นายกฯเร่งศึกษาขึ้นค่าแรง-เงินขรก. ให้เสร็จในพ.ย. สํานักงบเด้งรับ

“กก.บห.ก้าวไกล” ถกพิจารณาโทษ “ไชยามพวาน” ซัดแถลงข่าว 3 พ.ย. ไม่สำนึกยอมรับผิด แต่ยังทำผิดซ้ำเผยแพร่ข้อมูลผู้เสียหาย ลงมติชงเรื่องเข้ากรรมการวินัยพรรค ตั้งแท่นขับพ้นพรรคเร็วสุด 6 พ.ย. “ปูอัด” ไม่สะทกสะท้านโพสต์โชว์ลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านตามปกติ “แจ้” โวยเด็ก กก.บห.ตามราวีไม่เลิก ขู่แฉกลับเอี่ยวเอื้อรับผลประโยชน์โรงงานกำจัดขยะ รัฐบาลยันไม่เสียหน้าใช้แอป “เป๋าตัง” แจกเงินหมื่น นายกฯเร่งสปีดปั่นผลงาน สั่งศึกษาขึ้นค่าแรง-เงินเดือนข้าราชการ ขีดเส้นส่งรายงาน ครม.ภายในเดือน พ.ย. “จุลพันธ์” พร้อมปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล ขอดูภาวะเศรษฐกิจและยอดรายได้รัฐ ผอ.สำนักงบฯเด้งรับจ่อหารือผู้เกี่ยวข้องสัปดาห์นี้ ยันทำได้ไร้ปัญหา หน่วยงานใดงบฯไม่พอมีงบฯกลางรองรับได้

จากกรณีนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กระทำความผิดฝ่าฝืนวินัยสมาชิกพรรคอย่างร้ายแรง กรณีกระทําการล่วงเกิน คุกคามหรือก่อความเดือดร้อนรำคาญทางเพศต่อบุคคลอื่น แม้จะได้แถลงข่าวขอโทษเมื่อวันที่ 3 พ.ย.แต่ กก.บห.เห็นว่าไม่ได้สำนึกหรือยอมรับผิด ไม่ได้ขอโทษผู้เสียหายอย่างจริงใจ ล่าสุดจึงมีมติส่งเรื่องให้คณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณ ดำเนินการทางวินัย โดยมีโทษสูงสุดขับพ้นพรรค

...

“ก้าวไกล” นัดไล่ส่ง “ไชยามพวาน”

เมื่อเวลา 16.24 น. วันที่ 5 พ.ย. ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) แจ้งผ่านไลน์กลุ่มสื่อมวลชน มีใจความระบุว่า จากกรณีคณะกรรมการบริหารพรรค ก.ก. มีมติว่านายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรค ก.ก. กระทำการฝ่าฝืนวินัยสมาชิกพรรคอย่างร้ายแรง กรณีแสดงออกในทางตรงข้ามกับอุดมการณ์อันเป็นค่านิยมที่สำคัญของพรรค และกระทําการล่วงเกิน คุกคามหรือก่อความเดือดร้อนรำคาญทางเพศต่อบุคคลอื่น โดยในที่ประชุมร่วมกันระหว่าง สส.และ กก.บห. เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ได้มีมติให้ลงโทษด้วยการตัดสิทธิที่พึงมีในฐานะสมาชิกพรรค และกำหนดเงื่อนไขให้ดำเนินการ 1 ในเงื่อนไขกำหนดว่าต้องแถลงยอมรับผิดและขอโทษในทางสาธารณะต่อสังคมกับผู้เสียหายทั้ง 3 รายอย่างจริงใจต่อการกระทําผิดทางวินัยดังกล่าว ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 4 พ.ย. และให้ยุติการก่อความเสียหายต่อผู้เสียหายทั้ง 3 ราย โดยทางตรงและทางอ้อมโดยพลัน นับแต่ได้รับแจ้งคำสั่ง

ชง กก.วินัยตั้งแท่นขับเร็วสุด 6 พ.ย.

“เมื่อวันที่ 5 พ.ย. เวลา 13.00 น. กก.บห.ได้นัดประชุมและลงความเห็นว่า การแถลงข่าวของไชยามพวาน เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงการสำนึกหรือยอมรับว่าพฤติการณ์ของตน เข้าข่ายเป็นการคุกคามทางเพศ อีกทั้งยังไม่ได้ขอโทษต่อผู้เสียหายอย่างจริงใจ ตลอดจนยังได้กระทำการก่อความเสียหายต่อผู้เสียหายโดยการเปิดเผยข้อมูลของผู้เสียหายด้วย กก.บห.จึงมีมติว่าให้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณ เพื่อดำเนินกระบวนการวินัยสมาชิกพรรคต่อไปตามข้อบังคับพรรค โดยมีบทลงโทษขั้นสูงสุดคือการพิจารณาขับพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคในที่ประชุมร่วมกันระหว่าง สส.และคณะกรรมการบริหารพรรค ที่จะเกิดขึ้นได้เร็วสุดในวันจันทร์ที่ 6 พ.ย.” ทีมประชาสัมพันธ์พรรค ก.ก.ระบุ

“ปูอัด” ไม่สะทกสะท้านลงพื้นที่ปกติ

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรค ก.ก.ที่ถูกพรรค ก.ก. ขีดเส้นให้ออกมาขอโทษและเยียวยาผู้เสียหายภายในวันที่ 4 พ.ย. ล่าสุด ช่วงเช้าวันที่ 5 พ.ย. นายไชยามพวานได้โพสต์เฟซบุ๊กภาพการลงพื้นที่ชุมชนบางมดของตนเอง พร้อมข้อความว่า“นำวัชพืชบริเวณคลองบัวหลังชุมชนบางมดออกเรียบร้อย คลองบัวหลังชุมชนบางมดไม่เคยได้มีการนำวัชพืชออกมานานนับหลายปี ส่งผลให้น้ำระบายออกช้าและส่งกลิ่นเหม็นต่อพี่น้องประชาชน ผมได้ประสานไปยังสำนักงานเขตจอมทอง ต้องขอขอบคุณสำนักงานเขตจอมทองที่เข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่านายไชยามพวานสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ไม่มีโลโก้ พรรค ก.ก. ต่างจากการลงพื้นที่ก่อนหน้านี้ที่จะสวมเสื้อแจ็กเกตสีส้ม ติดโลโก้พรรคลงพื้นที่

“เเจ้” โวยเด็ก กก.บห.ตีไม่เลิกขู่แฉกลับ

ด้านนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี พรรค ก.ก. ซึ่งโดนขับพ้นพรรค ก.ก. จากกรณีแชตคุกคามทีมงาน โพสต์เฟซบุ๊กว่า ผมหยุดให้ข่าวไปหลังจากแถลงไปวันแรก แต่ผู้ช่วย สส.ของกรรมการบริหารพรรคบางท่านยังคงไล่ตีผมไม่หยุด หรือต้องให้ผมพูดทั้งหมด ตามข้อมูลหลักฐานที่เคยให้พรรคไป ผู้ช่วย สส.ของปราจีนบุรี จากโควตาของพรรคคนนี้ เกี่ยวพันกับการเอื้อรับผลประโยชน์จากโรงงานกำจัดขยะหลายล้านบาท ส่วนเรื่องจะทุจริตหรือไม่ทุจริตไปว่ากันในพรรค ผมเดินออกมาแล้ว คงไม่ขอก้าวล่วงกระบวนการ แต่หากพรรคยังปล่อยปละให้ผู้ช่วยของกรรมการบริหารพรรคปล่อยข้อมูลต่างๆและสร้างความเสียหายกับผมเช่นนี้ อาจจำเป็นต้องชี้แจงจากหลักฐานทั้งหมด ผมต้องการทำและสร้างการเมืองที่ไม่ทุจริต

นายกฯมุ่งมั่นปั้นอีอีซีรับนักลงทุน

วันเดียวกัน นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง ลงพื้นที่ไปตรวจราชการในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นายกฯมุ่งมั่นเร่งรัดการลงทุนภาคเอกชนในพื้นที่อีอีซีให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อเร่งสร้างงาน สร้างการผลิตและมูลค่าการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ประเทศ จำเป็นต้องให้หน่วยงานต่างๆบูรณาการทำงาน และสื่อสารความพร้อมโครงสร้างพื้นฐานต่างๆให้ชัดเจน ทั้งการเดินทาง การขนส่งสินค้า การบริการน้ำ ไฟฟ้าและสิทธิประโยชน์ต่างๆ สร้างความมั่นใจให้เอกชนที่นายกฯเชิญชวนมาร่วมลงทุนช่วงที่ผ่านมา และที่เตรียมการจะเชิญชวนต่อไปเร็วๆนี้

ขีดเส้น 60 วัน สรุปจบทุกปัญหา

นายชนินทร์กล่าวอีกว่า นายกฯสั่งการให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยหาแนวทางเร่งรัดก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังส่วนต่อขยาย ให้ดำเนินการได้ตามแผน สร้างความมั่นใจว่าจะมีโครงสร้างพื้นฐานขนส่งสินค้ารองรับเพียงพอ และรับทราบแนวทางบริหารจัดการน้ำในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมว่ามีการปรับแผนการผันน้ำรองรับช่วงที่คาดว่าน้ำจะน้อยลง มั่นใจได้ว่าจะมีน้ำเพียงพอต่อการใช้งาน เพื่อเร่งคลี่คลายปัญหาจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ และลดอุปสรรคที่ขวางการตัดสินใจลงทุนของเอกชนในต่างประเทศ นายกฯสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการเร่งรัดการลงทุนในพื้นที่อีอีซี เพื่อหาข้อสรุปทุกกรณีให้ชัดเจนภายใน 60 วัน ก่อนกลับลงมาตรวจราชการในพื้นที่อีกครั้ง

ไม่เสียหน้าใช้ “เป๋าตัง” แจก 1 หมื่น

นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนนิด้าโพลระบุเสียงประชาชน 50.08% อยากให้รัฐบาลแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท แก่ประชาชนทุกกลุ่ม โดยไม่มีเกณฑ์เงินเดือนมาเกี่ยวข้องว่า ต้องรอความชัดเจน ในวันที่ 10 พ.ย. ที่จะมีข้อสรุปหลักเกณฑ์โครงการดิจิทัลวอลเล็ตออกมา ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ระบุ โดยจะนำข้อเสนอจากคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตที่มีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เป็นประธาน มาพิจารณาร่วมไป กับฟังความเห็นจากประชาชน รัฐบาลพร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ หากจะต้องใช้แอปเป๋าตังเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการนี้ก็ดำเนินการได้ อะไรดีก็ใช้ดำเนินการต่อ ไม่ติดใจ ไม่ถือว่าเสียหน้า ขอให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ใหญ่คือ แก้ไขความเดือดร้อนประชาชนเรื่องปากท้องและกระตุ้นเศรษฐกิจได้

สั่งศึกษาขึ้นค่าแรง เงินเดือน ขรก. 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย. นายธวัชชัย จันทร์ไพศาลสิน ที่ปรึกษาประจำสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด ที่ นร 0505/ว (ล) 23425 เรื่อง การปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำและการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ถึงนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ ประธานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน รมว.คลัง รมว.แรงงาน ผอ.สำนักงบประมาณ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่า ด้วยในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 ต.ค.66 นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไว้ว่า รัฐบาลมีนโยบายในการสร้างรายได้ สร้างชีวิตของคนไทยให้มีเกียรติ มีเงินเดือน และค่าแรงขั้นต่ำที่เป็นธรรมสอดคล้องและเพียงพอต่อปัจจัยด้านการดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีนั้น

จี้เร่งรายงานผลเข้า ครม.ในเดือน พ.ย.

จึงขอมอบหมาย ดังนี้ 1.ให้กระทรวงแรงงานเร่งรัดการศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำและรายงานผลให้ ครม.ทราบโดยเร็ว 2.ให้นายปานปรีย์ ในฐานะประธาน ก.พ.รับไปเร่งรัดให้สำนักงาน ก.พ.ร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สศช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้ แนวทาง กรอบระยะเวลา และผลกระทบของการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ชัดเจน และรายงานผลให้ ครม.ทราบโดยเร็วภายในเดือน พ.ย.66 ครม.พิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบตามที่นายกฯเสนอ จึงเรียนยืนยันมาและขอได้โปรดดำเนินการตามมติ ครม.ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และขอได้โปรดดำเนินการตามมติ ครม.ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

“จุลพันธ์” ขอดูภาวะ ศก.-รายได้รัฐ

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ พนักงานรัฐ และรัฐวิสาหกิจ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้สั่งการศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้น และผลกระทบแล้ว จะต้องพิจารณาภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และการจัดเก็บรายได้ของรัฐ เป็นปัจจัยสำคัญด้วย อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังพร้อมปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล

สำนักงบฯ เด้งรับยันทำได้ไร้ปัญหา

นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผอ.สำนักงบประมาณ เปิดเผยถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ ของรัฐว่า เบื้องต้นได้หารือกับเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) แล้ว ขณะนี้ ก.พ.อยู่หว่างการศึกษาแนวทางว่าจะเพิ่มเงินเดือนได้อย่างไร ต้องปรับบัญชีหรือไม่ และจะเพิ่มหน่วยงานใดบ้าง เช่น ข้าราชการพลเรือน ทหาร เป็นต้น หลัง ได้ข้อสรุปจะหารือกับสำนักงบประมาณเพื่อดูช่องทางการเพิ่มเงินเดือนให้ข้าราชการ คาดว่าสัปดาห์นี้จะมีการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงบประมาณ โดยมีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ เป็นประธาน หลังได้ข้อสรุปจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ทันภายในเดือน พ.ย. ตามข้อสั่งการนายกฯได้แน่นอน

หน่วยงานงบฯไม่พอ ใช้งบฯกลางได้

นายเฉลิมพลกล่าวว่า สำหรับแหล่งเงินที่จะใช้เพื่อจ่ายเงินเดือนเพิ่มให้ข้าราชการ จะต้องดูว่าจะเริ่มจ่ายได้เมื่อใดและใช้เท่าใด หากจะใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 สามารถทำได้ แม้จะมีการยื่นคำของบฯ ของหน่วยงานเข้ามาแล้ว แต่ยังมีงบฯกลาง (เงินเลื่อนขั้นเงินเดือน เงินปรับวุฒิข้าราชการ) ที่นำมาใช้ได้หากหน่วยงานนั้นมีงบฯไม่เพียงพอ แต่ถ้าเริ่มปีงบฯ 68 ทำได้ไม่มีปัญหา เพราะปฏิทินปีงบฯ 68 สำนักงบประมาณจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ภายในเดือน ม.ค. 67 ยังมีเวลาในการจัดทำคำขอ

คสรท.ฉะการเมืองแทรกขึ้นค่าจ้าง

นายชาลี ลอยสูง ที่ปรึกษาคณะกรรมการ สมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) กล่าวว่า นายกฯ และ รมว.คลัง สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นการแทรกแซงชัดเจน เพราะการปรับค่าจ้างมีคณะกรรมการไตรภาคีพิจารณาอยู่แล้ว โดยเฉพาะ รมว.แรงงานไม่ควรพูดว่าไม่สามารถปรับในอัตรา 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศได้ รัฐบาลอยากให้เศรษฐกิจประเทศดีขึ้นต้องเติมกำลังซื้อ ทำได้ด้วยการปรับรายได้เพิ่มขึ้น ไม่ใช่แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จ่ายมาแล้วหายไป แต่หากปรับค่าแรงขั้นต่ำจะยั่งยืนตลอดไป คนไหนที่มีงานทำคนนั้นจะมีเงินไปซื้อของ และการปรับค่าแรงขั้นต่ำ ต้องปรับตามสภาพความเป็นจริง ข้าวของแพงขึ้นทุกอย่าง แต่เงินในกระเป๋าน้อยลง ตัวเลขที่ควรปรับเพิ่มควรเป็น 400 บาทเท่ากันทั้งประเทศ ตามที่ฝ่ายรัฐบาลเคยหาเสียงเอาไว้

“ธนกร” หนุนลดรายจ่าย ปชช.ต่อเนื่อง

นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค รทสช.ให้สัมภาษณ์หลังรัฐบาลออกมาตรการลดค่าน้ำมัน ค่าพลังงาน ค่าไฟฟ้า ลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนอย่างต่อเนื่องว่า เป็นการช่วยเหลือประชาชนโดยตรง ลดภาระค่าครองชีพ เห็นผลชัดเจน หากทำต่อเนื่องเหมือนที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ประกาศว่าจะลดราคาพลังงานไปจนถึงปีใหม่ จะเห็นผลดีต่อทั้งประชาชนและภาพรวมของเศรษฐกิจ และรัฐบาลควรมีมาตรการระยะยาวให้เกิดประโยชน์ในอนาคตมากกว่านี้ ส่วนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ริเริ่มทำสำเร็จแล้ว หากทำให้ต่อเนื่องจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นายกฯกำลังเร่งขันนอต แก้ปัญหา ที่ยังติดขัด โดยเฉพาะโครงการแลนด์บริดจ์ ที่ จ.ระนอง-ชุมพร ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เริ่มการศึกษาไว้นั้น ตนได้เห็นนายกฯนำไปขับเคลื่อนและเชิญชวนนักลงทุนทั้งจีนและต่างประเทศมาลงทุนในโครงการนี้อย่างจริงจัง เชื่อว่าหากทำต่อจนสำเร็จ จะส่งเสริมให้ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ SEC เกิดการขยายศักยภาพ สร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง

“อรรถวิชช์” ชง ก.ม.ปฏิรูปเครดิตบูโร

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต สส.กทม. และอดีตรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า เปิดเผยว่า หลังลาออกจากรองหัวหน้าชาติพัฒนากล้า ได้ลงมาลุยภาคประชาชนเต็มตัว ได้รับความกรุณาจากพี่ๆหลากหลายวงการ ทั้งผู้เชี่ยวชาญ กลุ่มใกล้ชิดผู้เดือดร้อนมาร่วมกันร่างกฎหมายปฏิรูปเครดิตบูโรสำเร็จแล้ว ร่างฉบับนี้จะยุติการแช่แข็งลูกหนี้ ลดความเดือดร้อนประชาชน ไม่ต้องติดระบบแบล็กลิสต์กว่า 3 ปี เราสร้างกติกาใหม่ในการแจ้งข้อมูลเครดิต และการทำลายข้อมูลเก่าที่เกินความจำเป็นให้เป็นธรรมกับประชาชน ได้มีโอกาสฟื้นตัวและได้รับสินเชื่อที่เป็นธรรม ไม่ต้องโดนดอกเบี้ยสูงของหนี้นอกระบบ สัปดาห์หน้าจะไปยื่นต่อประธานสภาฯตรวจร่างกฎหมายและเตรียมขอรายชื่อจากประชาชน 10,000 รายชื่อ ขอให้ประชาชนเป็นหลังพิงให้เราทำกฎหมายให้สำเร็จ จะมีเว็บไซต์ให้ร่วมกันลงชื่อเร็วๆนี้ เชื่อว่า สส.-สว.จะสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ต่อไป

“วันชัย” กระทุ้งปล่อยผีม็อบการเมือง

วันเดียวกัน นายวันชัย สอนศิริ สว.โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า การข่มขู่คุกคามทางเพศของ สส.พรรคก้าวไกล เป็นการกระทำที่ทั้งพรรคและสังคมประณาม เป็นการกระทำที่เป็นเรื่องส่วนตัว สส. มิใช่เป็นเรื่องของประเทศและประชาชนหรือเรื่องทางการเมือง จะถูกขับไล่ สังคมประณามหรือถูกดำเนินคดีอาญาเป็นเรื่องของ สส.คนนั้น ไม่ควรจะได้รับการอภัยหรือนิรโทษกรรม ผิดต้องผิด ต้องว่ากันให้สุดๆ แต่การเคลื่อนไหวและการชุมนุมทางการเมืองของเสื้อเหลืองเสื้อแดง นปช. กปปส. ตลอดจนกลุ่มการเมืองต่างๆเป็นการกระทำและต่อสู้ทางการเมืองเพื่อประเทศและประชาชน ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวคนใดคนหนึ่ง ไม่มีไถยจิตคิดชั่ว แม้จะผิดกฎหมายอาญา กฎหมายแพ่งไปบ้าง เป็นเรื่องการเมือง จะเอาเป็นเอาตายไปถึงไหน นี่เกือบสองทศวรรษแล้ว จะโกรธเกลียดห้ำหั่นกันไปทำไม

แซะ พท.น่าอายเมิน ก.ม.นิรโทษฯ

นายวันชัยระบุอีกว่า ผู้มีอำนาจบางคนบางพวกได้ดิบได้ดี เสวยสุขเสวยอำนาจ มาจากพวกเขานี่แหละ แต่ทำแบ๊ะๆกันไป ควรสำนึกสำเหนียกกันบ้าง จบได้ควรจบ เลิกได้ควรเลิก จะให้เขาทุกข์ทรมานไปถึงไหน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยแกนนำรัฐบาล กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง รู้เช่นเห็นชาติเรื่องนี้เป็นอย่างดี แทนที่จะเป็นคนเริ่มต้น กลับให้พรรคก้าวไกลทำน่าอายนะ จะเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมแบบไหนก็รีบๆทำ ประกบเข้าไปเลย เปิดประชุมสมัยหน้ารีบเสนอเข้าสภาฯให้จบในสมัยนั้น เอ้อเร่อเอ้อเต่อต่อไป เดี๋ยวไม่ได้ทำ จะบอกให้

“พงศ์สินธุ์” ปัด “คึก” ยังไม่ได้ปล่อยตัว

วันเดียวกัน นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ น้องชายของนายเทพไท เสนพงศ์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวหัวข้อว่า “คุณเทพไทจะได้รับการปล่อยตัววันไหน? เงื่อนไขการพักโทษหรืออภัยโทษ?” มีใจความว่า ไม่ได้ไปเยี่ยมคุณเทพไทที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชมาหลายวันแล้ว จึงไม่ค่อยได้ทราบข่าวความเคลื่อนไหวของคุณเทพไทมากนัก แต่จากกระแสข่าวเรื่องการปล่อยตัวคุณเทพไทในสื่อโซเชียลว่า “คุณเทพไทจะได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 5 พ.ย. จากข้อเท็จจริงที่ผมรับทราบน่าจะเป็นวันเวลาที่คลาดเคลื่อน เพราะถ้าหากจะมีการปล่อยตัวในวันที่ 5 พ.ย.ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะวันอาทิตย์เป็นวันหยุดราชการ การปล่อยตัวนักโทษในเงื่อนไขการพักโทษไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เว้นแต่การปล่อยนักโทษที่ครบกำหนดวันคุมขังเท่านั้นเพราะการปล่อยโทษในเงื่อนไขการพักโทษนั้น จะต้องมีการติดกำไร EM จากกรมควบคุมประพฤติด้วย ดังนั้น เมื่อวันนี้เป็นวันอาทิตย์เป็นวันหยุดราชการ คงไม่มีเจ้าหน้าที่ข้าราชการมาดำเนินการปล่อยตัวคุณเทพไทในวันนี้ ตามกระแสข่าวที่ปรากฏในสื่อโซเชียลอย่างแน่นอน

ชี้เคยขอพักโทษหลายครั้งถูกปัดทิ้ง

“ส่วนการพูดถึงเงื่อนไขการปล่อยตัวที่จะ เกิดขึ้นว่า จะเป็นการพักโทษ หรือการได้รับอภัยโทษ ตามที่เคยได้พูดคุยกับคุณเทพไทที่เคยยื่นขอพักโทษมาหลายครั้งแล้ว ตามเงื่อนไขการพักโทษที่เคยใช้กับกรณีคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา มาแล้วคือจำคุกได้ 1 ใน 3 ของโทษ แต่รับแจ้งจากกรมราชทัณฑ์ว่า ประกาศฉบับนั้นได้ยกเลิกไปแล้ว หลังจากใช้บังคับได้ไม่นาน ต่อมาเมื่อคุณเทพไทถูกจำคุก ครบ 1 ใน 2 ของโทษคือครึ่งหนึ่งของโทษแล้ว เคยยื่นขอพักโทษเช่นเดียวกัน แต่ได้รับคำตอบว่าไม่มีเงื่อนไขการประกาศพักโทษ จึงได้รอคอยจนถึงวันต้องโทษจำคุกครบ 2 ใน 3 ตามเงื่อนไขกรมราชทัณฑ์ที่ใช้กับนักโทษทั่วไป คุณเทพไทขอใช้สิทธิ์ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ทุกประการไม่ได้ใช้สิทธิพิเศษ ดังนั้นการปล่อยตัวคุณเทพไท ถ้าจะมีไม่ใช่วันที่ 5 พ.ย.แน่นอน แต่จะเป็นวันใด ครอบครัวกำลังรอให้เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์แจ้งมาก่อน เงื่อนไขในการปล่อยตัวคุณเทพไทครั้งนี้คือการพักโทษไม่ใช่การอภัยโทษ” นายพงศ์สินธุ์ระบุ

คปท.คาใจคน พท.แทรกแซงสื่อ

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่หน้าโรงพยาบาลตำรวจ ฝั่งศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สี่แยกราชประสงค์เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทยหรือ คปท.นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล และนายนัสเซอร์ ยีหมะ นัดหมายแนวร่วมจัดชุมนุม “เยี่ยม นช.ทักษิณ” เป็นกิจกรรมที่กลุ่มดังกล่าวประกาศจัดขึ้นทุกวันอาทิตย์จนกว่านายทักษิณ ชินวัตร จะกลับเข้าเรือนจำ มีการปราศรัยสลับการแสดงดนตรี โดยนายพิชิตกล่าวว่า สังคมกำลังตั้งข้อสงสัยนายเศรษฐา ทวีสิน ว่า เป็นนายกฯหุ่นเชิดของพรรคเพื่อไทยเพราะไม่กล้าตัดสินใจนำนายทักษิณ ชินวัตร กลับไปเข้าคุก ไม่กล้าแม้แต่จะพูดถึงเรื่องนี้ ล่าสุด นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ไปออกรายการโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท. แล้วมีการพูดถึงนายทักษิณที่กำลังรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ในรายการปรากฏว่า ผู้บริหาร อสมท.บอกเทปสัมภาษณ์นี้ออกอากาศไม่ได้ เพราะเกรงไปกระทบรัฐบาล ดังนั้น วันที่ 7 พ.ย.เราจะเดินทางไปถามนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯที่ทำเนียบรัฐบาล ว่าเหตุใดจึงมีการแทรกแซงสื่อ

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘อีลอน มัสก์’ หนุน ‘ทรัมป์’ พนักงานบริจาคให้‘แฮร์ริส’

ข้อมูลจากโอเพนซีเคร็ตส์ องค์กรไม่หวังผลกำไรไม่แบ่งฝักฝ่าย ผู้ติดตามข้อมูลการบริจาคเงินหาเสียงและการล...

สหภาพแรงงาน Teamsters ไม่หนุน'ทรัมป์-แฮร์ริส'

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สหภาพแรงงานทีมสเตอร์สมีสมาชิกกว่า 1.3 ล้านคน เป็นตัวแทนของกลุ่มคนขับรถบร...

ครึ่งแรกปี67จีนครองแชมป์ซื้อคอนโดเมียนมาซิวเบอร์สองแซงรัสเซีย2ปีซ้อน

วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป...

อสังหาฯ แบกสต็อกอ่วม 1.57 ล้านล้าน เอ็นพีแอลพุ่ง ‘ทุกตลาดติดลบหนัก’

นายกสมาคมอาหารชุด หวังเร่งแก้นอมินีต่างชาติในตลาดบ้านมูลค่า 1 ล้านล้านบาท จัดเก็บภาษี หวังแบงก์ชาติล...