“วุฒิพงศ์” เอาคืน แฉกลับเด็ก กก.บห.พรรคส้ม มีสัมพันธ์พิเศษสาวที่ร้องถูกคุกคามทางเพศ มีเอี่ยวผลประโยชน์บ่อกำจัดขยะ สงสัยเป็นเหตุให้โดนศาลเตี้ย เผยมีผู้บริหารพรรคขอให้หยุดแฉ รอดูทีท่าก่อนรบแตกหัก จับตาวงเสวนา ก.ก.ที่ระยอง ถกชี้ขาดขับ-ไม่ขับ “ไชยามพวาน” ครอบครัวเหยื่อซัด “ปูอัด” เลวร้าย มุ่งทำร้ายจิตใจเหยื่อ “อัครเดช” รีบงับร่วมวงสอบก้าวไกล “ศรีสุวรรณ” ชง ป.ป.ช.สอย 2 สส.ก.ก. “เศรษฐา” สั่งศึกษาขึ้นเงินเดือนขรก.-ค่าแรงขั้นต่ำ “พิพัฒน์” ย้ำปรับแน่แต่ไม่ถึง 400 บ. ทูลเกล้าฯชื่อผู้นำฝ่ายค้านแล้ว “เรืองไกร” ยื่นสอย “ไชยา-สุทิน” ให้เมียถือหุ้น
พรรคก้าวไกลยังคงวุ่นวายไม่เลิก เมื่อนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา หรือแจ้ สส.ปราจีนบุรี ที่ถูกพรรคก้าวไกลมีมติขับออกหลังเกิดกรณีแชตคุกคามสาว เปิดแถลงแฉผู้ช่วย สส. ที่เป็นกรรมการบริหารพรรค และมีสัมพันธ์พิเศษกับสาวที่ออกมาร้องว่าถูกคุกคามทางเพศ มีเอี่ยวผลประโยชน์กับโรงงานกำจัดบ่อขยะ ที่ จ.ปราจีนบุรี
“แจ้” แฉกลับเด็ก กก.บห.พรรคส้ม
...
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 6 พ.ย. ที่รัฐสภา นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี หรือ “แจ้” ที่ถูกพรรคก้าวไกลมีมติขับออกจากพรรค หลังเกิดกรณีแชตคุกคามสาว เปิดแถลงแฉกลับคนในพรรคว่า หลังการเลือกตั้งสิ้นสุดลงมีผู้ช่วย สส. ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล (กก.บห.) คนหนึ่ง ชื่อย่อ “ส” มีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์จากโครงการบ่อกำจัดขยะ ทั้งที่ตนเป็นคนทำเรื่องต่อต้านมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี มาตลอด เมื่อวันที่ 24-25 ก.ค. ได้ไปยื่นเอกสารให้ กก.บห.พรรคไปหมดแล้ว ไม่ทราบว่าไปเหยียบเท้า กก.บห.คนไหนหรือเปล่า จึงถูกร้องเรียน จากนั้นนายวุฒิพงศ์ได้เปิดบันทึกข้อความและเสียงสนทนาเจรจาให้นักข่าวฟัง พร้อมกล่าวอ้างว่ามีข้อสังเกตว่าผู้ช่วย สส.คนนี้มีความสัมพันธ์พิเศษกับผู้เสียหายที่ร้องเรียนตนกรณีคุกคามทางเพศหรือไม่ เพราะชาวบ้านในพื้นที่ตั้งคำถามถึงความผูกพันของทั้งคู่มามากกว่าปีครึ่งแล้ว
ฉะตั้งศาลเตี้ยเหตุขวางบ่อขยะ
นายวุฒิพงศ์กล่าวต่อว่า ไม่รู้ไปเหยียบเท้ากก.บห.คนนั้นแรงขนาดไหน แต่เรื่องนี้ควรสอบสวนเร่งด่วนผ่านมากว่า 4 เดือนแล้ว ผู้ช่วย สส.คนนี้ยังพาผู้ที่กล่าวหาตนเข้ามาที่พรรค ใช้เวลา 22 วัน ตั้งข้อกล่าว และตั้งกรรมการวินัยสอบลักษณะตั้งเอง ชงเอง แถลงเอง ขอมติเอง “ผมจะไม่ขออุทธรณ์ แค่อยากชี้แจงในสิ่งที่ถูกกระทำ ผมจำเป็นที่ต้องออกมาพูดเพื่อเดินหน้าทำงานต่อ อย่างที่เห็นว่าผมถูกขับออกจากพรรคให้เวลา 22 วัน แต่กระบวนการทุจริต พรรคกลับซุกไว้ใต้พรม ต้องรอให้ผมออกมาพูดก่อน สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ต่างกับศาลเตี้ยไม่ต่างกับกระบวนการที่เรียกว่าพวกมากลากไป ลองค้นหาคำว่าฟ้องปิดปาก 50 ล้าน จะเจอผู้ช่วย ส. เรื่องบ่อขยะนั้นมีขนาดใหญ่กว่าอาคารรัฐสภา 2 เท่า บ่อขยะมีเงินทุนมหาศาลมีนายทุนในพื้นที่ ที่ผมกำลังชนกับกลุ่มทุน มีผู้บริหารพรรคทักมาทางไลน์ขอให้ผมหยุดในเรื่องนี้ จากนี้ผมต้องหาพรรคที่เป็นฝ่ายค้านเชิงรุกที่ถูกต้อง”
รอดูทีท่าพรรคก่อนรบแตกหัก
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ระบุว่าผู้ช่วย สส. หรือ สส.เกี่ยวกับการเรียกรับผลประโยชน์ จะยื่นเรื่องให้องค์กรอิสระหรือสภาฯตรวจสอบหรือไม่ นายวุฒิพงศ์ตอบว่า นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องดังกล่าวสามารถยื่นให้ กกต.ตรวจสอบได้ ส่วนประเด็นการเมืองในแง่จริยธรรม ตามกระบวนการของ ป.ป.ช.ยังมีช่องที่จะส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ขณะนี้ยังไม่คิดจะดำเนินการต้องการให้พรรคดำเนินการ ส่วนประเด็นที่ถูกชี้ว่ามีพฤติกรรมคุกคามทางเพศนั้น ตั้งทนายความแล้ว และยินดีเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบจริยธรรมร้ายแรง ตามที่มีผู้ยื่นเรื่องร้องต่อ ป.ป.ช.
จับตาถกชี้ขาดขับ-ไม่ขับ “ปูอัด”
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าหลังที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ก.ก. ลงความเห็นว่าการแถลงข่าวของนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือปูอัด สส.กทม. ไม่แสดงถึงการสำนึก ไม่ขอโทษอย่างจริงใจต่อเหยื่อ และเตรียมเรียกประชุมร่วมกันระหว่าง สส. และ กก.บห. เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวนั้น ล่าสุดพรรค ก.ก.จัดสัมมนาพรรค ที่ อ.แกลง จ.ระยอง ระหว่างวันที่ 6-8 พ.ย. ช่วงบ่ายวันที่ 6 พ.ย. มีการสัมมนา “ออกแบบอนาคต” ส่วนช่วงเย็นมีกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์อย่างโปโลน้ำ ฟุตบอลชายหาด งานสัมมนาพรรคดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการจับตาผลการลงมติขับหรือไม่ขับนายไชยามพวานอีกครั้ง หลังจากผลโหวตครั้งก่อนไม่เพียงพอที่จะขับออก นอกจากนี้ ยังเป็นที่น่าสังเกตว่า พรรค ก.ก.ไม่แจ้งกำหนดการให้สื่อมวลชนประจำพรรคทราบ ขณะที่สื่อหลายสำนักพยายามสอบถามกำหนดการจัดงานสัมมนาดังกล่าวในไลน์กลุ่มสื่อมวลชนประจำพรรค แต่ไร้สัญญาณตอบรับใดๆจากทางพรรคก้าวไกล
ครอบครัวเหยื่อซัด “ปูอัด” เลวร้าย
วันเดียวกัน น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล หรือ “ทนายแจม” ทวีตข้อความผ่านเอ็กซ์ว่า ตามที่นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรค ก.ก. แถลงชี้แจงมีเนื้อหากล่าวอ้างถึงความสัมพันธ์อันดีกับผู้เสียหายและครอบครัว โดยคลาดเคลื่อน ในฐานะ สส.พรรคขอเป็นตัวกลางนำข้อโต้แย้งของครอบครัวผู้เสียหายแจ้งต่อสาธารณะ ดังนี้ 1.การที่นายไชยามพวานกล่าวว่า ครอบครัวของผู้เสียหายพาไปเลือกสูทและเนกไทเพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ สส. แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีและความใกล้ชิดนั้น ครอบครัวผู้เสียหายชี้แจงว่า เพราะนายไชยามพวานพูดอยู่เสมอว่าไม่มีเงิน และไม่คาดคิดว่าจะมีพฤติกรรมคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศบุคคลในครอบครัว 2.นายไชยามพวานกระทำโดยเล็งเห็นผล ที่จะเปิดเผยว่าผู้เสียหายเป็นใคร เป็นการคุกคามทำร้ายจิตใจผู้เสียหายซ้ำ หมายจะทำร้ายจิตใจคนในครอบครัว คนรอบข้าง คนที่รักผู้เสียหายด้วย 3.การพยายามกล่าวอ้างว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เสียหาย โดยยกข้อความใดๆ ที่ผู้เสียหายส่งให้ผ่านแอปพลิเคชันนั้น ยืนยันว่าข้อความดังกล่าว ไม่ได้หมายความว่าผู้เสียหายมีจิตปฏิพัทธ์ หรือรู้สึกที่นอกเหนือจากการเป็นเพื่อนร่วมงาน การกล่าวอ้างทั้งหมดเป็นเพียงการจงใจเข้าข้างตนเองให้พ้นผิดจากข้อกล่าวหา ครอบครัวของผู้เสียหายยืนยันว่าพฤติกรรมเลวร้ายดังกล่าว ไม่เพียงทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจของผู้เสียหายและครอบครัว หากยังทำลายหลักการครองตนของผู้แทนราษฎรที่ดี
รทสช.รีบงับร่วมวงสอบก้าวไกล
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล แฉว่ามีผู้ช่วย สส.พรรค ก.ก.บางคนซึ่งเป็นผู้บริหารพรรค เรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการโรงงานกำจัดขยะว่า กมธ.จะเชิญนายวุฒิพงศ์และผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพื่อตรวจสอบว่า มีข้อเท็จจริงอย่างไรในสัปดาห์หน้าเรื่องนี้ส่งผลกระทบภาพรวมของระบบอุตสาหกรรม และความเชื่อถือของประชาชนที่มีต่อ สส. และยังเท่ากับทำผิดกฎหมาย ขณะนี้ กมธ.ได้ข้อมูลว่ามีโรงงานกำจัดขยะหลายแห่งทั่วประเทศ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ หรือนักการเมือง ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบด้านมลพิษจากโรงงานกำจัดขยะเหล่านี้ กมธ.ต้องตรวจสอบให้กระจ่าง ไม่ให้เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีอีกต่อไป
“ศรีฯ” ชง ป.ป.ช.สอย 2 สส.ก.ก.
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน กล่าวภายหลังยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้ไต่สวน 2 สส.พรรคก้าวไกล หลังพรรคก้าวไกลมีมติลงโทษ 2 สส. คือ สส.ปราจีนบุรี และ สส.กทม. ที่ถูกกล่าวหาคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ มติดังกล่าวเป็นหลักฐานยืนยัน 2 สส.มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 219 กำหนด โดยเฉพาะข้อ 20 ระบุว่า สส.ต้องไม่กระทําการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ ซึ่งองค์กรอิสระที่มีอำนาจไต่สวนนักการเมืองที่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม คือ ป.ป.ช. ดังนั้น องค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ให้ไต่สวนการกระทำของ 2 สส.พรรคก้าวไกล ส่วน สส.ที่ถูกขับออกด้วยเหตุเยี่ยงนี้หากพรรคการเมืองใด รับเข้าเป็นสมาชิก อาจถูกร้องเรียนให้ยุบพรรคได้ เพราะอาจขัดต่อข้อบังคับพรรค และขัดต่อ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง
สั่งศึกษาขึ้นเงินเดือน ขรก.-ค่าแรง
เวลา 08.30 น. ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำและการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐว่า เรื่องดังกล่าวมีเอกสารสั่งการให้ศึกษาถึงความเป็นไปได้ในเรื่องของเงินเดือน กระทรวงแรงงานกำลังพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำอยู่ ถ้าจะยกระดับต้องดูทั้งหมดทุกภาคส่วน มอบให้คณะทำงานศึกษาและกลับมารายงานภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้ ว่ามีความเป็นไปได้อย่างไร เมื่อถามว่าหลังศึกษาแล้วจะมีกรอบเวลาหรือไม่จะปรับขึ้นเมื่อไหร่ นายเศรษฐาตอบว่า ต้องมานั่งดูอีกที เรื่องนี้สืบเนื่องมาจากที่ตนเคยพูดไปแล้วว่าเงินเดือนข้าราชการและค่าแรงขั้นต่ำไม่ได้ขึ้นมานานแล้ว ปัจจุบันค่าครองชีพสูงขึ้นเยอะ เราเป็นห่วงพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งในส่วนของค่าแรงขั้นต่ำ และเงินเดือนข้าราชการด้วย
รอฟัง รมว.แรงงานขึ้นได้เท่าไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสอดรับเรื่องค่าแรงขั้นต่ำที่เป็นนโยบายของรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า หลักการถือว่าสอดคล้อง แต่จำนวนเงินเปอร์เซ็นต์ที่ขึ้นต้องว่ากันไปแต่ละภาคส่วน เมื่อถามย้ำว่าในส่วนของแรงงานจะขยับขึ้นได้เมื่อไหร่ อย่างไร เพราะนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ระบุว่าอาจไม่ได้ 400 บาทในทุกพื้นที่ นายเศรษฐาตอบว่า ต้องรอฟัง รมว.แรงงานอีกครั้ง ถึงบอกว่าต้องมีการศึกษาอีกครั้งทั้งหมด
“พิพัฒน์”ย้ำปรับแน่แต่ไม่ถึง 400
ที่กระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำว่า ปีนี้มีการปรับขึ้นแน่นอน เพราะภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว แต่จะไม่ได้ 400 บาททั่วประเทศ เพราะฐานค่าจ้างของค่าแรงขั้นต่ำแต่ละจังหวัดต่างกัน กำลังรอข้อมูลตัวเลขของแต่ละจังหวัด เพื่อรวบรวมข้อมูลเข้าที่ประชุมหารือที่กระทรวงแรงงานในวันที่ 17 พ.ย. จากนั้นจึงจะประชุมคณะกรรมการค่าจ้างเพื่อสรุปตัวเลข คาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินกลางเดือน ธ.ค. การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำยังต้องดูอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ตลอดจนความจำเป็นในการดำรงชีพของลูกจ้าง และความสามารถในการจ่ายของนายจ้าง และสภาพเศรษฐกิจและสังคมในภาพรวม ตลอดจนการเจรจาในระบบไตรภาคีจะมีการพิจารณารอบด้าน เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มมีรายได้ที่เป็นธรรม และเพียงพอต่อการดำรงชีพ สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และต้องไม่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจด้วย
ให้ กปน.-กปภ.ลดภาระชาวบ้าน
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า วันนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย นายอนุทินได้เร่งรัดดำเนินมาตรการการลดภาระค่าครองชีพแก่ประชาชน ขณะนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง สนองนโยบายโดยขยายเวลาถอดมิเตอร์ไฟฟ้า จาก 1 เดือน เป็น 3 เดือน หากการประปานครหลวง (กปน.) และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) พิจารณาออกมาตรการที่คล้ายคลึงกัน ทั้งการลดค่าน้ำ การขยายเวลาถอดมิเตอร์ จะช่วยได้อีกทางหนึ่ง ส่วนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ รัฐบาลจะประกาศคิกออฟจัดการหนี้นอกระบบในวันที่ 28 พ.ย.
ครม.เตรียมถกช่วยเหลือชาวนา
นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมหารือของกระทรวงการคลัง และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า มีการหารือเรื่องข้าวฤดูใหม่ที่จะออกว่าจะจัดซื้อหรือช่วยเหลือเกษตรกรเรื่องดอกเบี้ย หรือเรื่องต่างๆอย่างไร จะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 7 พ.ย.นี้ ช่วงนี้ราคาข้าวหอมมะลิในภาคอีสานที่ จ.อุบลราชธานี ราคาหน้าโรงสีอยู่ที่ 11 บาทต่อกิโลกรัม ถือว่าแย่ แต่รัฐบาลจะมีมาตรการหลายเรื่อง ทั้งการให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ให้เงินสหกรณ์ไปซื้อ ขอร้องไปยังเจ้าของโรงสี ผู้ประกอบการ ให้เห็นใจชาวนา ปีนึงข้าวผลิตออกมาแค่ครั้งเดียว และราคาข้าวหอมมะลิส่งออกสูงถึง 30,000 บาทต่อตัน ส่วนต่างมันมากเกินไป พี่น้องเราเดือดร้อนกันอยู่ในเรื่องราคาข้าว ไหนจะน้ำท่วม ภัยแล้ง แล้วยังโดนกดราคา ขอให้เอาราคาที่เป็นธรรม ไม่ให้ใครได้เปรียบเสียเปรียบ
จี้รัฐบาลเร่งแก้หนี้นอกระบบ
นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ สส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ บางครอบครัวต้องย้ายบ้านหนีเพราะถูกแก๊งหมวก กันน็อกทำร้ายร่างกาย บางคนถูกทำลายข้าวของเครื่องมือทำมาหากิน พ่อค้าแม่ค้าพากันโอดครวญ ขายได้เท่าไหร่เจ้าหนี้เอาไปหมด หวังว่ารัฐบาลจะหามาตรการแก้ปัญหา หลายครอบครัวกู้แค่ 10,000 บาท แต่ผ่อนนานนับปีไม่หมด บางรายต้องจ่ายดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้นที่กู้มา รัฐบาลต้องแก้ปัญหาให้ตรงจุด
“สุทิน” เปิดนิทรรศการป้องกัน ปท.
ช่วงเที่ยงที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดงานนิทรรศการอุปกรณ์ป้องกันประเทศ (difense & Security 2023) ระหว่างวันที่ 6-9 พ.ย. มีผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ มากกว่า 500 บริษัท จาก 40 ประเทศทั่วโลก มีการเชิญ รมว.กลาโหม จากมิตรประเทศ ผบ.เหล่าทัพ สมาชิกอาเซียน และเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆเข้าร่วม นายสุทินกล่าวเปิดงานว่า นิทรรศการนี้ไม่เพียงแต่สำคัญต่อกำลังพลทางทหารเท่านั้น แต่สำคัญต่อ ประเทศชาติด้วย รัฐบาลไทยมีนโยบายและเป้าหมายที่สำคัญในการส่งเสริมพัฒนาความสามารถเทคโนโลยีของประเทศด้านความมั่นคงและความปลอดภัย เพื่อให้บรรลุความสามารถในการพึ่งพาตัวเอง ลดการนำเข้า ส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการส่งออกอุปกรณ์ทางการทหารที่ผลิตภายในประเทศ ประชาสัมพันธ์ไปสู่สายตาประชาคมโลก
ทูลเกล้าฯชื่อผู้นำฝ่ายค้านแล้ว
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านว่า เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้นำชื่อนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ทูลเกล้าฯเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหนังสือถึงสำนักงานเลขาธิการสภาฯรับรองนายชัยธวัชเป็นหัวหน้าพรรค ก.ก.คนใหม่ ถือว่าครบองค์ประกอบตามรัฐธรรมนูญ โดยประธานสภาฯมีจดหมายเวียนจากสำนักบริหารงานกลาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อม พิธีรับพระบรมราชโองการแต่งตั้ง
ยื่นสอย 2 รมต.ให้เมียถือหุ้น
ที่สำนักงาน กกต. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้ายื่นหนังสือให้ กกต.ตรวจสอบ นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เนื่องจากพบบัญชีทรัพย์สินที่แจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อาจครอบครองหุ้นในห้างหุ้นส่วนจำกัดเกิน 5% ตามกฎหมายกำหนด เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามเป็นผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ นายเรืองไกรกล่าวว่า นายไชยาแจ้งข้อมูลค่อนข้างแปลก เพราะวันที่ 16 ก.ย.2566 ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าปรากฏชื่อนางอัญชลี พรหมา คู่สมรส เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.ศรีบุญเรืองวัฒนา ชำระเงินลงหุ้น 400,000 บาท ต่อมาเปลี่ยนเป็นชื่อของ น.ส.อธิษฐาน พรหมา ลูกสาว เพื่อชำระเป็นเงินลงหุ้นเพิ่มทุนของ หจก.ศรีบุญเรืองวัฒนา ส่วนนายสุทิน พบว่าภรรยาเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการยังถือหุ้นอยู่ ต่างจากของนายไชยาที่เปลี่ยนไปเป็นชื่อของลูกสาวแล้ว
“นิกร” ลุยจัดประชามติแก้ รธน.
นายนิกร จำนง โฆษกคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 กล่าวว่า วันที่ 8 พ.ย. นายวุฒิสาร ตันไชย ประธานอนุกรรมการฯ นัดประชุมโดยเชิญผู้แทน กกต.มาหารือเกี่ยวกับแนวทางทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะมีขั้นตอน เงื่อนไขด้านเวลา งบประมาณ การลงคะแนนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือแอปพลิเคชัน หลักการตั้งคำถามที่มีทั้งในลักษณะมีผลผูกพันรัฐบาล หรือเพียงขอความคิดเห็นไม่มีผลผูกพันกับรัฐบาล และสามารถทำประชามติไปพร้อมกับการเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ได้หรือไม่ และจะมีการจัดรับฟังความเห็นจากผู้แทนกลุ่มนิสิต นักศึกษา เยาวชน 7 กลุ่ม ได้แก่ ม.ธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.รามคำแหง ม.มหิดล มรภ. สภาเด็กและเยาวชน กลุ่มเยาวชนนอกระบบการศึกษา
“หยก-บุ้ง” บุกขอพบ “นายกฯนิด”
เมื่อเวลา 10.40 น. ที่ประตูทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ตรงข้ามสะพานอรทัย น.ส.ธนลภย์ ผลัญชัย หรือหยก และ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง แกนนำกลุ่มทะลุวัง พากันมายื่นหนังสือถึงนายกฯให้ตรวจสอบโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ หาผู้รับผิดชอบการดำเนินการต่อเยาวชนที่ตนถูกดำเนินคดีทางการเมืองผิดหรือถูกอย่างไร ในเรื่องนี้จะรับผิดชอบอย่างไรกับการที่เด็กคนหนึ่งถูกดำเนินคดี โดยเอกสารของ น.ส.ธนลภย์ระบุว่า ต้องสูญเสียเวลา สูญเสียอนาคตทางการศึกษา หวังว่านายกฯในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารจะตรวจสอบ และทวงความเป็นธรรมจากการกระทำของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ มีนายฉลองกรุง ภคกุล หัวหน้าฝ่ายประสานมวลชน ศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แนะนำให้ไปยื่นหนังสือตามขั้นตอน ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ภายในสำนักงาน ก.พ. แต่ “หยก” ยืนยัน จะรอพบนายกฯอยู่ที่ประตูทำเนียบฯ
ผู้ใช้เบนซินเฮลดลิตรละ 0.80-2.50
ต่อมาเวลา 19.30 น. บริษัท ปตท. น้ำมัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ประกาศปรับลดราคาน้ำมันในกลุ่มเบนซิน ตั้งแต่ลิตรละ 0.80-2.50 บาท ตามมติ ครม.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซินขายปลีก ณ เวลา 00.01 น. ของวันที่ 7 พ.ย.เป็นดังนี้ น้ำมันเบนซินเหลือลิตรละ 45.04 บาท ลดลง 1 บาท จากเดิม 46.04 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 จาก 38.25 บาท ลดลง 1 บาท เหลือ 37.25 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 จากเดิม 37.98 บาท ลดลง 2.50 บาท เหลือ 35.48 บาท, อี 20 ลดลง 0.80 บาท เหลือ 35.14 บาท, อี 85 ลดลง 0.80 บาท เหลือ 35.29 บาท น้ำมันเบนซินเกรดพรีเมียม (ซุปเปอร์เพาเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95) ลดลง 1 บาท เหลือ 44.04 บาท ราคาดังกล่าวเป็นราคาขายปลีกใน กทม.ที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่น เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย.2566-31 ม.ค.2567 อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันและสถานีบริการน้ำมัน เตรียมน้ำมันแต่ละชนิดให้เพียงพอกับความต้องการ ไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
