“วิโรจน์” จวก “ปูอัด” จงใจฝ่าฝืนมติพรรค ฮึ่มไร้ที่ยืนแล้ว จ่อชงขับพ้นพรรค อัดแถลงข่าวไม่สำนึกผิด ปฏิเสธความรับผิด ไม่ขอโทษตรงไปตรงมาแถมยังทำผิดซ้ำเปิดเผยข้อมูลผู้เสียหาย เหยื่อหื่นกามผิดหวัง 22 สส.ก้าวไกล ไม่โหวตลงมติขับ วอนเลิกเข้าข้างเพื่อนหวด “ไชยามพวาน” น่ารังเกียจย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ คุกคามผู้อื่นเห็นเป็นแค่วัตถุทางเพศ กลุ่มผู้ช่วย สส.ก่อหวอดทวงความยุติธรรม จ่อออกจดหมายเปิดผนึก “เพชร” เบรกวุ่นอ้างเรื่องอยู่ในกระบวนการ “แทนคุณ” ปลุกติดโบขาวร่วมต่อต้าน ท้า ก.ก.เปิดชื่อ 22 สส.เล่นพวก “ศรี” จ่อร้อง ป.ป.ช.ฟัน 2 สส.ผิดจริยธรรมร้ายแรง “เศรษฐา” ลั่นไม่มีถอยดิจิทัลวอลเล็ต การันตีไร้ทุจริต ขีดเส้น 10 พ.ย. รู้เรื่องจบไทม์ไลน์แจกเงินหมื่น นั่งรถไฟลุยชลบุรี-ระยอง เร่งสางอุปสรรคอีอีซี ตั้งคณะกรรมการย่อยทะลุทะลวงทุกปัญหา
จากกรณีนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ “ปูอัด” สส.กทม.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่ถูกร้องเรียนพฤติกรรมคุกคามทางเพศ ได้เปิดแถลงข่าวขอโทษสังคมและพรรค แต่ยังไม่มีท่าทียอมรับผิดและเยียวยาผู้เสียหายอย่างจริงใจ ทำให้เกิดกระแสต่อต้านทั้งจากภายในพรรคและภายนอกพรรคตามมาอย่างต่อเนื่อง
“วิโรจน์” เฉ่ง “ปูอัด” ไม่สำนึก ไร้ที่ยืน
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่าหลังจากนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือปูอัด สส.กทม. พรรค ก.ก. ตั้งโต๊ะเปิดแถลงข่าวชี้แจงปมถูกร้องคุกคามทางเพศ พร้อมขอโทษ 3 เหยื่อสาวและเพื่อนสมาชิกพรรค แต่ไม่ยอมลาออกจาก สส. ล่าสุดนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก.ทวีตข้อความผ่าน X หลายครั้ง พร้อมแท็กนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม.พรรค ก.ก. มีข่าวอื้อฉาวในประเด็นคุกคามทางเพศ ระบุว่า คุณไชยามพวาน @chaiyamparwaan สิ่งที่ทำไม่ใช่การสำนึกผิด เป็นเพียงการแสดงเพื่อให้ตนปฏิเสธความรับผิด แถมมีการนำเอาข้อมูลของผู้เสียหายมาเปิดเผย ทำให้บุคคลอื่นทราบว่าผู้เสียหายเป็นใคร เป็นการกระทำซ้ำต่อผู้เสียหาย คุณหมดอนาคต ไร้ที่ยืนในสังคมแล้ว หากภายในวันที่ 4 พ.ย. ยังไม่ยอมแถลงยอมรับมติพรรค ยอมรับว่ามีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ขอโทษผู้เสียหายตรงไปตรงมา ไม่เสนอเยียวยาผู้เสียหายเป็นรูปธรรม ถือว่ามีเจตนาไม่ปฏิบัติตามมติพรรค ผมและเพื่อน สส.ทุกคน จะเสนอให้ขับสิ่งมีชีวิตผู้นี้ออกจากพรรค
...
เหยื่อหื่นผิดหวัง 22 สส.ไม่ลงมติขับ
วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร”ได้โพสต์จดหมายเปิดผนึก ที่เพจอ้างว่าเป็นจดหมายผู้เสียหายถึงพรรค ก.ก. มีใจความตอนหนึ่งว่า รู้สึกผิดหวังผลการลงคะแนนเสียง เมื่อวันที่ 1 พ.ย. เผยให้เห็นว่า สส. 22 คน ในพรรค ก.ก. ยังไม่ตระหนักถึงความรุนแรงจากการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้น เพิกเฉยต่อทัศนคติที่คับแคบ ขาดความรับผิดชอบของผู้กระทำ ดิฉันพยายามมอบหลักฐานเพื่อพิสูจน์เจตนาของผู้กระทำการล่วงละเมิดทางเพศ ความคาดหวังคือการที่ สส.พรรค ก.ก.มักยกย่องตนเองว่าเป็นผู้มีการศึกษา มีเกียรติ ใช้วิจารณญาณ จิตสำนึกความเป็นเพื่อนมนุษย์ตัดสินจากหลักฐานทั้งหมด ผลลัพธ์ที่น่าผิดหวังจนทำให้ดิฉันเกือบจะสิ้นหวัง สมาชิกบางท่านได้ปล่อยให้แรงจูงใจส่วนบุคคล บ่อนทําลายการแสวงหาความยุติธรรม
ซัดน่ารังเกียจย่ำยีความเป็นมนุษย์
จดหมายดังกล่าวระบุอีกว่า สังคมจําเป็นอย่างยิ่งที่จะไม่เพิกเฉยการกระทำที่ทำให้ผู้อื่นตกเป็น “วัตถุทางเพศ” โดยเฉพาะเมื่อกระทําโดยบุคคลในตำแหน่งที่มีอำนาจเหนือกว่า ถือเป็นความผิดร้ายแรง ลดทอนคุณค่า เหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างหาที่สุดไม่ได้ น่ารังเกียจ ส่งผลทั้งร่างกาย จิตใจอย่างใหญ่หลวง ความอยุติธรรมที่ชัดที่สุดคือ ผู้กระทำการล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ตระหนักรู้ถึงความผิด กล่าวหาและนำข้อมูลส่วนตัวของดิฉันออกสู่สาธารณชน เป็นการโยนความผิด ผลักภาระการพิสูจน์ความจริงมาที่ผู้ร้องโดยตรง เป็นประสบการณ์ที่ตามหลอกหลอนผู้ถูกกระทำ แม้กระทั่งหลังจากที่ได้รับความยุติธรรมแล้ว มีเพียงเหยื่อเท่านั้นที่จะสามารถรับรู้ ผลกระทบที่เจ็บปวดอย่างหาที่สุดไม่ได้จากการล่วงละเมิดทางเพศ
วอนโหวตเตอร์เลิกเข้าข้างเพื่อน
“ขอวิงวอนให้ทุกท่านพิจารณาอีกครั้งว่า บุคคลนี้มีคุณสมบัติเหมาะสมเป็นผู้แทนราษฎรหรือไม่ ลองถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้ว่า ถ้าหากเหตุการณ์เหล่านี้เกิดกับคนใกล้ชิด คนสนิท พี่สาว น้องสาว ลูกสาว หรือภรรยาของคุณ จะยังยินดีที่สนับสนุนบุคคลที่คุกคามทางเพศหรือไม่ ยังยืนยันจะเข้าข้างเพื่อนของคุณหรือไม่ คุณเป็นเพียงนักการเมืองที่มีอคติอีกคน ที่ปล่อยให้ผลประโยชน์ส่วนตัวกลืนกินจิตสำนึกของคุณหรือไม่ หรือจะเป็นนักการเมืองที่ยืนอยู่บนหลักการ ความจริงและความถูกต้อง การตัดสินใจของคุณครั้งนี้สะท้อนมุมมองและทัศนคติอุปนิสัยและความจริงใจในการตระหนักถึงความรุนแรงในการคุกคามทางเพศ ผลลัพธ์จากทางเลือกที่คุณตัดสินใจยังทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจว่าคุณล้มเหลวในความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้แทนฯที่ดี และไม่สามารถเป็นผู้แทนฯที่ประชาชนไว้ใจอีกต่อไป”
“เพชร” เบรกวุ่น จ.ม.เปิดผนึกผู้ช่วย สส.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากมีการเคลื่อนไหวของ สส.ของพรรคที่ไม่พอใจต่อมติพรรค ก.ก.แล้วยังมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ช่วย สส.ของพรรคเตรียมออกจดหมายเปิดผนึกต่อเหตุการณ์การคุกคามทางเพศที่เกิดขึ้น แต่ถูกเบรกเสียก่อน จึงมีการแคปภาพหน้าจอข้อความของนายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก.ในฐานะรองโฆษกพรรคที่ส่งในไลน์กลุ่ม สส.และผู้ช่วย สส.ของพรรคมาเเชร์กันในโลกออนไลน์ ที่ระบุว่า ทราบว่าผู้ช่วย ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการจะออกจดหมายเปิดผนึกเหตุการณ์คุกคามทางเพศ หัวหน้าพรรคได้ขอให้ สส.ทุกคน หยุดการแสดงความเห็นเรื่องนี้ เพราะจะไปกลบการยื่นกฎหมายสำคัญของพรรค ไม่ว่าเรื่องยุบ กอ.รมน. การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฯลฯ เมื่อพรรคให้ สส.หยุดสื่อสาร แต่ผู้ช่วย สส.จะสื่อสารเสียเองแบบนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามข้อเท็จจริงดังกล่าว นายกรุณพลตอบว่า เป็นข้อความของตนจริง แต่ไม่ใช่การบังคับ สส.และผู้ช่วย สส.หรือผู้เชี่ยวชาญประจำตัว สส. เพียงแต่เป็นความร่วมมือโดยเฉพาะในส่วนผู้ช่วย สส.ที่จะออกจดหมายเปิดผนึกที่เพื่อนผู้ช่วย สส.ที่ถูกคุกคามทางเพศไม่ได้รับความเป็นธรรม เรื่องนี้ยังอยู่ในกระบวนการ และหัวหน้าพรรคได้กำหนดแล้วว่าให้นายไชยามพวานทำตามมติพรรคในวันที่ 4 พ.ย. ถ้าไม่ทำต้นสัปดาห์หน้าจะประชุม กก.บห.เพื่อพิจารณาว่าจะมีมติขับออกจากพรรคหรือไม่
อีกคลิปโผล่อ้างทีมงานแอบชอบ “ปูอัด”
ขณะที่ในโลกออนไลน์ มีการแชร์คลิป ผู้ช่วยสส.ของนายไชยามพวาน พูดคุยชี้แจงกับผู้สื่อข่าว ที่รัฐสภา ทำนองว่าที่ผ่านมานายไชยามพวานไม่เคยออกมาตอบโต้อะไร มีแต่น้องๆมาเล่นงาน น้องยังทำงานอยู่กับตน ไม่แน่ใจว่าเขาออกมารูปนี้ได้อย่างไร ไม่เข้าใจ ตนเป็นผู้ช่วยอาวุโสที่คุมน้องๆทั้งหมด น้องๆลอยหน้าลอยตาออกมาพูดอยู่ฝ่ายเดียว เกี่ยวกับน้องๆแอบชอบคุณปูอัดทั้งหมด แล้วไม่ได้ดั่งใจ เลยออกมาเล่นงาน ทั้งนี้ คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่รัฐสภา หน้าห้องประชุมที่คณะกรรมการบริหารและ สส.พรรค ก.ก. กำลังพิจารณากรณี 2 สส.ถูกร้องเรียนคุกคามทางเพศ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.โดยความเห็นชายคนดังกล่าวถูกวิจารณ์อย่างหนักจากโลกโซเชียล
สก.เตือน “บังหมัด” ทำงานให้มิจฉาชีพ
วันเดียวกัน น.ส.ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัยหรือ สก.เนอส สก.เขตบางซื่อ พรรค ก.ก.แชร์คลิปดังกล่าว พร้อมทวีตข้อความว่า สรุปทีมชายแท้ปัจจุบันคิดแบบนี้ถึงออกมาแถลงใส่เนกไท ใส่สูทที่หลอกเอาของเหยื่อมาแอ็กติ้งเสียงสั่น ตอนเนอสโดนหลอกก็ชื่นชมมันเหมือนกัน ไม่รู้จะอ่านออกสื่อแล้วกำเงินที่เนอสให้ไปด้วยบ้างไหม ถึงบังหมัดด้วยความเคารพ บังหมัดกำลังทำงานให้มิจฉาชีพอยู่ อาจจะยากที่จะยอมรับเพราะว่าพี่รักและช่วยมันมาตั้งแต่มันยังไม่มีอะไรเลยจนถึงวันนี้ หนูนับถือใจพี่มาก แต่หนูอยากให้พี่รักตัวเอง แล้วมองมันตามความเป็นจริงเสียที ลองคุยกับพรรคเพื่อรับข้อมูลอีกด้านหนึ่ง ยังไม่สายเกินไปค่ะ
“แทนคุณ” ปลุกติดโบขาวต่อต้าน
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ รักษาการประธาน คณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า กรณีมติพรรค ก.ก.เสียงไม่พอขับ สส.คุกคามทางเพศไม่เกินคาด พรรค ก.ก.แสดงอะไรแบบนี้เป็นประจำ ทำให้หลงเชื่อว่าเป็นพรรคหัวก้าวหน้า แต่ธาตุแท้คือเมาเสรี ฟรีกาม คุกคามประชาชน จนกลายเป็นภัยคุกคามสังคมรูปแบบหนึ่ง ผู้มีอำนาจนำตัวจริงปกป้องพวกเดียวกัน ไม่มีแม้แต่คำ “ขอโทษ” ถึงผู้เสียหาย ทั้งจากผู้บริหารและผู้กระทำเอง เท่ากับสนับสนุนการกระทำซ้ำๆ การส่งเสียงความเสมอภาคทางเพศเป็นเพียงละครตบตาประชาชน ในพรรคยังแฝงฝังด้วยค่านิยมชายเป็นใหญ่ ไม่ฟังเสียงแห่งความเจ็บปวดที่เพรียกหาความยุติธรรมจากผู้เสียหาย ยิ่งมีอำนาจและสถานภาพด้อยกว่า ยิ่งถูกกระทำซ้ำ พรรคผลิตซ้ำ คนกระทำผิดซ้ำๆ พวก สส.ที่สนับสนุนอาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติ จึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมกันติดโบหรือริบบิ้นสีขาวรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก โดยเฉพาะการคุกคามทางเพศ การละเมิดทางเพศ
ท้าเปิดชื่อ 22 สส.เล่นพวกอุ้ม “ปูอัด”
“การรณรงค์นี้เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ สส.พรรคก.ก.ที่ยังไม่ลาออกทั้งที่มีความผิดจริง และต้องขอบคุณ สส. 106 คนที่ลงมติเห็นควรขับออก ทำไมไม่กล้าเปิดรายชื่อ สส.ที่ลงมติไม่ขับอีก 22 คน จะอ้างว่าใช้ดุลพินิจแล้ว ยังไม่เข้าข่ายไม่ได้ เพราะเสียงส่วนใหญ่ ที่ประชุมเห็นว่าควรขับออกแล้ว เท่ากับเล่นพรรคเล่นพวก ใช้สายสัมพันธ์ช่วยเหลือคนกระทำผิดหรือไม่ โดยเฉพาะการไม่ออกมาขอโทษผู้เสียหายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ยิ่งสะท้อนความไร้จริยธรรม ไร้จรรยาบรรณ ในฐานะนักการเมืองผู้ชายของ สส.ก้าวไกลที่พูดนโยบายค่านิยมพรรคสวยหรูดูดี แต่ภาคปฏิบัติกลับไร้มโนธรรมต่อผู้ถูกกระทำอย่างแท้จริง” นายแทนคุณกล่าว
“ศรีฯ” ยื่น ป.ป.ช.ฟันผิดจริยธรรมร้ายแรง
นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน เปิดเผยว่า วันที่ 6 พ.ย. เวลา 10.00น. จะไปยื่นร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบกรณีพรรค ก.ก.มีมติลงโทษ 2 สส.ที่ถูกกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ มติพรรคทั้ง 2 กรณี เป็นหลักฐานยืนยันว่า 2 สส.มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศจริง ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 219 ขอให้ ป.ป.ช.ไต่สวนและมีความเห็นว่าการกระทำของ สส.ดังกล่าวฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ เพื่อส่งให้อัยการยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาเพิกถอนตำแหน่ง สส.และตัดสิทธิ์ทางการเมืองตามครรลองของกฎหมายต่อไป
นายกฯขึ้นรถไฟลุยงานชลบุรี–ระยอง
เมื่อเวลา 08.45 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายก รัฐมนตรีและ รมว.คลัง ไปตรวจราชการ จ.ชลบุรีและระยอง โดยขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ 995 ชานชาลาที่ 5 จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) ไปยังสถานีรถไฟแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก นายสนธยา คุณปลื้ม ประธานที่ปรึกษาเมืองพัทยาร่วมคณะ
สร้างความเชื่อมั่นดึงนักลงทุนมาอีอีซี
ระหว่างเดินทาง นายกฯประชุมรับฟังรายงานสรุปภาพรวมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน การรองรับสินค้าท่าเรือแหลมฉบัง โดยนายกฯกล่าวช่วงหนึ่งว่า อยากให้แผนพัฒนาคืบหน้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน ที่ผ่านมาดูเหมือนล่าช้า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดแถลงความคืบหน้าด้วย ต่อมานายกฯโพสต์เฟซบุ๊กว่า ตั้งใจนั่งรถไฟจากสถานีหัวลำโพงไปศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี การเดินทางสะดวกและสะอาดมาก คิดว่า EEC เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ เราต้องเร่งรัด ให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน รัฐบาลต้องเตรียมระบบสาธารณูปโภค เช่น ระบบน้ำ มาตรการทางภาษีและอื่นๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน
ขีดเส้น 10 พ.ย. รู้เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต
นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ระหว่างนั่งรถไฟถึงความคืบหน้าเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทว่า วันที่ 10 พ.ย.รู้เรื่องทุกอย่าง มีขั้นตอนไทม์ไลน์ กฎกติกาที่ชัดเจน และต้องให้เกียรติคณะกรรมการด้วย อยากให้เป็นไปตามขั้นตอน เพราะเดี๋ยวจะสับสน ดิจิทัลวอลเล็ตเป็นเรื่องสำคัญ อาจมีความเห็นต่างบ้าง แต่ทุกคนยอมรับว่าต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ลักษณะหรือขอบเขตหรือปริมาณการกระตุ้นเศรษฐกิจเท่าไหร่อย่างไรต้องมาคุยกัน ยืนยันตลอดหากใครมีข้อเสนอแนะ รับฟัง ซึ่งไม่ใช่การรับ ฟังเฉยๆ ผู้สื่อข่าวถามว่านโยบายนี้ดูเหมือนจะเดิมพันฝีมือก้าวต่อไปของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรค พท. นายเศรษฐากล่าวว่า ให้ประชาชนเป็นคนตัดสินจะดีกว่า ที่สื่อบางสำนักทำโพลสำรวจมาเห็นว่า เศรษฐกิจ ปากท้องเป็นสิ่งสำคัญ ดิจิทัลวอลเล็ตก็เป็นเรื่องสำคัญ ยังมีหนี้ครัวเรือน ได้ประชุมไปแล้ว รวมถึง 30 บาทรักษาทุกโรค มีหลายเรื่องสำคัญทุกเรื่องเป็นเดิมพันหมด แม้แต่การบริหารจัดการน้ำ ต้องทำเรื่องเหล่านี้จริงจัง
ย้ำรับฟังทุกความเห็น
นายเศรษฐากล่าวอีกว่า นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ทำงานหนัก แต่เวลามีไมค์มาจ่อปากท่านต้องตอบ เราอยู่ระหว่างการทำงาน อาจมีการเปลี่ยน แปลงบ้าง แต่มาหาว่าท่านพูดกลับไปกลับมามันไม่ใช่ เพราะอยู่ระหว่างการคุย เมื่อมีคำเตือนมาตนรับฟัง สื่ออาวุโสหลายท่านเตือนมา ผู้ว่าการแบงก์ชาติบอกไม่ได้ติดอะไร แต่ให้ระวัง ให้เขียนภาพระยะยาว เวลาออกมาแล้วจะกระทบกับเศรษฐกิจเชิงบวกอย่างไร รวมถึงการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจเวลาจะแถลงต้องแถลงให้ครบทั้งหมด เมื่อเวลามีคำถามอะไรจะได้ตอบได้ แต่เห็นใจนายจุลพันธ์ ทำงานหนักมาก ในฐานะดูแลเรื่องนี้และไปคุยกับทุกภาคส่วน ยังมีกฤษฎีกา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วย ที่เราได้หาเสียงและพูดอะไรไปต้องไปปรึกษา เมื่อมีข้อคิดเห็นมาเราต้องฟัง เมื่อถามว่าประชาชนคาดหวังสูงว่าเศรษฐกิจปากท้องจะดีขึ้น ภายในกี่เดือนประชาชนจะยิ้มอย่างมีความสุขได้ นายเศรษฐาตอบว่า ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่ความตั้งใจตนอยากให้ยิ้มทุกวัน อยากให้ยิ้มเร็วๆ กระตือรือร้นอยากจะทำ แต่ไม่ได้หมายว่าจะทำไม่ได้ นิสัยตนไม่ใช่คนแบบนั้น อยากทำให้ได้ ทุกคนรู้ดี มันไม่ได้อยู่ที่ตนคนเดียว มีปัญหาต่างๆเข้ามามีปัจจัยภายนอกรุมเร้าเยอะ
แอป “เป๋าตัง” มีส่วนร่วมแน่
เมื่อถามว่า นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเดินหน้าต้องระวัง ถอยหลังก็ไม่ได้ใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ถ้าพูดอย่างนั้นหมายความว่าตนมีความคิดที่จะถอยหลัง ไม่ได้คิดจะถอยหลังเลยฉะนั้นต้องทำและต้องทำออกไปให้ดีที่สุด ให้ถูกต้องตามกฎหมายที่สุด ให้คนได้รับผลประโยชน์สูงสุด สาธารณชนต้องเข้าใจด้วยว่าระบบนี้วิธีการนี้ไม่มีการคอร์รัปชัน ในเชิงปฏิบัติไม่มีที่ให้ประชาชนต้องสงสัยว่าใครได้อะไร เรื่องทุจริตประพฤติมิชอบตนก็ไม่สบายใจ แต่ไม่ต้องห่วง แอปพลิเคชันเป๋าตังมีส่วนร่วมแน่นอน ให้ความสะดวกและง่ายให้ประชาชนใช้นโยบายนี้ได้อย่างสบายใจ ส่วนพื้นที่การใช้หรือให้ถอนใช้เป็นเงินสดไปใช้ที่จังหวัดอื่นไม่ได้ เช่น จ.เชียงใหม่หรือ กทม. เมืองเหล่านี้เขียวอยู่แล้ว อยากให้ไปใช้ในเมืองที่มีจีดีพีรายได้ต่อหัวต่ำ จะทำให้ชุมชนและเศรษฐกิจพื้นที่เหล่านั้นเฟื่องฟูลืมตาอ้าปากได้ ไม่ได้ตั้งใจจะไม่ทำ ไม่รับฟังหรือดื้อที่จะทำ เรื่องนี้ไม่ใช่เศรษฐศาสตร์ ไม่ใช่คณิตศาสตร์ 1+1 เป็น 2 เศรษฐศาสตร์มีมุมมองแต่ละคน ที่คุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คุยกันแบบผู้ใหญ่ด้วยความเข้าใจที่ตรงกัน แต่ไม่ใช่เห็นตรงกันทุกเรื่องแต่เราคุยกันด้วยดี เข้าใจซึ่งกันและกัน สำคัญที่สุดอะไรต้องเดินไปข้างหน้าด้วยกัน จีดีพีเฉลี่ย 10 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.8% ถึงเวลาแล้วต้องแก้ไขตรงนี้ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น
เป็นนายกฯไม่มีสิทธิเหนื่อย
นายกฯกล่าวอีกว่า เรามาวันนี้ มาตรงนี้เพื่อจะทำ เรื่องความยุติธรรม ความซื่อสัตย์สุจริตในการบริหารจัดการปัญหา ต้องไม่ให้สังคมมีข้อกังขา พยายามทำให้ดีที่สุด หลายเรื่องต้องพยายามทำไป วันเสาร์-อาทิตย์ รัฐมนตรีหลายคนทำงาน ไม่มีที่จะไม่เห็นความสำคัญเรื่องเหล่านี้ นายกฯไม่มีสิทธิเหนื่อย อาสาเข้ามาแล้วต้องทำ ถ้าเหนื่อยก็พักไม่เป็นไร ทั้งนี้ระหว่างที่นายเศรษฐากำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ได้ขอเวลารับสายโทรศัพท์ ก่อนเปิดเผยด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดีว่า “ต้องรับสายก่อน ลูกโทร.มาจากนิวยอร์ก บอกว่าได้งานใหม่ เงินเดือนดีด้วย จะได้เลี้ยงผมได้” ผู้สื่อข่าวกระเซ้าว่าลูกชายได้งานใหม่ แต่นักข่าวยังทำงานที่เก่า นายกฯจึงตอบว่า “แต่ชีวิตจากนี้จะดีขึ้น”
เร่งท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ตามแผน
นายกฯกล่าวด้วยว่า มีแนวทางแก้ไขปัญหาได้มาก อีอีซีเป็นขุมทรัพย์ของประเทศ สาธารณูปโภคพื้นฐานเกือบทั้งหมด น้ำ ไฟฟ้า ราง ถนน สนามบิน ท่าเรือ พลังงาน ภาษีและสิทธิประโยชน์ต่างๆ เมื่อเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษต้องมาดูจะพิเศษจริงหรือไม่ มีปัญหาติดขัดตรงไหนต้องแก้ให้เป็นรูปธรรม มั่นใจว่าประเทศมีอะไรดีเยอะมาก จึงควรเพิ่มความสนใจการมาลงทุน ถ้าทำโครงการนี้สำเร็จได้จะยกระดับทรัพย์สินของประเทศให้เพิ่มสูงขึ้นได้มโหฬาร วิธีการประกาศเชิญชวนเรามีแน่นอน ผู้เกี่ยวข้องต้องสร้างความมั่นใจว่าทำได้จริง ไม่ใช่วาทกรรมสวยหรู หากตั้งคณะกรรมการย่อยขึ้นมาดูแลจะดีมาก ช่วยทลายกำแพงอุปสรรค
จากนั้นเวลา 11.30 น. นายกฯและคณะไปที่หอบังคับการพัฒนาแหลมฉบัง ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี รับฟังบรรยายสรุปศักยภาพท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 นายกฯกำชับเร่งรัดการดำเนินงานโครงการให้เป็นไปตามแผน เพื่อสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุน และเป็นศูนย์กลางขนส่งของภูมิภาคต่อไป รับทราบว่าการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จะเร่งพัฒนาท่าเรือกรุงเทพให้รองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) ยกระดับสู่ Smart Port รองรับ กทม.เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของไทย จากนั้นนายกฯรับชมพื้นที่โดยภาพรวม
รับไม่ได้ขาดแคลนน้ำกระทบลงทุน
จากนั้นเวลา 13.30 น. นายกฯนำคณะไปที่อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อ.ปลวกแดง จ.ระยองตรวจเยี่ยมและติดตามระบบการบริหารจัดการน้ำรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษอีอีซี โดยนายเศรษฐามอบนโยบายว่า จ.ระยอง ชลบุรีและ จ.ปราจีนบุรี เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ความต้องการน้ำสูงกว่าเขตอื่น รัฐบาลให้ความสำคัญมากที่จะเชิญนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทย เรายอมรับไม่ได้ที่การขาดแคลนน้ำจะเกิดขึ้น รัฐบาลพร้อมจะบริหารจัดการให้ดี อยากให้สื่อสารกับประชาชนดีขึ้น ลดความขัดแย้งแย่งน้ำระหว่างภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม จะกลับมาอีก 60 วันข้างหน้ามาดูการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่ยังไม่ถูกบริหารจัดการ
โชว์หย่าศึก “วงษ์สยาม–อีสท์วอเตอร์”
ต่อมานายกฯรับฟังระบบท่อส่งน้ำในภาค ตะวันออกของพื้นที่ จ.ชลบุรี จ.ระยอง และ จ.จันทบุรี เยี่ยมชมสถานีสูบน้ำหนองปลาไหล มีนายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จากนั้นนายกฯนำตัวแทนบริษัทวงษ์สยามและบริษัทอีสท์วอเตอร์มาจับมือกันยืนยันความร่วมมือต่อสื่อมวลชน ระบุว่าปัญหาที่มีในอดีตได้ตกลงกันเรียบร้อย ทั้งภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม มั่นใจได้ว่าปัญหาจะไม่เกิดขึ้นอีก ในอดีตรัฐบาลพยายามแก้ปัญหาน้ำให้เพียงพอต่อภาคอุตสาหกรรม เราไปเจราจากับต่างประเทศเรื่องไฟฟ้าและน้ำใช้ภาคอุตสาหกรรม ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรามีปัญหาปั๊มน้ำจากแหล่งน้ำต่างๆ และการจัดส่งน้ำที่ภาคเอกชนอาจเข้าใจผิดกัน แต่ได้แก้ไขปัญหาให้เรียบร้อยแล้ว วันนี้เป็นสักขีพยานว่าได้ข้อยุติในความร่วมมือทั้ง 2 ฝ่ายและจบลงแล้ว ทั้ง 2 ฝ่ายยินดีจะทำงานร่วมมือกันก้าวข้ามปัญหาขัดแย้งเรื่องน้ำ นี่ว่าเป็นภาพประวัติศาสตร์ระหว่างรัฐบาลและภาคเอกชน เพื่อให้ความมั่นใจกับนักลงทุน ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต
จากนั้นนายกฯไปที่ศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ ต.แม่น้ำคู้ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง เยี่ยมชมศูนย์พัฒนาฯและพบปะตัวแทนเกษตรและประชาชน รับฟังปัญหาและข้อเสนอการขนส่งและส่งออกทุเรียน การทำถนน
อีก 3 เดือนเดินหน้าอีอีซีเต็มสูบ
ต่อมาเวลา 15.40 น. นายกฯและคณะไปยัง นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 2 (WHA ESIE 2) ต.เขาคันทรง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า มี น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) ต้อนรับและบรรยายสรุป โดยนายกฯกล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลสนับสนุนรถยนต์อีวีอยู่แล้ว ทุกภาคส่วนช่วยกันจน 4-5 ปีที่ผ่านมา ไทยเป็นแหล่งผลิตรถยนต์อีวีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเชียงใต้ ต่อยอดจากรัฐบาลที่แล้วต้องให้เครดิตที่เริ่มพัฒนาให้รถอีวีมาเปิดโรงงานในไทย เรื่องน้ำต้องบูรณาการตรียมแหล่งน้ำให้พอ ใครมาด้อยค่าประเทศไทยว่าน้ำแล้ง ไม่สามารถทำอุตสาหกรรมได้ ขอให้ตอบโต้กลับไปจะมีต่างชาติมาแย่งนักธุรกิจไปลงทุน ขอยืนยันเรามีน้ำเพียงพออุตสาหกรรมในประเทศ อีกไม่เกิน 3 เดือน เราจะประกาศได้เต็มที่ว่าได้ขับเคลื่อนอีอีซีเต็มรูปแบบ จะยกระดับภาคอุตสาหกรรมและชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน คนไทยทุกคนต่อไป จากนั้นนายกฯพร้อมนาย
ธนากร เสรีบุรี รองประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์และประธานบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ ซีพี จำกัดและ น.ส.จรีพร ร่วมลงนามบนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (อีวี) ยี่ห้อเอ็มจี รุ่นเอ็นจี 4 และบนแบตเตอรี่รถยนต์อีวีเป็นที่ระลึก
ผุด คกก.ย่อยทะลุทะลวงปัญหาให้จบ
กระทั่งเวลา 16.18 น. นายกฯให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลต้องให้ความมั่นใจสูงสุดกับนักลงทุน ที่เวลาไปต่างประเทศจะได้พูดเต็มปากว่าพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษนี้ทำงานได้จริง เชื้อเชิญนักลงทุนได้ตรงไปตรงมา ถูกต้องและรวดเร็ว เห็นร่วมกันว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการ ease of doing business in EEC เป็นคณะทำงานย่อย เพื่อให้ทะลุทะลวงปัญหาง่ายขึ้น เชื่อมโยงกับภาคธุรกิจ กระทรวง ทบวงกรมต่างๆ เป็นคณะเล็กมีไม่ถึง 10 คน เพื่อบริหารจัดการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ถ้าทะลุทะลวงปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไขมาประเทศไทยจะเป็นแหล่งลงทุนแหล่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ล้อกับที่ตนจะไปประชุมเอเปกพูดคุยความร่วมมือหลายประเทศและพบปะเอกชนสหรัฐฯกว่า 30 ราย จะมีภาคเอกชนไทยไปด้วย ถือเป็นนิมิตหมายอันดี หวังว่าภายในไม่กี่เดือนนี้จะทำอะไรได้เยอะมาก จากนั้น นายกฯเดินทางกลับ กทม.
“อ้วน” โอ่ 3 เสาหลักดันพรรคแกร่ง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรรมการบริหารชุดใหม่ว่า เป็นทีมแข็งแกร่ง ยิ่งได้หัวหน้าพรรคคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่รู้จักพรรคไทยรักไทยดีที่สุด สัมผัสประชาชน เข้าใจการเมืองมาตั้งแต่สิบกว่าขวบ ผ่านวิกฤติทางการเมือง รับรู้ฝึกฝนความอดทนอดกลั้น ถือเป็นคุณสมบัติเหมาะกับการเป็นผู้นำและผ่านการหาเสียง ผ่านการทำนโยบายเยี่ยมคนจนมาแล้ว เชื่อว่าคนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ รุ่นกลาง ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ที่ทำงานภายใต้จุดยืนตายังคงดูดาว เท้ายังคงติดดิน พรรค พท.หัวใจคือประชาชนจะนำพาพรรคไปสู่มิติใหม่ไปสู่จุดที่ดีขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้พรรค พท.มี 3 เสาหลักคือรัฐบาลคอยทำงานแก้ปัญหาให้ประชาชน พรรคเป็นตัวเชื่อมประชาชนกับฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ รับฟังปัญหาและชี้แจงการทำงาน และฝ่ายสภาฯเป็นกองหน้าปกป้องผลประโยชน์ให้ประชาชน กฎหมายล้าหลังเราจะแก้ อะไรเหลื่อมล้ำเราจะปรับ จะเป็นมิติใหม่ของพรรค พท.ที่ดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน ต้นเดือน ธ.ค.จะสัมมนาพรรคทั้ง 3 ส่วนจะหารือเป็นทางการ ปรับตัวให้ทันสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อร่วมกำหนดทิศทางทำงานให้สอดคล้องกับความต้องการประชาชนมากยิ่งขึ้น
“พีระพันธุ์” ปัดฝุ่นฟื้นสถานียุติธรรม
ที่โรงแรมอัญชาลีน่าแกรนด์ กรุงเทพฯ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นประธานเปิดอบรมสัมมนาตัวแทนสาขาพรรค รทสช. ภายใต้หัวข้อ “สถานียุติธรรม” (ศูนย์ประสานงานรับเรื่องร้องทุกข์ของประชาชน) มีนายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรฯในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค พร้อมผู้บริหารพรรค สมาชิกและตัวแทนสาขาพรรคร่วมกิจกรรมคับคั่ง โดยนายพีระพันธุ์กล่าวตอนหนึ่งว่า เป็นโอกาสดีที่ทุกคนได้พบกันครั้งแรกหลังการเลือกตั้ง หลังช่วยกันทำงานอย่างหนัก มีเป้าหมายเพื่อการทำงานให้กับประเทศชาติและประชาชน ตั้งใจมาตลอดชีวิตและตั้งใจให้เป็นภาพของพรรครทสช.ที่เข้ามาทำงานจริง แก้ไขปัญหาจริง สมัยเป็น รมว.ยุติธรรมกว่า 10 ปีที่แล้ว ได้เห็นปัญหาประชาชนเดือดร้อน ไม่มีที่พึ่ง ไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใคร จึงได้ตั้งโครงการ “สถานียุติธรรม”ขึ้นมา เพื่อให้ชาวบ้านมาร้องเรียนปัญหาเดือดร้อน ขอบคุณ ผอ.พรรคที่นำโครงการนี้กลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
