2 คีย์แมนแบ็คอัพ ‘เศรษฐา’ ‘สรวงศ์’ข้อต่อ สส. ‘มนพร’ เชื่อมบริหาร-สภา

ในช่วงเดือนที่ผ่านมา "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี รมว.คลัง เข้าสู่โหมดปรับตัวให้เข้ากับการเมืองมากขึ้น เพื่อลดระยะห่างระหว่าง “รัฐมนตรีเพื่อไทย” และ “สส.เพื่อไทย” เสริมความแข็งแกร่งให้เก้าอี้เบอร์หนึ่งตึกไทยคู่ฟ้า

วันอังคารที่ 24 ต.ค. นายกฯ เศรษฐาเรียก “รัฐมนตรี” จากพรรคเพื่อไทย ประชุมร่วมกันบนตึกไทยคู่ฟ้า ภายหลังประชุม ครม.วงใหญ่เสร็จสิ้น เพื่อตรวจการบ้านของแต่ละกระทรวง พร้อมขันน็อตจุดบกพร่อง ไม่ให้เกิดช่องโหวของการทำงาน

ขณะเดียวกันเพื่อวางกรอบการทำงานของ “รัฐมนตรี” พรรคเพื่อไทยให้อยู่ในทิศทางเดียวกัน เพราะหากห่างเหินกันไป ต่างคนต่างเดินการทำงานอาจจะไม่บรรลุผลสำเร็จ

โดยเฉพาะกระทรวงที่ “พรรคร่วมรัฐบาล” แชร์อำนาจ-แชร์เก้าอี้ ไป อาจจะต้องรายงานความคืบหน้า และรายละเอียดการดำเนินงานให้ นายกฯ-เพื่อนรัฐมนตรี มีฐานข้อมูลที่ใกล้เคียงกัน

อย่างไรก็ตาม แม้การทำงานร่วมกับ “พรรคร่วมรัฐบาล” ยังไม่เกิดปัญหาข้อขัดแย้งระหว่างพรรค แต่ในเนื้องานลึกๆ ไม่พ้นต้องเชือดเฉือนกันเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของรัฐบาล ที่สำคัญอาจมีผลกระทบต่อนโยบายภายในกระทรวง และส่งผลต่อพรรคเพื่อไทย หากมีข้อมูลรายงานมาก่อน จะได้หาทางป้องกัน

ต่อมาในวันพฤหัสที่ 26 ต.ค. นายกฯ เศรษฐา เข้าสภาฯ เพื่อตอบกระทู้ถามสดของ สส. แม้จะผิดคิวไม่ได้ตอบกระทู้ของ สส. ก้าวไกล แต่ถือเป็นนิมิตรหมายอันดี ที่ “ผู้นำประเทศ” ให้ความสำคัญกับงานในสภา และปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

มีกระแสข่าวว่า หลังฉากที่คอยบริหารจัดการ เชื่อม “รัฐมนตรี” เพื่อไทย เชื่อม สส. เพื่อไทย ให้กับ “เศรษฐา” ชื่อ “มนพร เจริญศรี” รมช.คมนาคม ซึ่งในยุคพรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายค้าน “มนพร” คอยประสานทุกภาคส่วนในฐานะวิปฝ่ายค้าน

เมื่อพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาล “มนพร” ถูกเลือกให้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรี แต่ยังไม่ทิ้งบทบาทเดิม คอยเป็นตัวเชื่อมงานบริหาร-งานนิติบัญญัติ ให้มีความสมดุลมากที่สุด

นอกจากนี้ “มนพร” ยังได้รับมอบหมายให้คอยประสานงาน “รัฐมนตรี” จากพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล ให้เสียสละเวลามาตอบกระทู้ถามสดในวันพฤหัสบดีของทุกสัปดาห์ที่มีการประชุมสภา เพื่อเสริมภาพบวกของรัฐบาล ลดภาพด้านลบให้มากที่สุด

ด้านการเชื่อมต่อกับ สส. เพื่อไทย หากไม่ติดภารกิจ “เศรษฐา” จะเข้าร่วมประชุมพรรคช่วงบ่ายโมงทุกวันอังคาร เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะจาก สส. และคอยรับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนในพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งสะท้อนผ่าน สส. มายังรัฐบาล โดยจัดทำ "คลินิครัฐมนตรี" รับฟังทุกปัญหา

โดยบรรดา สส. พรรคเพื่อไทย แต่ละคนจะแบ่งหน้าที่การรับผิดชอบกันคนละคณะ อาทิ ด้านเกษตร ด้านคมนาคม ด้านสาธารณสุข เป็นต้น แต่ละด้านจะประชุมกันก่อน เพื่อนำเสนอข้อห่วงใยและปัญหาที่เกิดขึ้นในระดับพื้นที่

เมื่อคณะทำงานด้านต่างๆ ได้ข้อสรุป “เศรษฐา” จะเข้าร่วมฟังข้อสรุปของทุกคณะทำงาน พร้อมนำข้อเสนอไปแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้รวดเร็วที่สุด

หลังจากนี้ จะเป็นหน้าที่ของ “สรวงศ์ เทียนทอง” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย จะเข้ามาบริหารจัดการ ทำข้อสรุปจากที่ประชุมคณะทำงาน สส. ประมวลในภาพใหญ่ พร้อมไล่เรียงลำดับความสำคัญที่ต้องแก้ปัญหา เสมือนเป็นข้อต่อระหว่าง สส. กับนายกฯ เศรษฐา ให้มีความสัมพันธ์ที่ดีมากขึ้นเช่นกัน

รัฐบาลเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทย กำลังเดินเข้าสู่ยุคใหม่ วางเป้าหมายการทำงานอย่างชัดเจน  วางขุมกำลัง หน้าฉาก หลังฉาก แก้ไขปัญหาอุปสรรค เพื่อเดินทางไปสู่จุดหมาย

หลังจากนี้ ความท้าทายในการทำงานของ “สรวงศ์ เทียนทอง” และ “มนพร เจริญศรี” ซึ่งถูกวางตัวเป็นสองคีย์แมนต่างภารกิจ จะมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการทำให้ “เพื่อไทย” กลับมายิ่งใหญ่ ชิงแชมป์พรรคการเมืองอันดับหนึ่งกลับมาให้ได้

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ