล่าวไม่ใช่โครงการที่ต้องใช้เงินต่อเนื่อง แต่เป็นการใช้เงินครั้งเดียวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
หนังเรื่องยาวติดตามกันต่อไป
เมื่อถามว่าประเทศยังไม่วิกฤติถึงขั้นต้องออก พ.ร.บ.กู้เงินใช่หรือไม่ นายคำนูณตอบว่า เรื่องนี้เถียงกันได้ นักเศรษฐศาสตร์บางส่วนมองว่ายังไม่ใช่วิกฤติ แต่รัฐบาลมองว่าการที่จีดีพีโตต่ำถือเป็นวิกฤติ แต่สิ่งที่เห็นว่าเป็นปัญหาคือการเลือกแนวทางออก พ.ร.บ.กู้เงิน ไม่เข้า 4 เงื่อนไขดังกล่าว แต่ต้องรอความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วนบทลงโทษการทำผิดตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง รัฐธรรมนูญมาตรา 245 ระบุว่าให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินทำรายงานเสนอต่อคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หากคณะกรรมการเห็นด้วย ให้จัดตั้งคณะกรรมการองค์กรอิสระ 3 หน่วย ได้แก่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กกต. และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หากมีความเห็นสองในสามว่าเข้าข่ายทำผิด ให้ส่งรายงานไปยัง ครม. สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา พร้อมเผยแพร่ต่อสาธารณะ ไม่ได้บอกให้ยกเลิก แต่เป็นกลไกตามรัฐธรรมนูญ เพื่อทำให้กฎหมายวินัยการเงินการคลังมีความศักดิ์สิทธิ์และปฏิบัติได้ เป็นภาพยนตร์เรื่องยาวที่ต้องติดตามกันต่อไป
4 ธ.ค. ครม.สัญจรอีสานบน
อีกเรื่อง น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าที่ประชุม ครม. มีมติรับทราบการจัดประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2566 ที่ จ.หนองบัวลำภู วันที่ 4 ธ.ค.และติดตามการตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก เฉียงเหนือตอนบน 1 (บึงกาฬ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี) ระหว่างวันที่ 3-4 ธ.ค. ติดตามงานตามนโยบายรัฐบาล โดยนายกฯมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานประชุมบูรณาการการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ร่วมกับส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอวาระต่อที่ประชุม ครม.
ปีใหม่นำร่อง 30 บ.รักษาทุกที่
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ที่จะเปิดให้ใช้บัตรประชาชนใบเดียวเข้ารับการรักษาได้ในสถานพยาบาลทุกเครือข่ายว่า ระยะแรกนำร่องที่ จ.แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส 4 จังหวัดที่เชื่อมโยงข้อมูลกับทุกเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้มีบัตรประชาชนในจังหวัดสามารถเข้าไปรักษาได้ทุกที่ทุกเครือข่าย โดยจะเปิดสมบูรณ์แบบในวันที่ 1 ม.ค.67 เป็นต้นไป โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง จะไปเปิดโครงการในวันที่ 8 ม.ค. ส่วนระยะที่ 2 เรามีเขตบริการสุขภาพรวม 13 เขต และเลือกอีก 8 จังหวัดในแต่ละเขตบริการสุขภาพ และระยะที่ 3 ขยายในเขตบริการสุขภาพ 4 เขต นำร่องก่อนเฉพาะในเครือข่ายของกระทรวงสาธารณสุขทั้งหมด
นายกฯปัดสั่งขอกำลัง ตร.จีน
ที่สหรัฐอเมริกา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์กรณี น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุรัฐบาลมีแนวคิดให้ตำรวจจีนลาดตระเวนเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองรองว่า เรื่องนี้ถึงอย่างไรตำรวจไทย ต้องเป็นคนดูแล แต่เป็นในแง่ความร่วมมือการประสานข้อมูลกัน ไม่ได้หมายความว่ามีตำรวจจีนมาเดินบนถนนเมืองไทย เรื่องนี้คงเป็นการสื่อสารที่มีความผิดพลาด มากกว่า ที่ไปเยือนจีนไม่ได้คุยลงรายละเอียดว่าต้องมีตำรวจจีนมาอยู่ที่เมืองไทย แต่หารือเรื่องที่ทุกคนกลัวเรื่องจีนสีเทา และเรื่องที่คนจีนมาทำอะไรผิดกฎหมายกับคนจีนในเมืองไทย จะได้จัดการได้ทันที เมื่อถามว่านายกฯไม่ได้สั่งให้ประสานจีนในเรื่องนี้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐาส่ายหน้าก่อนตอบว่า ไม่ได้สั่งเลย ไม่เคยพูดว่าต้องเอาตำรวจจีนมากี่คนๆไม่เคยพูด
“ปุ๋ง” ยันไร้มาตรการใช้ ตร.จีน
น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงแนวคิดนำตำรวจจีนทำงานร่วมกับตำรวจไทยเพื่อดูแลนักท่องเที่ยวจีนว่า จริงๆแล้วทาง ททท.มีหลายแนวทางที่จะสร้างความมั่นใจกับนักท่องเที่ยว แต่เรายังไม่มีมาตรการนี้ออกมา เพียงหารือกันว่าจะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวมั่นใจที่จะมาเที่ยวในไทย เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีหลายเหตุการณ์เกิดกับนักท่องเที่ยวจีน อันนี้คือสาเหตุที่ ททท.เกิดไอเดียนี้ใช่หรือไม่ น.ส.สุดาวรรณตอบว่า น่าจะเห็นจากแนวทางประเทศอื่น แต่ยืนยันว่าเราไม่มีมาตรการนำตำรวจจีนมาลาดตระเวน จริงๆแล้วศักยภาพตำรวจไทยเราดีอยู่แล้ว ทำงานกันอย่างหนัก เชื่อว่าสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวได้
ผู้ว่าการ ททท.ขออภัยสื่อสารพลาด
น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ยกเลิกแนวคิดโครงการความร่วมมือลาดตระเวนของตำรวจจีนหลังจากสื่อสารสู่สาธารณะ โดยชื่อโครงการที่มีคำว่าลาดตระเวน ทำให้มีเสียงสะท้อนในสังคมเกิดขึ้นหลากหลายมุม จนกลายเป็นกระแสเชิงลบออกมา โครงการนี้ยังไม่ได้เริ่ม จึงขอน้อมรับทุกเสียงสะท้อน ขออภัยที่ทำให้เกิดความเข้าใจไม่ตรงกัน ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญด้วย ในข้อเท็จจริง แนวคิดโครงการนี้เป็นความร่วมมือประสานข้อมูลระหว่างตำรวจ 2 ประเทศที่เป็นประโยชน์ต่อตลาดนักท่องเที่ยวจีน พร้อมกับการเชิญตำรวจจีนมาดูงานในแหล่งท่องเที่ยวของไทย เพื่อให้มั่นใจว่าเราได้ยกระดับดูแลนักท่องเที่ยว ยืนยันมีเจตนาที่ดีพยายามตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวจีนเลือกไทยเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวอย่างมั่นใจ อาจเป็นการใช้คำสื่อสารไม่ตรงความหมาย ทำให้ผู้คนในสังคมกังวลกับแนวคิดที่สื่อออกไปแล้วความหมายไม่เหมือนกับสิ่งที่ต้องการจะดำเนินการ ต้องขออภัยทุกคนด้วย
“เสี่ยต่อ” คุมเบ็ดเสร็จนั่ง รก.หน.ปชป.
เวลา 18.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดรักษาการ ที่ใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมง มีการถกเถียงในข้อกฎหมายและข้อบังคับการประชุมเพื่อกำหนดวันเลือกหัวหน้าพรรคและ กก.บห.พรรคชุดใหม่ ที่ประชุมมีมติให้จัดการประชุมใหญ่วิสามัญในวันที่ 9 ธ.ค. รวมทั้งการแก้ไขข้อบังคับให้เพิ่มองค์ประชุมอีก 150 คน มาจากตัวแทนภาค ภาคละ 30 คน สำรองไว้ในกรณีองค์ประชุมไม่ครบ นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติตั้งให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค เป็นรักษาการหัวหน้าพรรค อีกหนึ่งตำแหน่ง แทนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ที่เพิ่งประกาศลาออกจากตำแหน่งรักษาการหัวหน้าพรรคไปในช่วงบ่ายวันนี้ ทั้งนี้น่าสังเกตว่านายจุรินทร์ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย และบรรยากาศในที่ประชุมก็ไม่ได้มีการพูดคุยถึงกรณีนายจุรินทร์ลาออกจากรักษาการหัวหน้าพรรคแต่อย่างใด
จับตาจะหนุนใครหรือนั่งคุมเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในที่ประชุมนายสาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรคภาคกลาง เสนอให้นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รักษาการรองหัวหน้าพรรค ขึ้นเป็นรักษาการหัวหน้าพรรค แต่นายองอาจขอถอนตัว ทำให้ที่ประชุมโหวตให้นายเฉลิมชัย ขณะที่แคนดิเดตหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเสนอใคร แม้ว่านายนราพัฒน์ แก้วทอง ที่มีชื่อเป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรคก่อนหน้านี้ ยังยืนยันว่าสนใจเก้าอี้หัวหน้าพรรค แต่ต้องจับตาดูว่าสุดท้ายแล้วนายเฉลิมชัยจะให้การสนับสนุนบุคคลอื่นที่เห็นว่าเหมาะสมกว่าขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค หรืออาจมีคนเสนอชื่อนายเฉลิมชัยขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเองหรือไม่ ส่วนคณะ กก.บห.ส่วนใหญ่มีการวางตัวไว้แล้วเป็นไปตามโผเดิม
